แจ้งเตือน อย่างแรง !!! Isuzu อันตรายครับ
" จากการสืบสวนทราบว่าแก๊งนี้จะโจรกรรมเฉพาะรถกระบะอีซูซุ
ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือบริเวณใกล้เคียง
เพราะรถกระบะมีระบบป้องกันน้อย และสะดวกต่อการขายต่อ
คาดว่าทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง " พล.ต.อ.สมยศ แถลงจับแก๊งลักปิกอัพอีซูซุ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่บช.น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. รรท. ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. หน.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(ศปกจร.น.) พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. หน.ชุดปฏิบัติการ
แถลงผลการจับกุมนายเกรียงไกร เขตกิจ อายุ 38 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ
และนายวีระศักดิ์ อาจหาญ อายุ 28 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา
พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ 3 คัน ได้แก่
1.รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นแพลทินัม สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตม 630 กรุงเทพมหานคร มีหมายเลขทะเบียนที่แท้จริงคือ บบ 8733 สกลนคร โดยแจ้งหายไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 เวลา 07.50 น.
รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน บต 2219 สมุทรปราการ ซึ่งนำรถยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมมาสวมกับซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถซ่อมได้แล้วเสียหายโดยสิ้นเชิง
3.รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ติดหมายเลขทะเบียน ถถ 8157 กรุงเทพมหานคร มีหมายเลขทะเบียนที่แท้จริงคือ ถษ 533 กรุงเทพมหานคร แจ้งหายไว้ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2557 เวลา 16.30 น.
โดยจับกุมนายเกรียงไกรได้ย่านปู่เจ้าสมิงพราย และนายวีระศักดิ์ได้ที่ลานจอดรถ
แฟลตทหารเรือ ถนนสรรพาวุธบางนา
พ.ต.อ.อรรถพรกล่าวว่า ภายหลังจากที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่าขบวนการนี้
มีพฤติการณ์โจรกรรมรถมาจำหน่ายต่อโดยสวมซากรถที่เกิดอุบัติเหตุ
มีนายลิขสิทธิ์ หรือ อึ่ง กันดิษฐ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เป็นคนออกตระเวนลักมาขายต่อให้กับนายเกรียงไกร
คันละ 50,000 บาท และนายเกรียงไกรจะนำไปขายต่อลูกค้าในราคา
คันละ 80,000-90,000 บาท และให้นายวีระศักดิ์ขับรถไปส่งให้ลูกค้า โดยได้ค่าจ้าง
คันละ 5,000 บาท " จากการสืบสวนทราบว่าแก๊งนี้จะโจรกรรม...เฉพาะรถกระบะอีซูซุ
ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล หรือบริเวณใกล้เคียง
เพราะรถกระบะมีระบบป้องกันน้อย และสะดวกต่อการขายต่อ " ผู้ต้องหาสารภาพก่อเหตุมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 คันในระยะเวลา 1 ปี ก่อเหตุทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายลิขสิทธิ์ที่หลบหนีก่อเหตุมาคาดว่าเป็น 100 คัน
เครือข่ายนี้มีกว่า 10 คน บางรายถูกจับกุมแล้วและอยู่ในเรือนจำ
แต่บางรายก็ออกมาแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
ด้านพล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ศปจร.น.จัดทำปฏิทินหมายจับ หรือ The most wanted by ศปจร.น. โดยมีผู้ต้องหา 50 ราย ซึ่งมีการตั้งรางวัลนำจับให้ผู้ที่แจ้งเบาะแสจากชมรมสินไหมยานยนต์ กรมขนส่ง สมาคมประกันวินาศภัยไทย ด้วย โดยในวันที่ 8 ส.ค.จะจัดสัมมนาการโจรกรรมรถยนต์ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป พระราม 9