ผมไม่เข้าใจว่าที่ความเร็ว140 คุณเหยียบครัซ ทำไม ไม่มีความจำเป็นต้องเหยียบครัซ ผมตั้งขอสังเกตุตามนี้
1.ถนน2เลนสวนกัน คุณกดถึง140 เลยหรือครับ ใจกล้ามาก
2.ที่ความเร็ว 140เวลาเบรค ควรกดเบรค ไปเลย เพราะจะมีแรง เอ็นจิ้นเบรค ช่วยในการชลอรถ การเหยียบครัซ จะเป็นการตัดกำลังรถ ทำให้ระยะเบรคยาวขึ้น อันตรายนะครับ
3.ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ ที่ความเร็ว140 ถึงแม้เราจะเบรคแล้ว ความเร็วลดลงก็สามารถ กดต่อไปได้เลยเพราะรถสมัยใหม่แรงบิดมีให้ใช้เหลือเฟือตั้งแต่รอบต่ำ ครับ ต่อให้ความเร็วลดลงเหลือ100 คุณก็สามารถกดต่อไปได้เลย
4.ที่คุณบอกว่าคุณลดความเร็วลง แล้วเชนเกียร์ เครื่องวิเคราะห์จับได้141 แสดงว่า ก่อนหน้านั้นคุณต้องกดมามากกว่า140 แน่นอน
5.รถใส่กล่องดันรางหรือยกหัวฉีดหรือ เปล่าหรือว่าวิ่งลองรถ เพราะเท่าที่ดู รถแค่6000โล ยังไม่พ้นรันอินด้วยซ้ำ แต่คุณกล้ากด ขนาดนั้น แน่นอนจริงๆ รถผม วิ่งมาจะหมื่นโลแล้ว ยังไม่เคย ซัดเกิน120 เลย
เรื่องความเร็วอันนี้มันแล้วแต่บุคคลครับน้า อันนี้ผมไม่ขออกความเห็นใดๆครับ แต่ผมอยากให้น้ามองเรื่องความบกพร่องของตัวรถด้วยครับ ไม่ใช่เอะอะก็จะโทษแต่คนขับ เพราะคนขับแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ ที่จริงควรจะมีระบบป้องกันการเข้าเกียร์ไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่อง และแค่การเปลี่ยนเกียร์ผิดแค่นี้ สำหรับผม ผมว่ามันเปราะเกินไปรึเปล่าครับ
ตัวเก่า 2.5ddi มีน้าในคลับใหญ่เองก็เคยมีคนเปลี่ยนเกียร์ผิดแนวๆนี้มาแล้ว แต่อันนั้นสับ4เพี่อเร่งแซง ความเร็วเป็นร้อยนะครับ แล้วกดผิดจากจะสับไป5 กลายมาเป็นเกียร์3 ปรากฎว่าไฟโชว์ แต่ยังขับได้ จอดทิ้งไว้พักนึงแล้วสตาร์ทใหม่ก็หายเป็นปกตินี่ครับ ไม่เห็นเครื่องจะพังเลย แต่ทำไมตัวใหม่ถึงพังครับ ผมอยากให้มองตรงนี้ด้วย
ลองอ่านดีๆเจ้าของรถเค้าบอกว่า เค้าขับมาอยู่เลน2 ที่140ครับ ไม่ใช่ว่าขับ140บนถนน2เลนนะครับ
ส่วนเรื่องรันอิน มันยังไม่พ้นรันอินตรงไหนครับ รถใหม่เค้ารันอินกันแค่1,000โลไม่ใช่หรอครับ คันที่ผมใช้อยู่เป็นตัวเก่า ผมกดจมคันเร่งตั้งแต่พ้น1,000โลแรกใหม่ๆแล้วครับ ทุกวันนี้จะ5หมื่นโลแล้วยังอยู่ดีมีสุขทุกอย่างครับ ใครกล้ากดไม่กล้าอันนี้ผมไม่รู้นะครับ แต่ความเร็วปกติที่ผมใช้บนถนน4เลนโล่งๆก็130-140เป็นปกติอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นว่าเครื่องจะมีปัญหาอะไร ถ้าเหยียบแค่นี้ตลอดทางแล้วมันจะพัง เค้าคงไม่ทำมาขายหรอกครับ คงจะล็อคให้วิ่งได้แค่100เดียวไปแล้ว
รถคันที่พังนี้ เท่าที่ผมอ่านมา คือรถเดิมๆนะครับ และเค้าก็ไม่ได้วิ่งลองรถครับ เป็นการขับปกติ ถ้าไม่เดิม ไม่งั้นศูนย์คงจะปัดความรับผิดชอบไปแล้วครับน้า
หลายคนหลายความคิดครับผมไม่ได้หมายความว่ารถ วิ่งเกิน100แล้วเครื่องจะพัง รถผมวิ่งร้อย160 มันก็ไม่พังครับ แต่ที่ผมบอก ว่าผมแค่สงสัย ตามความเป็นจริง คุณจะรันอินแค่1000กิโลก็เรื่องของคุณ แต่ผมรันอิน10000 กิโลหรือมากกว่านั้นด้วย เพราะผมอยากจะ มีรถไว้ใช้นานๆ รถคันเก่าผม ที่เปลี่ยนมาใช้ดีแม็กก็เพราะคิดแบบคุณนี่แหละ รันอิน1000 โล กด140-160เป็นประจำ สุดท้าย เครื่องดังเป็นคูโบต้า ในเวลา 2ปี ส่วนเรื่องที่คุณอัด140-150แล้วไม่พังมันก็เรื่องของคุณ ไม่ใช่รถผม ผมคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก 140-160 ก็ขอให้คุณโชคดีทุกครั้งแล้วกันนะครับ
ตามที่เจ้าของ รถแล้วเครื่องพัง ผมไม่ได้หมายความว่าคุณจะวิ่ง 140แล้วพังทุกคัน ถ้างั้น แต่มันอาจจะเกิดจากการขับขี่ ที่ไม่ถูกต้อง ในเมื่อคอมมันจับได้ที่ความเร็ว 141 ในขณะที่ทางเจ้าของรถยืนยันว่าได้ชลอรถแล้ว แน่นอนความเร็วจริงต้องมากกว่านั้น แล้วถ้าถามว่าตามความเป็นจริง คุณเหยียบมาที่150คุณจะเชนเกียร์ไหม ถ้าคุณไม่ลงเกียร์4 มันก็ไม่มีโอกาสที่จะพัง แต่ถ้าคุณกดมาเต็มเหนียว แล้ว ยัดลง4 คุณกล้าไหมละ เป็นผม ผมไม่กล้า เพราะ
1 รถผมไม่ใช่รถแข่ง เครื่องมีโอกาสพังได้ทุกเมื่อ จริงอยู่ครั้งเดียวอาจไม่เป็น แต่ครั้ง2345ไม่แน่ผมไม่เสี่ยง
2.การยัดเกียร์ลงในขณะที่ความเร็วสูง ถ้าถนนลื่นๆ คุณจะหันหัวกลับทันที
3.ถ้าคุณขับ140-150ที่การขับขี่แบบปกติ แล้วเครื่องเกิดพัง แนะนำ เคลมที่ศูนย์เลยครับ เพราะมันเกิดจากการผลิต แต่ในเคสนี้ ยัดลง4ที่ความเร็วขนาดนั้น รอบเครื่อง 5000กว่ารอบ คุณก็ไปเถียงกับทางศูนย์เอาแล้วกัน ครับ ว่ารถ ผลิตออกมา ไม่ทนมือทน เท้า
ดูเหมือนน้าจะเข้าใจอะไรผิดนะครับ ความหมายที่ผมกำลังจะสื่อถึงอยู่คือมันควรจะมีระบบบป้องกันที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ เกิดมีคนเข้าเกียร์ผิดอีก มันไม่พังทุกคันหรอครับ ผมอยากให้น้ามองเรื่องระบบป้องกันของตัวรถประกอบด้วยครับ ไม่ใช่โทษแต่คนขับอย่างเดียว มันไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวหรอกครับ คนขับหลายๆท่านเองก็เคยเปลี่ยนเกียร์ผิดแนวๆนี้มาแล้ว บางท่านเร่งแซงเกียร์4เผลอไปขึ้นเกียร์3 บางท่านหนักกว่านี้อีก มือใหม่หัดขับ ขับอยู่80 แล้วไปเข้าเป็นเกียร์ถอยก็มีครับ แต่เป็นคนละยี่ห้อที่ไม่ใช่all new ก็ไม่เห็นจะพังเลยครับ รึว่าเพราะคันที่พังนี่เป็นall new เลยโทษได้แต่คนขับ โทษรถไม่ได้
ส่วนเรื่องรันอินใครจะมากจะน้อยอันนี้ไม่สนอยู่แล้วครับ รถผมก็รถผม รถคุณก็ของคุณ มันไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว และผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยครับ คุณจะรันอินไปสักแสนโลเลยก็ไม่มีใครว่าอยู่แล้ว อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะครับ ผมแค่ชี้แจงให้ฟังเฉยๆว่ารถปกติทั่วๆไป ช่วงรันอินมันแค่นี้ไม่ใช่หรือ เห็นน้าอ้างว่ารถคันที่พังยังไม่พ้นรันอิน แล้วสรุป6,000โลมันยังไม่พ้นตรงไหนครับ และผมไม่ได้เอาตนเองเป็นที่ตั้ง แต่ผมเชื่อตามที่คู่มือระบุครับ ไม่ได้คิดเอาเอง ถ้าคิดกันแบบน้า งั้นน้าคนอื่นๆที่รันอินกันแค่พันโลแบบผมแล้วลองใช้ความเร็วสูงสุดเลย รถเหล่านั้นคงจะเสียงเครื่องดังให้กราวกันหมดแล้วมั้งครับ ผมว่ามันอยู่ที่การดูแลรักษาและการใช้งานมากกว่านะครับ และที่คุณว่าคันเก่าของคุณแค่2ปีเครื่องดัง ผมว่ามันเกิดจากการที่คุณเหยียบ140-160เป็นประจำนี่แหละครับ จริงอยู่ที่ผมขับ130-140ประจำ แต่มันเฉพาะวิ่งทางไกลและถนนโล่งๆเท่านั้นนะครับ ไม่ได้ทำประจำครับ
และแน่นอน รถคันนี้ก็ไม่ใช่รถคันแรกของผมครับ ก่อนจะมีคันนี้ผมก็เคยใช้3.0ddi ปี05มาก่อนแล้ว ขายทิ้งไปเมื่อปี2011 ก็วิ่งไปเป็นแสนๆโลก่อนจะขายทิ้งไป รันอินแค่พันโลเหมือนกัน ก็ไม่เห็นจะมีเสียงเหมือนคูโบต้านี่ครับ วิ่งไปเป็นแสนโลเครื่องก็ยังเงียบปกติดีจนไปอยู่กับเจ้าของใหม่แล้ว ใครก็อยากมีรถไว้ใช้นานๆกันทั้งนั้นแหละครับ คงไม่มีใครออกรถมาแล้วคิดจะใช้แค่เดือนเดียวหรอกครับ ผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะกดจมอย่างเดียวเป็นประจำ นานๆทีทางโล่งถึงจะเอาสักครั้งนึงพอให้เครื่องมันได้ออกกำลังกายบ้าง ล้างเขม่าในท่อบ้างก็เท่านั้นครับ ให้รถมันเคยชินกับความเร็วสูงๆบ้าง ไม่ใช่ว่าขับแค่100เดียวตลอดเวลา5-6ปี แต่พออจะใช้ความเร็วขึ้นมากลับกลายเป็นควันท่วมถนน แถมเหยียบแล้วอืด เครื่องฝ่อ เร่งไม่ขึ้นซะอีก เพราะไม่เคยได้ใช้ความเร็วสูงๆเลย ผมไม่ได้ตะบันเหยียบอย่างเดียวโดยไม่ดูสถานที่หรือถนนเลยว่าเอื้อรึเปล่า
ส่วนเรื่องโชคดีนั้นผมโชคดีอยู่แล้วครับ ขอบคุณสำหรับคำอวยพร อุบัติเหตุคืออุบัติเหตุครับ ต่อให้คุณขับมา40แล้วเจอรถพ่วงมาตบรถคุณ คุณก็ไม่รอดหรอกครับ อย่าคิดว่าขับช้าแล้วจะโชคดีไม่เกิดเหตุตลอด
เรื่องความเร็วถ้าผมจะลองความเร็วสูงสุดผมคงไม่ไปแค่140-160หรอกครับ ผมไป180-190เลย แต่วามเร็วปกติที่ผมใช้เวลาเดินทางไกลคือ130-140ครับ อ่านให้ดีๆก่อนนะครับ
ส่วนเรื่องของเจ้าของรถผมไม่รู้ว่าน้าได้อ่านจนหมดรึเปล่านะครับ แต่ผมอ่านดูแล้ว เค้าบอกอยู่ว่าเค้าขับมาที่ความเร็ว140 เค้าขับอยู่เลนที่2 ไม่ใช่ขับบนถนน2เลนสวนกัน แล้วมีรถข้างหน้าเบรคกระทันหัน เค้าเลยเหยียบคลัชแล้วปลดเกียร์4ครับ
และรถก็คือรถเดิมๆ ไม่ใช่รถใส่กล่องหรือรถแต่งตามที่น้าพูดมาครับ
แน่นอนครับ ถ้าถามผมผมคงไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้ว แต่มันดูจะพังง่ายไปไหมครับ ปกติความเร็วระดับนี้น่าจะมีระบบป้องกันการเข้าเกียร์ไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่องนะครับ เจ้าของรถเองก็บอกอยู่ว่า ไม่ได้ทำแบบนี้บ่อยๆ ครั้งนี้ครั้งแรก แล้วก็พัง
ส่วนเรื่องเครม ตอนนี้เจ้าของรถเค้าก็รอคำตอบจากทางศูนย์อยู่แล้วล่ะครับ คงไม่ต้องไปยุ่งอะไรหรอกครับ
หัวข้อ: เจอมาซ้ำขออภัย...เชนเกียร์ จาก 5 มา 4 เครื่องพัง Dmax all new 2013 (อ่าน 6441 ครั้ง)
10ม.ค.2013, 10:57:46 
