ออฟเซ็ต ( Offset , ET ) ล้อแม็ก
คืออะไร ? .... ค่า Offset คือค่าระยะห่าง ระหว่าง เส้นแบ่งครึ่งล้อ ตามแนวขวาง กับ หน้าแปลนของล้อ (Hub Mounting Surface) โดยมีหน่วยเป็น มิลลิเมตร
ค่า Offset ส่งผลอะไรกับรถของเรา ? ค่า Offset จะส่งผลโดยตรงกับระยะหรือตำแหน่งของล้อ ว่าจะยื่นออก หรือ หุบเข้า ไปในตัวรถของท่าน ดังนั้น การเลือกล้อที่มีค่า Offset ที่ถูกต้องเหมาะสมจึงมีความจำเป็น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยทีเดียว
ค่า Offset ของล้อ ที่เราจะพูดถึง โดยปกติระบุเป็น 3 ค่าด้วยกันคือ
ค่าออฟเซ็ต เท่ากับศูนย์ Zero Offset (0)
คือค่า ระยะห่างของ หน้าแปลนล้อ ( Hub Mounting Surface ) ตรงกับ เส้นแบ่งครึ่งของ ล้อตามแนวขวางของล้อพอดี
ค่า ออฟเซ็ต เป็นบวก Positive (+)
คือระยะห่างของเส้นแบ่งครึ่งล้อวัดไปถึงหน้าแปลนล้อโดยมีทิศทางไปนอกตัวรถ วัดได้เป็นระยะเท่าไรนั้นถือค่าเป็นบวก(+) เช่น +20, +30, +38, +45 เป็นต้น ซึ่งมักพบกับล้อที่ใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหน้าเสียส่วนใหญ่
ค่าออฟเซ็ต เป็นลบ Negative (-)
คือระยะห่างของเส้นแบ่งครึ่งล้อวัดไปถึงหน้าแปลนล้อ หรือพูดง่ายๆ ว่าหน้าแปลนของล้อมีระยะเกินเส้นแบ่งครึ่งล้อไปในทิศทางเข้าในตัวรถ วัดได้เป็นระยะเท่าไรนั้นถือค่าเป็น (-) เช่น -5, -10, -20 เป็นต้น ซึ่งรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังมักกำหนดให้ใช้ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซ็ตเป็นลบหรือก็บวกไม่มาก
เรื่องนี้หากมีการเลือกค่า offset ที่ไม่ตรงกับรถนั้นๆ ก็จะมีผลกระทบตามมาเช่นกัน หรือหากมีการเปลี่ยนขนาดความกว้างของล้อ ค่า Offset ก็เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาหรือรู้ถึงค่า Offset สำหรับรถของท่านควรมีตัวเลขอยู่ที่เท่าไร ? เพื่อจะได้ไม่สร้างปัญหาให้แก่ตัวรถของท่าน
เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าล้อของเรามีค่า Offset เท่าไร ?
การดูค่า offset ล้อแม็ก ของเราด้วยตนเอง
โดยปกติ ล้อแม็ก ส่วนใหญ่ จะมีตัวเลขบ่งบอกไว้ที่ตัวล้อเองเลย ซึ่งเรามักสังเกตุเห็น ตัวเลขที่มักจะตามตัวอักษร เช่น " ET 38 " ก็หมายถึง offsET 38 นั่นเอง หรือบางที ก็อาจมีเฉพาะตัวเลขลอยๆ ไม่มีตัวอักษรนำหน้าก็มี เช่น " 45 " ก็หมายถึง Offset = 45 เหมือนกัน ดูตัวอย่าง ที่รูปภาพด้านล่าง
ตัวอักษร แสดงค่า Offset ของ ล้อแม็ก
แต่หากดูที่ล้อแล้ว ไม่ปรากฎ ตัวอักษรหรือตัวเลขดังกล่าว เราก็มีวิธีหาค่า Offset ได้เหมือนกัน แต่ต้องใช้เครื่องวัดและการคำนวณประกอบกัน ซึ่งเราจะนำมาเล่าให้ฟังต่อไป
ตอนต้นเราพูดเรื่องการดูหรือหาค่า Offset ที่ล้อไปแล้ว แต่ตอนนี้ หากเราอยากทราบว่า รถของเรา มาตรฐานเดิมที่ล้อแม็กของเรา มีค่า Offset เท่าไร ? ก็ต้องดูที่ สมุดคู่มือประจำรถ หรือหากไม่มี ก็สามารถสอบถามได้ โดยกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านล่างนี้
และนี่ เป็นค่า Offset ของรถที่ถามกันมาบ่อยๆ เราจึงนำมาบอกกัน
คำถามที่เรามักพบกันบ่อยๆก็คือ
รถผมใส่แมกอะไรได้บ้าง ?
ทำไมเอาแมกขับหน้า มาใส่รถขับหลังแล้วต้องหนุนสเปรเซอร์?
ทำไมรถขับหน้า จึงใส่แมกของรถขับหลังไม่ได้ ?
ทำไม............... ?
ก็อย่างที่เล่าไปแล้วว่า รถขับเคลือนล้อหลังส่วนมาก จะใช้ออฟเซทต่ำๆ คือประมาณ +10ถึง +30 เม่านั้น
ซึ่งถ้าเราแมกที่มีออฟเซทมากๆมาใส่ (ออฟเซทตัวเลขมากคือ แป้นยึดน้อตห่างจากกึ่งกลางความกว้างล้อมากกว่าค่าตัวเลขออฟเซทน้อยๆ)
ก็จำเป็นต้องลองหรือเสริมอแดปเตอร์ ให้ฐานดุมล้อ มีระยะเข้าใกล้จุดกึ่งกลางของความกว้างหน้าล้อ จนถึงระยะ OFFSET ตามสเปคของรถรุ่นนั้นๆ
เช่น เอาแมก offset 40 มาใส่รถที่กำหนดให้ใช้แมก offset 25 เรก็ต้องเสริมสเปรเซอร์ 40-25= 15 มม. จึงจะพอดีกันนะครับ
(ยังไม่พูดถึงความกว้างของหน้าแมกที่จะมีผลต่อระยะห่างในซุ้มล้ออีกเรื่องนึง)
หรือในกรณีที่เราใช้รถขับเคลื่อล้อหน้าที่ถูกกำหนดสเปคมาให้ใช้แมกที่มีค่าออฟเซท +45
แต่ดันเกิดไปถูกใจลายของแมกขับหลัง ที่มีค่าออฟเซท เพียง + 20 ล่ะ จะทำอย่างไรดี Huh?
(ออฟเซท 20 แปลว่าหน้าแปลนดุมล้อ ยืนเข้ามาในแมกจนเกือบถึงเส้นสมมุติกึ่งกลางความกว้างหน้าล้อ หรือห่างจากกึ่งกลางไปเพียง 2 เซนติเมตร)
คำตอบคือ ทำใจ Tongue
เพราะ ค่าออฟเซท 20 ของแมก บวกกับค่ามาตรฐานดุมล้อที่ยื่นออกมาแล้วถึง 45 มันก็จะกลายเป็น 65ทันที
และก็จะเกิดปรากฏการณ์ แมกล้นซุ้มล้อ แบบรถกระบะสมัยก่อน หรือออฟโรด ชอบทำกัน
และถ้ายังฝืนใส่ ก็ต้องไปตีโปร่ง ทำ Wide Body พับซุ้มบังโคลนกันเป็นแถบๆ
เพื่อไม่ให้ยางติดซุ้มนอกเวลาที่โช๊คยุบ ทั้งๆที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นเลย นอกจากเท่ห์
แถมยังมีโทษเพิ่มขึ้นจากแรงเหวี่ยง ที่ไม่ได้เซนเตอร์ หากจุดยึดล้อไม่ดีพอ
[/color][/b]