________________________________________
การสตาร์ทรถ มีเทคนิคนะครับ การสตาร์ทรถที่ไม่ถูกวิธี อาจจะทำให้ขาดการตรวจสอบความพร้อมก่อนการขับรถออกไป
และอาจจะส่งผลต่อ ecu ได้ในระยะยาวอีกด้วย
ปัจจุบันนี้ รถเกือบทุกประเภทจะมีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานในระบบต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า ecu
วิธีสตาร์ทรถที่ถูกต้อง จะต้องบิดกุญแจไปจังหวะแรกเสียก่อน แล้วคนขับจะต้องตรวจที่หน้าปัดดูสัญญาณไฟต่าง ๆ ซึ่งจังหวะแรกนี้ สัญญาณไฟจะติดขึ้นมาให้เราเห็นสักพักแล้วมันจะดับลงไปเอง และเข็มน้ำมันก็จะวิ่งขึ้นมาตามระดับของน้ำมันในถัง
นั่นแสดงว่าเครื่องยนต์พร้อม ecu ก็พร้อมแล้ว เราจึงบิดกุญแจไปจังหวะสองเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ครับ
ระยยะเวลาตรงกระบวนการนี้ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเสียเวลาแต่อย่างใดนะครับ
แต่ถ้าจังหวะแรกของการบิดกุญแจ สัญญาณไฟติด แต่มีสัญญาณบางอย่างไม่ยอมดับ เช่น สัญลักษณ์เครื่องยนต์ติดค้างอยู่
หรือสัญญาณไฟ abs ติดค้างอยู่ ไม่ยอมดับ แสดงว่ามีปัญหาขึ้นกับเครื่องยนต์หรือระบบเบรค abs ไม่ควรบิดสตาร์ทเครื่องในจังหวะสอง
เพราะอาจเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์ได้ หรือถ้าระบบเบรคไม่ยอมดับ การที่เราขับรถออกไปก็อาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ครับ
ถ้าเจอปัญหาอย่างนี้ให้ติดต่อศูนย์บริการเพื่อขอคำแนะนำต่อไปครับ
นี่คือวิธีการสตาร์ทรถที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของรถและคนในรถด้วย และการปฏิบัติเช่นนี้ก็เป็นการถนอม ecu อีกด้วย
ecu จะไม่เสื่อมก่อนเวลาอันควรครับ กรณี ecu เสื่อม อาจจะสังเกตุทันทีไม่ได้ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรมันเสียหรือเสื่อม
ซึ่งบางทีก็อาจจะไปส่งผลต่อระบบเกียร์ในอนาคตก็ได้ครับ โดยเฉพาะเกียร์ออโต ที่จะต้องใช้ ecu ในการประมวลและสั่งการ
ดังนั้นควรฝึกการสตาร์ทรถให้ถูกวิธีจนเคยชินเป็นนิสัยนะครับ
ทริกเล็กน้อยแถมให้ เพราะบางคนก็ไม่ทราบว่า เวลาเราจะไปเติมน้ำมัน จะรู้ได้อย่างไรว่าฝาถังน้ำมันอยู่ด้านไหน ต้องชะเง้อมองในกระจกส่องหลัง ดีไม่ดี ขับรถไปทิ่มตูดคนอื่นเข้าให้
ที่หน้าปัดจะมีบอกนะครับ สัญลักษณ์ปั้มน้ำมันที่หน้าปัด จะมีลูกศรสามเหลี่ยมอยู่ มันหันปลายไปทางไหน แสดงว่า ฝาถังน้ำมันอยู่ด้านนั้นครับ ลองดูที่หน้าปัด ertiga ดูอีกทีนะครับว่ามีหรือไม่ รถบางรุ่นก็ไม่มี แต่ผมคิดว่า ertiga ต้องมีนะ
