มาแล้วครับ ข้อความในรูป
Shock Absorber
แบรนด์นอก แบรนด์ไทย
มีอะไรที่แตกต่างกัน........
“ความแรง” จัดว่าเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร นับว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคพึงปรารถนาจากรถยนตกรรมสุดรักที่ต้องควักเงินก้อนโตแลกมา ด้วยประการฉะนี้เองส่งผลให้บรรดาค่ายผู้ผลิตต่างต้องเร่งคิดค้นนวัตกรรมที่พร้อมตอบสนองคนอยากได้ของแรงที่ต้องการความเร้าใจที่เหนือกว่าอย่างน้อยก็มีไว้เพื่อคุยข่มเพื่อนฝูงว่า “ของข้ามันแรงจริง” ก็ยังดี ส่วนมีแล้วจะใช้หรือไม่ได้ใช้นั่นก็แล้วแต่โอกาสจะอำนวย
แรงแล้ว......ความปลอดภัยต้องมาคู่กัน
อย่างที่ทราบกันว่าเดี๋ยวนี้ยนตกรรมบ้านเราต้องบอกว่าพกพาแรงม้ากันมาแบบไม่เกรงใจใคร โดยเฉพาะกับพวกบรรดาขาปิคอัพทั้งหลายที่แต่ละค่ายงัดกลยุทธ์ออกมาเอาใจผู้บริโภคแบบไม่เว้นแต่ละวันพร้อมคำโฆษณาสรรพคุณว่าแรงอย่างนู่นวิ่งอย่างนี้ที่ได้ยินกันอย่างหนาหู แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าการทำเครื่องยนต์ให้มีแรงม้าสูงๆนั่นก็เรื่องของความปลอดภัยอันเป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มีหลายครั้งที่เราเห็นบรรดาปิคอัพแรงๆวิ่งออกนอกลู่นอกทางลงไปกินหญ้ากินน้ำอยู่ข้างถนนหรือชั้นหนักกว่านั้นบางคันเอาหลังคาวิ่งก็ยังมี เพราะสิ่งเหล่านั้นล้วนแต่เกิดจากความแรงที่เกินจะควบคุมด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งงานนี้องค์ประกอบมีอยู่ 2 ส่วนอย่างแรกคือ ระดับของคนขับ ต้องประเมินฝีมือตัวเองว่าเหมาะสมกับความเร็วหรือรูปแบบการขับขี่หรือไม่ อย่างที่สอง คงต้องยกเครดิตให้กับช่วงล่าง ถ้าทำงานได้ดีก็ถือว่าโอเค แต่ทั้งนี้ถ้าไม่สามารถจับอาการพยศของฝูงม้าได้ก็คงต้องอัพเกรดกันสักหน่อย
หนึ่งตัวการที่จัดว่าสำคัญยิ่งที่จะช่วยสยบอาการของตัวรถให้เป็นไปตามที่ใจของผู้ขับขี่ต้องการนั่นก็ คือ “ช็อคอับ” ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีพื้นฐานที่ใกล้เคียงกันแทบจะทุกประเภท สิ่งที่เหมือนกันเลยก็คือหน้าที่การช่วยสยบอาการดีดดิ้นของช่วงล่าง ไม่ว่าจะป็นแบบคอยล์สปริงหรือแม้แต่แหนบ ช่วยดูดซับแรงกระแทก เพิ่มความนิ่มนวลและช่วยให้ประสิทธิภาพการขับขี่ดียิ่งขึ้นด้วย
ความแตกต่างของตัวช็อคอับที่เห็นได้ชัดเจนอยู่ที่การปรับเซ็ท ซึ่งทางผู้ผลิตแต่ละลายจะทำออกมาอย่างหลากหลายให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของคนแต่ละกลุ่ม โดยที่ต้องการจัดเซ็ทอัพค่าต่างๆพร้อมการทดสอบการใช้งานจริงเพื่อให้ได้ตามจุดหมายในการใช้งาน ตั้งแต่การขับขี่แบบบ้านๆที่เน้นความนุ่มนวลเป็นหลักหรือจะมีแนวกับกันแบบสุดขั้วกับบรรดาตัวแข่งทั้งหลายที่เวลาเข้าไปนั่งแล้วเหมือนกับกะดานวิ่งไป ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็ถือว่ามีผู้ผลิตช็อคอับแบรนด์ต่างๆ ที่นำเสนอสินค้าสู่ตลาดด้วยจุดขายที่พร้อมดึงดูดใจกลุ่มที่ลูกค้าที่ความแตกต่างกันออกไป โดยจะมีให้เลือกเล่นตั้งแต่ช็อคอัพที่ทำด้วย “สูตรลูกทุ่ง” จากช่างไทยหัวใสหลากหลายสำนักทำกันด้วยขั้นตอน และระบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ส่วนถ้าเป็นพวกของแบรนด์เนมจากต่างประเทศนั้นกว่าจะได้ออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน ต้องมีการคำนวณค่านู่นค่านี่ออกมามากหน่อย รวมถึงขั้นตอนในการทดสอบที่ต้องมีความรัดกุมเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งจะส่งผลให้ราคาค่างวดของมันสูงขึ้นตามมานั่นเอง
สำหรับช็อคอัพที่มีให้เลือกใช้งานกันในบ้านเรานั้นก็เรียกได้ว่าก็มีแทบทุกรูปแบบ ทั้งแบบน้ำมันหรือแม้แต่แก๊สกึ่งน้ำมัน ไม่เพียงแค่นั้นเพราะกับช็อคอัพค่าตัวเรือนแสนบางครั้งยังเพิ่มลูกเล่นนู่นนี่เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นสามารถปรับความหนืดได้หลายระดับ ปรับระดับสูงต่ำได้หรือที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนี้ก็เห็นจะเป็นบรรดาสตรัทปรับเกลียวทั้งหลายที่มีให้เห็นมากมายจนกลายเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นของวัยแลนด์ พ.ศ.นี้ บางยี่ห้อมาแบบ “เหนือกว่า” เพิ่มความสบายให้กับลูกค้า ด้วยตัวปรับความหนืด จากในรถแต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่ต้องบอกว่า “เอาเรื่อง” อยู่เหมือนกันและที่แน่นอน คือประสิทธิภาพการและความสามารถในการทำงานของช็อคอับ เหล่านี้ก็จะแตกต่างกันไป
ความเหมือน..........
ความแตกต่าง........
ว่ากันด้วยเรื่องประสิทธิภาพและลูกเล่นการทำงานของช็อคอับ บ้านเราเริ่มราคากันที่หลักพัน หรือหากยอมจ่ายกันไม่ลืมหูลืมตาเลยก็คงไม่เกินครึ่งของครึ่งแสน ในปัจจุบันนั้นจัดได้ว่ามีเทคโนโลยีรุดหน้ากว่ายุคเก่าก่อนอยู่พอสมควร และเมื่อครั้งอดีตสมัยคุณปู่ยังวัยรุ่น ถ้าใครได้สัมผัสช็อคอับแก็สกึ่งน้ำมันนี้ก็ถือว่าเป็นบุญตูดแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ช่างเก่งๆบ้านเราต้องยอมรับดัดแปลงการได้อย่างระดับเทพ สามารถใส่ลูกเล่นต่างๆเหมือนแบบที่ช็อคอับจากต่างแดนสามารถทำได้หมด นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้สมรรถนะ อันมาพร้อมค่าตัวที่พอหยิบจับกันได้ไม่เหมือนกับของนอก ที่ราคาเบิกใหม่ขี้หมูขี้หมา ก็สามารถซื้อของบ้านเราได้หลายชุด ซึ่งอาจทำกระเป๋าตังค์ที่หนาๆแฟบลงได้ในพริบตา
แต่จริงๆแล้วผู้บริโภคควรจะหันกับมาพิจารณาว่า “ของแพง......มันต้องแพงอย่างมีเหตุผล” ถ้าเอาแค่ชื่อเสียงของแบรนด์อย่างเดียว ป่านนี้ของนอกค่าตัวกระฉูด เขาคงต้องหอบผ้าหอบผ่อนปิดกิจการกันไปหมดแล้ว เนื่องจากในความจริงอย่างจริงที่สุดไม่มีใครอยากจ่ายเงินแพงๆ ถ้ามีของที่ถูกกว่าและดีเท่ากันให้เลือก!!
ความต่างของมันคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับโหงวเฮ้งหรือหน้าตา เพราะเดี๋ยวนี้บรรดาของไทยก็หันมาให้ความสนใจในเรื่องของดีไซน์มากขั้น ทำได้สวยงามเนียนตามากขึ้น ลองศึกษาให้ลึกในรายละเอียดปลีกย่อยแล้วของแพงขั้นเทพมันต้องมีอะไรที่พิเศษ ที่ทำให้ค่าตัวไม่ธรรมดาเป็นแน่
สิ่งแรกของความแตกต่างที่พอมองเห็นด้วยตาก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของ วัสดุที่เลือกใช้ ส่วนมากของต่างประเทศจะใช้วัสดุที่ค่อนข้างเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช็อคอับตามตลาดนัดบ้านเรา แต่นั้นคงไม่ใช้ประเด็นเพราะไฮไลท์ของมันอยู่ที่ ความทนทาน ที่ต้องสามารถรองรับกับภารกิจอันหนักหน่วงได้แบบไม่เกี่ยง โดยเฉพาะกับพวกขาดิสม์ที่ชอบรูดกันแบบไม่เกรงใจช่วงล่าง ถ้ามีโอกาสได้แกะออกมาดูชิ้นส่วนภายใน แล้วคงจะเห็นในอีกหนึ่งความพิถีพิถันของความเป็นแบรนด์เนมที่ส่งให้จุดนี้เป็นอีกหนึ่งข้อที่เหนือกว่า
อีกอย่างที่ดูแล้วแตกต่างกันเห็นได้ชัดหนีไม่พ้น ฟีลลิ่งในการขับขี่ ใครเคยได้สัมผัสแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจริงๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเช็ทอับด้วย ลำพังที่เป็นรถบ้านที่ใช้งานทั่วไปคงไม่รู้สึกถึงความแตกต่างอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าว่ากันถึงบรรดาตัวแรงในสนามแข่งต่างๆแล้วล่ะก็ต้องบอกว่าช็อคอับที่และเป็นหัวใจสำคัญ ที่มีอิทธิพลถึงขนาดที่ว่าเป็นตัวชี้ผลแพ้ชนะได้เลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้เป็นอีกจุดสำคัญที่ช็อคอับบ้านเรายังไม่ได้รับการพัฒนาไปถึงขนาดนั้น ทำให้ช็อคอับแบรนด์เนมยังเป็นที่ถวิลหาของหมู่มวลคนวัยแรงจวบจนปัจจุบัน
ส่วนใหญ่ที่เห็นเป็นตัวชี้ขาดในการเลือกของผู้บริโภคก็คงจะค่าตัวที่ใช้เป็นข้อเปรียบเทียบในการเลือกหาซึ่งเป็นธรรมดาว่าใครจ่ายน้อยก็น่าจะได้น้อย ส่วนใครจ่ายมากก็น่าจะได้มากนี่คงต้องบอกว่าลูกเล่นมีให้เพียบ ส่วนจะใช้ของดีๆ เหล่านั้นได้คุ้มค่าตัวของมันหรือไม่ อันนั้นเป็นอีกประเด็น สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาอีกอย่างก็คือ ความเหมาะสมด้านการใช้งานว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้ของสเป็คเทพหรือเอาแบบธรรมดาๆ ให้เหมาะสมกับการขับขี่ทั่วไป ความต้องการด้านความใช้งานหรือจะแค่เอาไว้คุยและการฉลาดเลือก มิฉะนั้นของแพงอาจจะกลายร่างเป็นของไร้ค่าหรือโดนด่าว่าไม่เห็นดีคุ้มค่าเงิน......ก็เป็นได้
พิจารณาดูนะครับ