จากกรณีสังคมออนไลน์ หน้าเพจเฟซบุ๊ก บก.จร. 02 เผยแพร่คลิปวีดีโอ ของเพจชื่อดัง YouLike คลิปเด็ด เรื่องโดนจับข้อหา..'เปลี่ยนล้อแม็ก' (3/12/57) ความยาว 4.12 นาที ที่ปรากฏเป็นภาพของการเขียนใบสั่ง ให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์รายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา จนผู้พบเห็นต่างคลืบแคลงสงสัย เนื่องจากข้อหา "เปลี่ยนล้อแม็ค" ไม่มีในตัวบทกฎหมาย ขณะที่นักกฎหมายหลายคนออกมาให้ความเห็นกันไปต่าง ๆ นานา ว่า ต้องดูที่รถของผู้ถูกกล่าวหาก่อนว่า ผิดหรือไม่อย่างไร ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เกียรติกรทวียศ สว.จร.สภ.เมืองร้อยเอ็ดว่า ต้องถือว่าเจ้าหน้าที่จราจรปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง เพียงแต่เรื่องดังกล่าวอาจมีคนเข้าใจคลาดเคลื่อน ทั้งนี้โดยปกติแล้วการเปลี่ยนล้อแม็คนั้นจริง ๆ สามารถเปลี่ยนได้ และไม่ผิดกฎหมาย แต่ขนาดยาง ความหนาของแก้มยาง วงล้อ ที่เปลี่ยนต้องมีขนาดเดิมตามคู่มือของรถแต่ละรุ่น ในส่วนของการจับกุมรายที่เป็นข่าวคือ รถกระบะเชฟโลเล็ต สีทองคันหนึ่ง ซึ่งได้ดำเนินการตามข้อหาดัดแปลงตัวรถ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถให้ผิดไปจากที่ จดทะเบียนไว้กับเจ้าพนักงานขนส่ง ตามมาตรา 14 พรบ.รถยนต์ หรือจะเปลี่ยนเป็นล้อขนาดอื่นนอกเหนือจากเดิมจะต้องไปขออนุญาต หรือได้รับการอนุญาตจากวิศวกรกรมการขนส่งทางบก ลงนามในเอกสาร และนำใบอนุญาตนั้นติดตัวไว้แสดงเมื่อเจ้าหน้าที่จราจรขอตรวจสอบ
ส่วนการลงบันทึกในใบสั่ง ในข้อหาเปลี่ยนล้อแม็คนั้น จริงแล้วตาม พรบ. มาตรตรา 14 ระบุไว้ว่า ห้ามดัดแปลงตัวรถ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถให้ผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้กับเจ้าพนักงานขนส่ง ถ้าหากเจ้าหน้าที่จะระบุในใบสั่งออกมาอย่างนี้ จะทำให้ดูกว้างมาก เมื่อผู้เสียหายไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่รับคดี หรือเสียค่าปรับที่ สภ.เมือง อาจไม่เข้าใจว่าจุดใดคือสาเหตุที่จับกุมกันแน่ เพราะอาจเปลี่ยนแปลงส่วนอื่นนอกเหนือจากนี้ก็เป็นไปได้ ดังนั้นข้อปฏิบัติของเจ้าพนักงานจราจรจึงลงข้อหาให้ตรงจุดว่า "เปลี่ยนล้อแม็ค" เมื่อฝ่ายรับคดีเห็นในใบสั่งก็จะเข้าใจ และสามารถดำเนินการได้ตามข้อหาที่ระบุได้ทันที
อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นผู้ปฏิบัติอาจไม่ได้อธิบายรายละเอียดในส่วนนี้ จากนี้ไปจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานอย่างรอบคอบ และอาจให้อธิบายทำความเข้าใจกรณีจับกุมข้อหานั้น ๆ แก่ประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก.
ที่มา. dailynews.co.th
[youtube]C-thG4s2BRA[/youtube]