เรื่องหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง แบ่งเป็น 2 ประเภทครับ คือ ประเภทที่ผสม สาร เทฟลอน หรือ ซิลิโคน(ขายกันมากที่สุดในบ้านเรา) ที่ใช้สารพวกนี้ก็เพื่อไปเคลือบชิ้นส่วนได้อย่างรวดเร็ว พูดอีกอย่างก็คือมันหวือหวาดี ใส่แล้วไม่เกิน 10 นาที่เห็นผลเลย เครื่องนิ่ง เร่งแรง โดยเฉพาะรถเก่า รู้สึกได้เลย แต่ผลเสียก็คือ สารจำพวกนี้ เมื่อเจอกับความร้อนในเครื่องยนต์ แปรสภาพเป็นคราบที่เช็ดออกได้ยากมาก บางส่วนจะหลุดร่อนออกมาเป็นผงเขม่าเมื่อไปผสมกับน้ำมันเครื่องก็จะไปอุดตันที่กรองครับ สารพวกนี้พิสูจน์ได้ง่ายครับ แค่ใส่แผ่นสังกะสีซัก 3 หยดแล้วเผาจนแห้ง ถ้าเช็ดออกก็ไม่ผสมสารครับ แต่ถ้าออกยากก็ผสมสารจำพวกนี้แน่นอน อันตรายครับ
ประเภทที่ 2 ครับ เป็นประเภทที่ พวกนี้เป็นสารสังเคราะห์ 100 %กลุ่มนี้คิดอย่างเดียวครับคือ จะทำอย่างไถึงจะลดค่าแรงเสียดทานได้ นั้นคือจะต้องมีสภาพการหล่อลื่นตลอดเวลา โดยที่ความร้อน ความดัน จะต้องไม่มีผลต่อน้ำมันหล่อลื่น จากการวิจัยจึงพบว่า จะต้องใช้หลักการของการเคลือบและการซึมเข้าไประดับ micron จึงจะสามารถ ลดแรงเสียดทาน(friction)ได้มากที่สุด ผลจากการลดแรงเสียดทานก็คือ ความร้อนลดลง การส่งกำลังดีขึ้น การสั่นสะเทือนน้อยลง และในท้ายที่สุดคือการประหยัดน้ำมัน การพิสูจน์ของประเภทนี้ง่ายกว่าครับ แค่เท่ใส่แก้วน้ำครับ น้ำมันจะต้องจมหมดครับ สารสังเคราห์ 100% แท้จะต้องหนักกว่าน้ำครับ และจากหลักการนี้ เมื่อเป็นสารสังเคราะห์ บริสุทธิ์ จะต้องเข้ากับน้ำมันชนิดใดๆก็ได้ มันจึงสามารถใช้กับ เครื่องยนต์ เฟืองท้าย พ่วงมาลัยเพาเวอร์ คอมแอร์ ยกเว้นระบบเบรกครับ และรถเก่าเครื่องแก่ใช้ไม่ได้ครับ เพราะมันหลวมจนไม่มี friction ให้ลดแล้วครับ ผมใช้ประเภท2 นี้มา6-7ปีแล้วครับ