ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ  (อ่าน 1721 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tonloss01

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 185
  • คะแนน Like 2
  • ฮิ้วๆ
ออนิวดีแม็กเราใช้น้ำมันเครื่องไหนดีอ่ะ ที่ไม่ใช่ของศูนย์ ไม่ค่อยอยากเข้าศูนย์

ใช้ขับในชีวิตประจำวันกับ ซิ่งๆครับ

ออฟไลน์ tmeyok

  • กำลังสะสมไมล์
  • *
  • กระทู้: 6
  • คะแนน Like 0
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 00:12:13 »
ตอนนี้ของผมกำลังจะใช้ของ PTT ผมเลือกที่เกรด API CI-4

ออฟไลน์ paijit

  • ไมล์ 4001-5000
  • *
  • กระทู้: 4568
  • คะแนน Like 153
  • อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิถนนกิ่งแก้วบางพลี.NDC.529
  • จังหวัด: จ.สมุทรปราการ
  • ชื่อเล่น: จิตร
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 08:28:08 »
มองคาสตรอล
บุญแล้วทูนหัว มีผัวขับ ALL NEW DMAX หน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้ HR cab 2.5 vgs z dvd เงินอาร์กติก NDC.529
Line ID:paijitline

ออฟไลน์ ruampat

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 85
  • คะแนน Like 4
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 09:50:48 »
คาสตรอท edge ดีทีสุดใช้เกือบหมื่น น้ำมันเครื่องไม่พร่องหายเลย

ออฟไลน์ Ton NDC.1330

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 690
  • คะแนน Like 22
  • Hi-Lander 4D 3.0 ZP AT สีทอง NDC.1330
  • จังหวัด: สมุทรปราการ
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 09:57:02 »
คาสตรอท edge อีกหนึ่งเสียง

ออฟไลน์ Mod-Dum®Shop+

  • บริการกันเป็นกันเอง...
  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 8001-9000
  • *
  • กระทู้: 10704
  • คะแนน Like 381
  • จังหวัด: รังสิต-คลองสาม ธัญญ 086-5200520
  • ชื่อเล่น: น้าภพ คลอง3
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 09:58:43 »
ในตลาดมีให้เลือก ลองหาที่ดีๆๆส่วนตัวใช้เอจ โอดี... emo54
กรองแอร์+ฝาปิด Dmax ทุกรุ่น/อุดEGRUro3-4/1.9/Service ทุกระยะ/ตะแกรงกันหิน/โลโก้แดงแท้/Hilanderแท้//AT Meter/ท่ออินเตอร์/ท่อแทนเเคท/คันเร่งไฟฟ้า/Super fast /Remap/ประดับยนต์อื่นๆชมด้านใน-->http://www.newdmax-club.com/index.php/topic,2212.0.html[/color

ออฟไลน์ "ธกร ครับ"

  • Assist. Staff
  • ไมล์ 2001-3000
  • *****
  • กระทู้: 2748
  • คะแนน Like 95
  • "กร"
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 10:04:36 »
Castrol Edge 5w-30 ราคาประมาณ1950ครับ

ฟิตๆไว้นะครับ โยว์ โยว์ /กร

ออฟไลน์ man rubber

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 780
  • คะแนน Like 78
  • อย่ามองเรื่องผิดปกติเป็นเรื่องปกติ
  • จังหวัด: ชลบุรี(อมตะ) - ชุมพร 600 km
  • ชื่อเล่น: ชอบกินทุเรียน แต่กลัวอ้วน
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 10:21:53 »
ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด

1. น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 5000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 8000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ประมาณ 15000 กิโลเมตร

ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเป็นอักษรย่อ SAEแล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลขเช่น 5, 10, 15, 30, 40และ 50เป็นต้น
โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40
ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50

การเลือกน้ำมันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง

ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์
           หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่ายเพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะ สตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้
           หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามากและเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้นจากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์สักหน่อยเช่นจาก 40เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้นสามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
HR.2D 2.5 VGS Z DVD  ทองซาวันน่า

4 สิ่งในโลก .. ที่เงินซื้อไม่ได้ คือ ..
“ความรัก” , “เวลา” , “ชีวิต”, และ “มิตรแท้”

1,274 km น้ำมัน 1 ถังยังเหลือ  ติดตามได้ที่
http://www.newdmax-club.com/index.php?topic=22741.0

ออฟไลน์ Mesawat Damkwan

  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 3001-4000
  • *
  • กระทู้: 3437
  • คะแนน Like 245
  • น้องม้านิลมังกร
  • จังหวัด: ชะอวด เมือง นครศรีธรรมราช ประจำการ กทม. 087-385-9798
  • ชื่อเล่น: น้าวัตต์ NDC. 197 HR. Cab 3.0 VGS Z-Prestige Navi MT (Black) https://www.facebook.com/wattcv
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 10:55:18 »
ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด

1. น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 5000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 8000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ประมาณ 15000 กิโลเมตร

ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเป็นอักษรย่อ SAEแล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลขเช่น 5, 10, 15, 30, 40และ 50เป็นต้น
โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40
ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50

การเลือกน้ำมันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง

ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์
           หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่ายเพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะ สตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้
           หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามากและเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้นจากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์สักหน่อยเช่นจาก 40เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้นสามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
+1 สำหรับขอมูลดีๆ ครับ
ตัวแทนจำหน่ายคันเร่งไฟฟ้า Jumper-Horse Power Speed Raider 5 โหมด และ 12 โหมด กรองแอร์ ตะแกรงกันหิน และโลโก้แดง 087-385-9798 id:mesawat

ออฟไลน์ yai6000

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 800
  • คะแนน Like 157
  • ไม่ว่าอย่างไร ยังจะก้าวไป แม้ไม่เจอสักอย่าง
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 11:05:49 »
เลือกตามงบประมาณเลยครับ

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ Castrol Magnatec 10W-30
ระยะเปลี่ยนถ่าย 8,000-10,000 Km. ถ่ายออก 7 ลิตร พร้อมเปลี่ยนกรอง 1,300 บาท

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ Castrol Edge 5W-30
ระยะเปลี่ยนถ่าย 13,000-15,000 Km. ถ่ายออก 7 ลิตร พร้อมเปลี่ยนกรอง 2,500 บาท

 emo1 emo1 emo1

 

Yai6000 Auto Service.  Tel. 083-846-3089  หมู่บ้านพฤกษาบี คลองสาม คลองหลวง ปทุมธานี
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และของเหลวทุกอย่าง ตรวจเช็คระยะ ซ่อมบำรุงตามวงรอบ เปิดทุกวัน 6.00 - 22.00 น.
https://www.facebook.com/yai6000autoservice  GPS: N14 02.408 E100 40.330

ออฟไลน์ A yu-less Rayong 1180

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 443
  • คะแนน Like 24
  • ไม่เร็ว ไม่แรง แต่ชอบแซงตอนโค้ง
  • จังหวัด: Rayong
  • ชื่อเล่น: A yu-less rayong
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 11:44:07 »
ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด

1. น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 5000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 8000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ประมาณ 15000 กิโลเมตร

ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเป็นอักษรย่อ SAEแล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลขเช่น 5, 10, 15, 30, 40และ 50เป็นต้น
โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40
ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50

การเลือกน้ำมันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง

ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์
           หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่ายเพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะ สตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้
           หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามากและเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้นจากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์สักหน่อยเช่นจาก 40เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้นสามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
+1 สำหรับขอมูลดีๆ ครับ
+1 ครับ ข้อมูล ดี มาก ครับ

ออฟไลน์ นายตั้ม [NDC.129]

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 873
  • คะแนน Like 26
  • 4D HR 2.5 VGS Z เงินอาค์ติก
  • จังหวัด: นครศรีธรรมราช
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 07มี.ค.2013, 12:23:07 »
 emo33 มาเก็บข้อมูล

ออฟไลน์ tonloss01

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 185
  • คะแนน Like 2
  • ฮิ้วๆ
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 08มี.ค.2013, 10:38:23 »
ระยะทางของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด

1. น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา ประมาณ 5000 กิโลเมตร
2. น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ ประมาณ 8000 กิโลเมตร
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ประมาณ 15000 กิโลเมตร

ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นเป็นอักษรย่อ SAEแล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลขเช่น 5, 10, 15, 30, 40และ 50เป็นต้น
โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40
ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50

การเลือกน้ำมันในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง

ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์
           หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่ายเพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะ สตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้
           หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามากและเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้นจากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์สักหน่อยเช่นจาก 40เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้นสามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของเครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
+1 สำหรับขอมูลดีๆ ครับ

+100 เลยครับ

ออฟไลน์ tonloss01

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 185
  • คะแนน Like 2
  • ฮิ้วๆ
Re: เรื่องน้ำมันเครื่องของเหลวต่างๆ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 08มี.ค.2013, 10:43:23 »
แล้ว โมบิล 1 เทอร์โบ ดีเซล ปิคอัพ 5W-40  ดีไหมอ่ะครับน้าๆ emo1