ผู้เขียน หัวข้อ: วัดน้ำมันเครื่อง เรื่องง่ายๆ แต่เข้าใจผิดหรือละเลย  (อ่าน 2005 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ oooo22

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1354
  • คะแนน Like 46
  • โอ NDC.503
เอาเรื่องดีๆมาฝากครับ
ที่มาครับ
http://www.siamsport.co.th/Column/130103_097.html

วัดน้ำมันเครื่อง เรื่องง่าย แต่เข้าใจผิดหรือละเลย !
ถาม

        ติดตามคอลัมน์นี้บ่อย เห็นหลายคนถามได้ความรู้ดีครับ คราวนี้ถามเองเพราะอยากรู้เรื่องที่หลายคนคิดว่าง่ายหรือมองข้ามคือ การวัดน้ำมันเครื่อง จากอดีตแนะนำว่าควรวัดทุกวัน ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครทำถี่ขนาดนั้น รถก็ไม่เห็นพัง ทำไมจึงวัดนานๆ ครั้ง และคุณวรพลแนะนำอย่างไร

        อีกเรื่องคือ วิธีวัด หลายคนบอกว่าควรจอดนานๆ หรือข้ามคืนแล้วค่อยวัด เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับอ่างมากที่สุด แต่ผมว่ามันแปลก หากต้องรอนาน 6-10 ชั่วโมง ถ้าเราอยากวัดหรือช่างอยากวัดหลังเติมแบบฉับพลันจะทำอย่างไร คิดว่าคุณวรพลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถ น่าจะให้คำตอบได้ชัดเจนครับ
ยศเดช/วงเวียนใหญ่

ตอบ

        น้ำมันเครื่องมีความสำคัญต่อเครื่องยนต์มาก เพราะไม่เพียงหล่อลื่น-ลดการสึกหรอ แต่ทำหลายอย่างควบคู่กันด้วย เช่น ระบายความร้อน, ป้องกันสนิม, ลดการกัดกร่อน ฯลฯ ดังนั้นจึงต้องมีทั้งคุณภาพดีและปริมาณเหมาะสม


        คำถามนี้ขอข้ามประเด็นเรื่องการเลือกเกรดคุณภาพน้ำมันเครื่อง เพราะไม่ได้ถาม เน้นเรื่องความถี่และวิธีวัดตามที่สงสัย


        คำถามแรก : ความถี่การวัดน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไป จากอดีตมักแนะนำให้ทำประจำทุกวัน หรือไม่กี่วันครั้ง เปลี่ยนเป็นสัปดาห์ละครั้ง บางคนเป็นเดือนหรือนานกว่านั้น ก็ไม่เห็นเครื่องยนต์มีปัญหา น่าจะเป็นเพราะเมื่อก่อนวัสดุที่ใช้ทำซีลปะเก็นต่างๆ อาจด้อยกว่าปัจจุบัน รวมถึงความห่างของชิ้นส่วนภายใน (เคลียร์แรนซ์) จากการผลิตก็มากกว่า สังเกตได้จากเครื่องยนต์ยุคใหม่ถูกกำหนดให้ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ใสขึ้น จากความหนืดลงท้ายด้วย 40-50 กลายเป็น 30 หรือบางรุ่น 20 ก็มี





        เครื่องยนต์ยุคเก่าเมื่อผ่านการใช้งานมาก ระดับน้ำมันเครื่องอาจลดอย่างรวดเร็ว ทั้งรั่วซึมภายนอก หรือเล็ดลอดสู่กระบอกสูบแล้วเผาไหม้ออกพร้อมไอเสียเป็นควันขาว เป็นที่มาของการแนะนำให้วัดน้ำมันเครื่องบ่อยๆ เพราะเกรงว่าเครื่องยนต์จะพัง เนื่องจากน้ำมันเครื่องขาด ไม่พอต่อการหล่อลื่นและอื่นๆ


        ปริมาณน้ำมันเครื่องมีผลต่อประสิทธิภาพในหลายหน้าที่ น้อยไปก็ไม่พอ มากไปก็สิ้นเปลืองและส่งผลลบที่จะอธิบายต่อ โดยมีปริมาณหรือลิตรมาก-น้อยตามขนาดเครื่องยนต์หรือความจุกระบอกสูบ-ซีซี เพราะเครื่องยนต์ใหญ่ เมื่อมีทั้งอากาศและเชื้อเพลิงในกระบอกสูบพร้อมเผาผลาญเป็นพลังงานมากกว่าเครื่องยนต์เล็ก จึงย่อมต้องการประสิทธิภาพการหล่อลื่นและอื่นๆ มากกว่า


        น้ำมันเครื่องขาด อาจส่งผลให้เครื่องยนต์พัง ส่วนน้ำมันเครื่องเกิน ไม่พัง ถ้าเกินเล็กน้อย ประมาณ 0.5-1 เซนติเมตรของก้านวัดก็แค่สิ้นเปลือง ไม่ส่งผลเสียกับเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้ประโยชน์และเปลืองเงิน เพราะน้ำมันเครื่องในปริมาณขีดบนของก้านวัด ก็เพียงพอหรือเกินพอสำหรับหลายหน้าที่


        ถ้าเกินจากนั้น ระดับน้ำมันเครื่องที่สูงขึ้นในอ่าง อาจถูกเคาน์เตอร์เวตหรือตับเป็ดถ่วงสมดุลข้อเหวี่ยงตีสะบัดกระจายทั่ว ทั้งกินแรงในการตีจนเครื่องยนต์แรงตก และน้ำมันเครื่องอาจกระเซ็นโดนผนังกระบอกสูบมากกว่าปกติ ทำให้แหวนกวาดน้ำมันตัวล่างของลูกสูบทำงานหนัก จนน้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าสู่กระบอกสูบและเผาไหม้เป็นควันขาว น่ารำคาญและสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น


        การใช้งานควรรักษาระดับให้อยู่ช่วงขีดล่าง-บน หรือ Min-Max ของก้านวัดเสมอ ไม่จำเป็นต้องเต็ม แต่การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรเติมให้ถึงขีดบน เพื่อไม่ต้องกังวลว่าจะลดต่ำกว่าขีดล่างหรือต้องวัดบ่อยๆ ในช่วงแรกหลังเปลี่ยน (ระหว่างขีดบน-ล่าง มักต่างประมาณ 1 ลิตร) ส่วนเมื่อใช้งานสักระยะหรือใกล้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องเติมเพิ่มให้สิ้นเปลือง โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องยนต์จะพัง เพราะถ้าไม่ต่ำกว่าขีดล่างก็ใช้งานได้ปกติ


        อย่าเข้าใจผิดว่าต้องมีน้ำมันเครื่องสูงถึงขีดบนเสมอ ไม่อย่างนั้นจะมีขีดล่างทำไม และเมื่อมีทั้งขีดบน-ล่าง แสดงว่าผู้ผลิตเผื่อให้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเติมเผื่อให้เกินขีดสูงสุด นอกจากเป็นรถที่ใช้งานขึ้น-ลงเนินหรือมุมเอียงบ่อย จึงควรเติมให้ถึงขีดบนเสมอ เพราะระดับน้ำมันเครื่องอาจเอียงจนฝักบัวดูดอากาศผสมกันในบางจังหวะ


        ความถี่การวัดระดับน้ำมันเครื่องในปัจจุบัน หากวัดทุกครั้งแล้วพบว่ามีการลดระดับอย่างช้าๆ ตามปกติ (รวม 10,000 กม. ไม่ลดจากขีดบนจนต่ำกว่าขีดล่าง หรือสัปดาห์ละ 1-2 มม.) แนะนำให้วัด 1-2 สัปดาห์ครั้ง หากละเลยก็ไม่ควรเกินเดือนละครั้ง ไม่จำเป็นต้องทำถี่แบบอดีต


        คำถามที่ 2 : วิธีวัด นับเป็นปัญหาใหญ่ในวงกว้าง เพราะหลายคนเข้าใจผิด พร้อมปฏิบัติหรือแนะนำต่อเนื่องมานาน ทั้งที่เหมือนวัดง่ายๆ แค่ดูหรือเติมให้ได้ระดับ


        ประเด็นสำคัญก็คือ ความเข้าใจผิดในวงกว้างฝังลึก ว่าต้องวัดน้ำมันเครื่องหลังดับเครื่องยนต์ไว้นานข้ามคืนหรือหลายชั่วโมง เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับอ่างมากที่สุด หากวัดหลังดับเครื่องยนต์ใหม่ๆ ต้องเผื่อระดับให้เห็นว่าต่ำกว่าปกติเล็กน้อย เพราะน้ำมันเครื่องยังไหลลงไม่หมด


        นับเป็นความความเข้าใจและวิธีผิด เพราะคู่มือประจำรถเท่าที่ผมอ่าน ทั้งญี่ปุ่น-ยุโรป เก่า-ใหม่ รถเก๋ง-รถกระบะ ล้วนระบุให้เครื่องยนต์ทำงานจนถึงอุณหภูมิปกติแล้วดับสักครู่ (น่าจะหมายถึง 1-5 นาที) หรือบางรุ่นระบุเป็นเลข 2, 3 และ 5 นาที อย่างชัดเจน ผมยังไม่เคยเห็นคู่มือประจำรถรุ่นใดระบุให้วัดหลังจอดข้ามคืน


        การวัดแบบนี้ ตรงกับความสะดวกในชีวิตจริง เพราะเมื่ออยากวัด ทั้งเจ้าของรถหรือช่างก็ทำได้ในเวลาสั้น และไม่ต้องกะระดับเผื่อ


        คิดง่ายๆ ว่า หากต้องรอข้ามคืนหรือกว่า 6 ชั่วโมง เมื่อเราอยากวัดทันทีก็ต้องอดใจรอ หรือหลังช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อให้หมุนเวียนเข้าสู่ไส้กรองตัวใหม่จนเต็มแล้วดับ ลูกค้าต้องรออีก 6 ชั่วโมง เพื่อรอวัดระดับอย่างนั้นหรือ ?


        อาจมีรถบางรุ่นแนะนำแตกต่างออกไป ดังนั้นใครใช้รถรุ่นใดก็ควรอ่านและทำตามคำแนะนำของรถรุ่นนั้น


        สรุป : ควรวัดระดับน้ำมันเครื่องทุก 1-2 สัปดาห์ พร้อมสังเกตความผิดปกติของการพร่อง เมื่อใช้งานแล้วไม่จำเป็นต้องเติมเต็มขีดบนเสมอ หากใกล้เปลี่ยนหรือไม่ต่ำกว่าขีดล่าง และต้องวัดหลังจากเครื่องยนต์ทำงานปกติ โดยดับทิ้งไว้สักครู่ 1-5 นาที ไม่ต้องรอข้ามคืน ผมยืนยันตามหลักการที่ถูกต้องในยุคนี้ครับ
โอ NDC.503 hr 4d 2.5 vgs z  ทองซาวันน่า NDC.503

ออฟไลน์ pra

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 883
  • คะแนน Like 29
ขอบคุณครับ emo35

ออฟไลน์ nO_onui

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 90
  • คะแนน Like 4
ขอบคุณค่ะ  emo64
...ความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่การไม่เคยพ่ายแพ้ แต่เป็นการลุกขึ้นได้ทุกครั้งที่ล้มลงต่างหาก^^

ออฟไลน์ BOW-TOM

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 94
  • คะแนน Like 4
  • NDC.600
ขอบคุณค่ะ
Hi-Lander 4D 2.5 VGS Z DVD M/T Black

ออฟไลน์ เด็กวัดหินเทิน

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 509
  • คะแนน Like 18
ขอบคุณครับ
รับรถ 4 ธค 55 รอ 6 เดือน 3วัน HR-4DR 3.0 MT Arctic Silver จอง 30 พฤภาคม 55

ออฟไลน์ NATTAWAT NDC. 870

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 456
  • คะแนน Like 13
  • จังหวัด: นครปฐม - กรุงเทพฯ
  • ชื่อเล่น: ณัฐวัฒน์
ขอบคุณครับ
ืNATTAWAT NDC.870

ออฟไลน์ คนข้างรั้ว

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 549
  • คะแนน Like 24
+1 ไปเลยครับสำหรับข้อมูล emo64 emo64

เปล่า...ผมเปล่าน๊า
เปล่าขับฝ่าไฟแดง
ผมก็มีตา...ตอนขับมาผมก็ดู
ยังไม่แดงใครก็รู้...พึ่งชมพูจางๆ

ออฟไลน์ TunedMinitruck

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 641
  • คะแนน Like 21
  • ALL NEW MONKEY = MC TEC
  • จังหวัด: ชลบุรี
  • ชื่อเล่น: เชน
บริการ รับ โมดิฟาย ซ่อมบำรุงโดย ช่างเทคนิค จาก Isuzu อยู่ พัทยา สนใจ ติดต่อ 086-357-8026 ครับ

ออฟไลน์ tooksum

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 128
  • คะแนน Like 4
ชื่อวรพล เหมือนผมเลย แต่ข้อคิดเห็นของคุณวรพล นี้แปลกๆ หลายเรื่องเหมือนกัน เช่น เรื่องยางรถ
และเรื่องนี้บอกว่า วัดระดับน้ำมันเครื่องหลังดับเครื่อง 1- 5 นาที (คู่มือ all new รู้สึกว่าจะ 30 นาที ) ซึ่งทำในขณะเครื่องร้อนจะไม่เสี่ยงเกินไปหรือ ? ส่วนการวัดบ่อยนี้ดีครับ ผมเห็นด้วย

ออฟไลน์ Mod-Dum®Shop+

  • บริการกันเป็นกันเอง...
  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 8001-9000
  • *
  • กระทู้: 10704
  • คะแนน Like 381
  • จังหวัด: รังสิต-คลองสาม ธัญญ 086-5200520
  • ชื่อเล่น: น้าภพ คลอง3
กรองแอร์+ฝาปิด Dmax ทุกรุ่น/อุดEGRUro3-4/1.9/Service ทุกระยะ/ตะแกรงกันหิน/โลโก้แดงแท้/Hilanderแท้//AT Meter/ท่ออินเตอร์/ท่อแทนเเคท/คันเร่งไฟฟ้า/Super fast /Remap/ประดับยนต์อื่นๆชมด้านใน-->http://www.newdmax-club.com/index.php/topic,2212.0.html[/color

ออฟไลน์ mcclain

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 120
  • คะแนน Like 3
ขอบคุณมาก ๆ ครับ บวก 10 ไปเลย  emo64

ออฟไลน์ newvcross

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 429
  • คะแนน Like 15
ชื่อวรพล เหมือนผมเลย แต่ข้อคิดเห็นของคุณวรพล นี้แปลกๆ หลายเรื่องเหมือนกัน เช่น เรื่องยางรถ
และเรื่องนี้บอกว่า วัดระดับน้ำมันเครื่องหลังดับเครื่อง 1- 5 นาที (คู่มือ all new รู้สึกว่าจะ 30 นาที ) ซึ่งทำในขณะเครื่องร้อนจะไม่เสี่ยงเกินไปหรือ ? ส่วนการวัดบ่อยนี้ดีครับ ผมเห็นด้วย
ถูกต้องครับน้า  ผมเห็นด้วยมาก
จริงๆรถต้องวันข้ามคืนก่อนติดเครื่อง เป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ อ่านดีๆในคู่มือบอกชัดเจนมาก
และถ้าติดเครื่องไปแล้วให้ดับเครื่องอย่างน้อย30นาที

เพราะแบบนี้ช่างที่ศูนย์ถึงเติมเกินทุกคันแหละ

เหตุผลมีคู่มือบางเล่มที่แปลมา แล้วแปลผิด ถ้าอ่านคู่มือ eng-thai เทียบกันจะชัดเจน เคยเจอบางเล่มแปลผิด
ที่ถูกคือ ถ้าไม่ติดเครื่องให้วัดได้ หรือถ้าติดเครื่องให้ดับเครื่องแล้วคอย
แต่มันแปลกลายเป็นว่า ต้องติดเครื่อง5นาทีแล้วดับเครื่อง 30 นาทีแล้ววัด  คนเลยเข้าใจว่าไม่ติดเครื่องแล้ววัดเป็นวิธีที่ผิด ทั้งที่เป็นวิธีที่ดีที่สุด

ออฟไลน์ liveevil37

  • This is anfield
  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 298
  • คะแนน Like 10
  • จังหวัด: อุบล-ศรีสะเกษ
ขอขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้
รับอรุณก่อนใครในสยาม
http://www.newdmax-club.com/index.php/topic,29766.0.html


ออฟไลน์ YOTEWARIT

  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 8001-9000
  • *
  • กระทู้: 8381
  • คะแนน Like 366
  • มิตรภาพไม่มีวันจาง NDC : 555
  • จังหวัด: ชลบุรี
  • ชื่อเล่น: ยศ
แวะมาทักทาย emo64 emo64 emo64