ผู้เขียน หัวข้อ: 4 นิสัย-วัฒนธรรมใช้ถนนคนไทย ที่ควรปรับปรุง  (อ่าน 2068 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ninja noi

  • บุคคลทั่วไป
ทุกวันนี้ที่ยอดรถยนต์ใหม่ต่างจำหน่ายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า นั่นชี้ให้เห็นว่าคนจำนวนมากต่างหันที่จะให้ความสะดวกสบายแก่ชีวิตตัวเองมากขึ้น เช่นเดียวกันกับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเส้นทางเพื่อทำธุระส่วนตัวของตัวเอง

รถที่มากขึ้นและคนที่มากขึ้น แม้จะทำให้บรรดาค่ายรถยนต์แฮปปี้ และทำให้คนไทยอีกหลายๆคนมีงานทำจากอัตราจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทว่าปัจจุบันสังคมบนท้องถนนเมืองไทยกลับก้าวสู่วิกฤติ เมื่อมีคนจำนวนมากต่างใช้รถใช้ถนนอย่างไม่เข้ากฏและการปฏิบัติที่ถูกต้อง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้จากความมักง่ายและไม่ใฝ่รู้ของคน



 

1.ไฟฉุกเฉิน เราเรียกไฟฉุกเฉิน เพราะ หลายคนที่ไม่เข้าใจจะได้รู้ถึงชื่อที่ใช้จริงๆของมัน ไฟฉุกเฉิน หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “ไฟผ่าหมาก” นั้น เป็นไฟที่จะทำให้ไฟเลี้ยวกระพริบ 2 ด้าน ซึ่งมีความหมายให้รถหลังแซงเราขึ้นไป ผิดกับไฟเลี้ยว ที่จะเป็นการขอทาง



ความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของไฟฉุกเฉิน เกิดขึ้นจากนิสัยมักง่ายของคนบ้านเรา บวกกับศัพท์ชาวบ้านที่เรียกว่า “ไฟผ่าหมาก” ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อย เข้าใจผิด คิดว่า การที่เราต้องผ่าน 4 แยก ในยามที่ข้างหน้าเราไม่มีรถนั่น โดยเฉพาะตอนกลางคืน จะต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อ ให้รถที่รออยู่รู้ว่าเราจะตรงไป

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ เนื่องจากไฟฉุกเฉิน ความจริงแล้วคุณจะได้ใช้ใน 2 กรณี คือ 1. เมื่อรถเสีย- ขัด ข้องหรือ มีปัญหา ไม่ว่าจะจอดตายกลางถนน หรือข้างทาง ไฟฉุกเฉิน จะช่วยแสดงตำแหน่งรถที่ตามมารู้ได้ ส่วนอีกกรณีนั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อเราจะเข้าที่จอดรถ การเปิดไฟฉุกเฉินในกรณีนี้ จริงๆไม่ถูกและไม่ผิด แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมากกว่า เพื่อให้รถที่ตามมารู้ว่าเรากำลังรอรถที่กำลังจะออกจากช่องจอดรถ



2.ไฟเลี้ยว กรณีนี้เป็นกรณีใหม่ ที่เริ่มมีหลายคนพูดถึงและเราไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนสอนคนพวกนี้ในการขับรถ พบมากในกลุ่มรถแท็กซี่ และรถรับจ้างอื่นๆ ตามปกติของการใช้ไฟเลี้ยว คือคุณเปิดในทางที่คุณจะไป ยกตัวอย่างเลี้ยวซ้าย <--- ,เลี้ยวขวา ---> ซึ่งจะทำให้รถที่ตามมาด้านข้าง และด้านหลัง รู้ทิศทางที่คุณจะไป



ตามกฏจราจร คุณต้องเปิดไฟเลี้ยวในระยะ 100 เมตร ก็ถึงจุดเปลี่ยนเส้นทาง แต่ในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับสังคมใช้ถนนบ้านเรา คือ เปิดไฟเลี้ยวตรงข้ามกับทิศทางที่จะไป ซึ่งล่าสุดเราเจอเลี้ยวซ้ายเปิดไฟเลี้ยวขวา จนจ๊ะเอ๋เกือบเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งคนขับรถที่ทำพฤติกรรมเช่นนี้ให้เหตุผลว่า รถที่มาทางด้านข้าง (ในกรณี 3 แยก) จะได้เห็นว่าเขาจะออกและทำให้ง่าย ซึ่งความมักง่ายนี่เอง เกือบทำให้เราลงไปกลิ้งอยู่กับพื้นแล้ว

การใช้ไฟเลี้ยวที่ถูกต้องคุณควรให้สัญญาณทางที่คุณไป เพื่อไม่ให้รถที่ตามมาทางด้านหลังสับสน ในกรณี 3 แยกก็ทำแบบเดียวกัน แต่คุณต้องคอยมองกะระยะรถที่ใช้ทาง และออกรถเมื่อเห็นว่าปลอดภัย ไม่ใช่หวังว่าทุกคันจะยอมให้คุณไปได้เสมอ

อีกกรณีที่เราอยากจะฝากไว้เพิ่มเติมคือ ไม่เปิดไฟเลี้ยว ไม่ว่าจะเลี้ยวเข้าซอย หรือไปยังเส้นทางอื่น การเปิดไฟเลี้ยว ล่วงหน้าช่วยให้ผู้ขับคนอื่น รับทราบเส้นทางของเราและทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น การที่คุณไม่เปิดไฟเลี้ยวกรณีเกิดการชนขึ้น อาจโดนข้อฐานขับขี่โดยประมาท ซึ่งทำให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ หากเกิดอุบัติเหตุ

 

3. ช้าชิดขวา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แก้ไม่หายสักทีสำหรับคนไทยที่ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะ เขตต่างจังหวัด หรือเส้นทางระหว่างเมือง ทางด่วน หรือ ถนนที่มีหลายช่องทาง ซึ่งเราจะพบว่า เมื่อรัฐบาลประกาศขับ 90 ช่วยชาติประหยัดน้ำมันนั้น คนไทยก็พร้อมกันช่วยชาติ แช่เลนขวานับเลขต่อม่อสะพานกันเพลินๆ



กรณีขับช้าชิดขวานั้นถือว่า มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ในข้อหากีดขวางการจราจร ถ้าเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถจับคุณได้ในข้อหาดังกล่าว ซึ่งมีคนจำนวนมากไม่ทราบและทำกันเป็นประจำ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ที่ไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้

การขับช้าชิดขวานั้นเป็นเรื่องที่ผิด เพราะตามหลักแล้วหากคุณไม่ประสงค์จะใช้ความเร็วมากนักในการเดินทาง ตามกฏว่าให้ใช้ช่องทางซ้ายมือ ซึ่งแน่นอนว่าจะไปเจอกับรถบรรทุก ทำให้หลายคนเลี่ยงที่จะมาใช้เลนขวา แล้วขับไม่รู้ร้อนรู้หนาวตามใจฉัน พฤติกรรมเยี่ยงนี้ควรปรับเปลี่ยน เพราะถ้าคุณไม่รีบใช้เลนซ้ายเมื่อจำเป็นต้องแซงก็ค่อยออกเลนกลางหรือเลขขวา ด้วยไฟขอทางมาจะดีกว่า การแช่ขวาทำให้การจราจรเกิดความไม่คล่องตัว และท้ายที่สุดอาจลงเอยด้วยอุบัติเหตุ หรือตำรวจจับได้

 

4. ไฟตัดหมอก เรื่องนี้เราเคยพูดถึงไปแล้ว แต่ก็จะมาย้ำเตือนกันอีกรอบ ว่าไฟตัดหมอกควรจะเปิดใช้เวลาที่ทัศนวิสัยไม่ดี เท่านั้น นอกนั้นไม่ควรจะนำมาใช้งาน เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากลำแสงไฟนั้นมีลักษณะเป็นสปอร์ตไลท์ เมื่อมันส่อง แม้จะมีระยะสูงจากพื้นไม่มาก แต่การกระจายแสงที่ดีเลิศ ทำให้มันอาจจะแยงตาสำหรับใครหลายๆ ซึ่งเราแนะนำว่าไม่ควรเปิดใช้ โดยเฉพาะในเขตเมือง



การใช้ไฟตัดหมอกนั้นจำไว้ว่าใช้เฉพาะในยามที่ทัศนวิสัยไม่ดี ไม่เฉพาะเพียงหมอกเท่านั้น แต่หมายถึงการขับในถนนเปลี่ยว ยามฝนตกและอื่นๆอีกมา ที่คุณจะได้ใช้ไฟพวกนี้แน่ ไม่ต้องกังวลว่าซื้อมาแล้วเดี๋ยวจะไม่ได้ใช้


ออฟไลน์ SEKSAN047

  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 8001-9000
  • *
  • กระทู้: 12437
  • คะแนน Like 490
  • น้าเสก E24OQP Tel. 081-926-6369 NDC.158
  • จังหวัด: โซนตะวันออก ระยอง...
  • ชื่อเล่น: ใครๆก็เรียกผมว่า น้าเสก...
ผมคิดว่านิสัยแก้ไม่ยากอ่ะครับ แต่ว่าจะแก้กันหรือป่าวเท่านั้นเอง... emo1 emo33
ก้อขอบคุณข้อมูลครับ... emo35

น้าเสก รับติดตั้งท่อแทนแคท(ยูเลส) ตระแกรงกันหิน-กรองแอร์ อุด+ฝัง EGR (U.3 U.4) โทร.081-926-6369 ...ฮิ

ออฟไลน์ TahMPN

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 50
  • คะแนน Like 0
ถูกใจข้ิอ1 เจอประจำ ยิ่งช่วงหลังๆมานี้พบทุก4แยก ที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร หน่ายใจใครสอนให้ใช้แบบนี้
รอ HR 2D 3.0 ACB

ออฟไลน์ Unknow

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1151
  • คะแนน Like 23
ไม่มีนิสัยผมสักข้่อเลย อิอิ 

emo36

ออฟไลน์ ToRae

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1816
  • คะแนน Like 3
  • เป็นต่อ เชียงใหม่ NDC 445 ครับ
คาใจกับข้อ 3 อะครับ เช่นบนทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์ สำหรับพระราชบัญญัติทางหลวง ฉบับที่ 2 และ 3 พ.ศ. 2542 ที่บอกว่าขับไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมขับที่120 แล้วมีรถมาจี้ตูดบีบแตร ตบไฟจะแซง ทั้งที่เขาทำผิด ขับเกินความเร็วผมจำเป็นต้องหลบให้ไหมคับ และถูกใจข้อ4มากๆไม่ว่าจะเก๋งหรือกะบะเจอเยอะมากเปิดไฟตัดหมอก จะเปิดทำไมไม่รู้เบื่อมากๆพวกนี้
น้องนิว เงินอาร์กติก

ออฟไลน์ Panak_K

  • ไมล์ 6001-7000
  • *
  • กระทู้: 6715
  • คะแนน Like 251
  • อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้าไม่ตายก็หาใหม่ได้
คาใจกับข้อ 3 อะครับ เช่นบนทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์ สำหรับพระราชบัญญัติทางหลวง ฉบับที่ 2 และ 3 พ.ศ. 2542 ที่บอกว่าขับไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมขับที่120 แล้วมีรถมาจี้ตูดบีบแตร ตบไฟจะแซง ทั้งที่เขาทำผิด ขับเกินความเร็วผมจำเป็นต้องหลบให้ไหมคับ และถูกใจข้อ4มากๆไม่ว่าจะเก๋งหรือกะบะเจอเยอะมากเปิดไฟตัดหมอก จะเปิดทำไมไม่รู้เบื่อมากๆพวกนี้
ที่บอกว่าขับไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามกฏหมาย พอเอาเข้าจริง
ทั้งโดนจี้ตูด กดแตรไล่ ปาดหน้า เซ็งชิหายเลยย emo23
สถานะ : Hi-Lander 4D 3.0 VGS Z-Prestige M/T เงินอาร์กติก

ออฟไลน์ ChaOKa

  • กำลังสะสมไมล์
  • *
  • กระทู้: 41
  • คะแนน Like 0
คนละไม้คนละมือเพื่อเมืองไทยครับ
 emo35 emo35 emo35

ออฟไลน์ โต้ง มีนบุรี (NDC.๔๒๘)

  • ไมล์ 3001-4000
  • *
  • กระทู้: 3266
  • คะแนน Like 123
  • NDC.๔๒๘ โต้งครับ
  • จังหวัด: บ้านเกิด สกลนคร บ้าน ผบ. พิจิตร ทำงานที่ กรุงเทพฯ
  • ชื่อเล่น: โต้งครับ
1.ไฟฉุกเฉิน หรือ"ไฟผ่าหมาก"
ตอบ : ตั้งแต่ขับรถมา ก็นับเวลาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว เปิดไม่น่าจะเกิน 10 ครั้ง
2.ไฟเลี้ยว เลี้ยวซ้าย  <----- เลี้ยวขวา ----->
ตอบ : อันนี้ไม่เคยเลยครับ "จะไปทางขวา แล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้าย" "จะไปทางซ้าย แล้วเปิดเลี้ยวขวา"
3. ช้าชิดขวา
ตอบ : คุณจะขับรถตามกฏหมายกำหนด หรือเกินกฏหมายกำหนด เมื่อคุณแซงคันข้างหน้าได้แล้ว คุณต้องชิดซ้ายครับ ไม่ใช่คุณขับตามกฏหมายกำหนดแล้วแช่ขวาตลอด เพราะบางทีคนเรามีความจำเป็นไม่เหมือนกัน หรือเขาอาจจะมีธุระจำเป็นจริงๆก็ได้ครับ หรือบางคนขับรถชอบใช้ควาเร็วก็ปล่อยเขาไปครับ เขาพร้อมที่จะโดนจับปรับ ส่วนคนที่ไม่พร้ิอมจะโดนจับปรับก็ชิดซ้ายไว้ครับ
4. การเปิดไฟตัดหมอก
ตอบ : อันนี้คงแก้ไขลำบากแล้วครับ เพราะมันเป็นสันดานของคนไทยไปแล้วครับ ถ้าเป็นนิสัยยังพอแก้ได้ ส่วนตัวผมเอง รถคันเก่าซื้อมาปี 2006 Hi-2.5 มีไฟตัดหมอกมาครบครันผมก็ยังไม่เปิดเลยครับ ส่วนตัวผมคิดแบบนี้ครับ คนที่ขับรถตอนกลางคืนแล้วเปิดไฟตัดหมอกมีอยู่ 3 ประเภทครับ คือ 1. ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ 2. มีใบอนญาตขับรถถูกต้องตามกฏหมายแต่ซื้อมาครับ 3. อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจคำว่า "ไฟตัดหมอก" มันมีความหมายว่าอะไรใช้ช่วงเวลาไหน คิดอย่างเดียว ถ้ามืดเมื่อไหร่ สวิชท์ไฟในรถมีกี่อัน กูเปิดหมด หรือไม่ได้ปิดสวิชท์ พอเปิดไฟใหญ่หน้ารถติดหมดทุกดวงเลย
  สรุปทั้ง 4 ข้อ ถ้าเป็นนิสัยพอแก้ได้ครับ ถ้าเป็นสันดานแก้ไม่ได้ครับ  emo20 emo20
ไม่ถึง 18 นั่งหน้า   เกิน 25 นั่งหลัง
Hi-2Dr 3.0 ดำ Z-Prestige(กระบะบ้านๆ)

ออฟไลน์ อนนต์ ว.

  • ไมล์ 2001-3000
  • *
  • กระทู้: 2251
  • คะแนน Like 67
  • NDC.141 , VIP.1166
  • จังหวัด: ราชบุรี
  • ชื่อเล่น: "นน" คร้าบ
"ขับช้าชิดซ้าย"ครับ เดี๋ยวจะเอารูป "ป้าย" ข้างทางมาลงให้ชม

ไม่ได้บอกว่าขับเท่าไหร่ครับ แค่ช้ากว่าก็ต้องชิดซ้ายครับ

"ไม่เกิน120"ตีความไม่ผิดหรอกครับ แต่ไม่ครอบคลุมในทุกกรณี

ออฟไลน์ civilcmu

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 144
  • คะแนน Like 0
  • NDC. 320
V-Cross 4D 3.0 VGS Z-Prestige i-GENii A/T เงินเม็กซิกัน

ออฟไลน์ Barnaby

  • ไมล์ 3001-4000
  • *
  • กระทู้: 3217
  • คะแนน Like 80
  • จังหวัด: กทม.
  • ชื่อเล่น: อู๋
จากคนดี

พอมาจับพวงมาลัย ขับรถ กลายเป็นคนเลวไปเลย  emo10 emo10 emo10

 emo7  emo5  emo29  emo39
 emo42


ออฟไลน์ Arts

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 797
  • คะแนน Like 1
เห็นด้วยครับตอนนี้ขับรถใหญ่อยู่ขับลำบากขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ All new

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 243
  • คะแนน Like 4
  • No.NDC 076
 emo7  emo7 เปิดไฟสูงแบบไม่ลดละ..... emo39
V-Cross'''''''''''''''''''''''''''''''''3.0 Ddi VGS Z Prestige M/T


[img]http://image.ohozaa.com/i/2ea/bgAlv.

ออฟไลน์ somjit2511

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 219
  • คะแนน Like 0
emo7  emo7 เปิดไฟสูงแบบไม่ลดละ..... emo39
1.ไฟฉุกเฉิน หรือ"ไฟผ่าหมาก"
ตอบ : ตั้งแต่ขับรถมา ก็นับเวลาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว เปิดไม่น่าจะเกิน 10 ครั้ง
2.ไฟเลี้ยว เลี้ยวซ้าย  <----- เลี้ยวขวา ----->
ตอบ : อันนี้ไม่เคยเลยครับ "จะไปทางขวา แล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้าย" "จะไปทางซ้าย แล้วเปิดเลี้ยวขวา"
3. ช้าชิดขวา
ตอบ : คุณจะขับรถตามกฏหมายกำหนด หรือเกินกฏหมายกำหนด เมื่อคุณแซงคันข้างหน้าได้แล้ว คุณต้องชิดซ้ายครับ ไม่ใช่คุณขับตามกฏหมายกำหนดแล้วแช่ขวาตลอด เพราะบางทีคนเรามีความจำเป็นไม่เหมือนกัน หรือเขาอาจจะมีธุระจำเป็นจริงๆก็ได้ครับ หรือบางคนขับรถชอบใช้ควาเร็วก็ปล่อยเขาไปครับ เขาพร้อมที่จะโดนจับปรับ ส่วนคนที่ไม่พร้ิอมจะโดนจับปรับก็ชิดซ้ายไว้ครับ
4. การเปิดไฟตัดหมอก
ตอบ : อันนี้คงแก้ไขลำบากแล้วครับ เพราะมันเป็นสันดานของคนไทยไปแล้วครับ ถ้าเป็นนิสัยยังพอแก้ได้ ส่วนตัวผมเอง รถคันเก่าซื้อมาปี 2006 Hi-2.5 มีไฟตัดหมอกมาครบครันผมก็ยังไม่เปิดเลยครับ ส่วนตัวผมคิดแบบนี้ครับ คนที่ขับรถตอนกลางคืนแล้วเปิดไฟตัดหมอกมีอยู่ 3 ประเภทครับ คือ 1. ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ 2. มีใบอนญาตขับรถถูกต้องตามกฏหมายแต่ซื้อมาครับ 3. อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจคำว่า "ไฟตัดหมอก" มันมีความหมายว่าอะไรใช้ช่วงเวลาไหน คิดอย่างเดียว ถ้ามืดเมื่อไหร่ สวิชท์ไฟในรถมีกี่อัน กูเปิดหมด หรือไม่ได้ปิดสวิชท์ พอเปิดไฟใหญ่หน้ารถติดหมดทุกดวงเลย
  สรุปทั้ง 4 ข้อ ถ้าเป็นนิสัยพอแก้ได้ครับ ถ้าเป็นสันดานแก้ไม่ได้ครับ  emo20 emo20
+10 emo7