สวัสดีครับ
พอดีเปิดดูไปเลื่อยเปื่อย แล้วดันมาเจอกระทู้นี้พอดี
พอดีผมพอจะมีความรู้อยู่บ้างเลยอยากแชร์
ผมว่าท่านๆทั้งหลายต้องรู้จักก่อนว่า กะโปกท้าย ขอรถเรานั้นมันมีไว้ทำอะไร
มันก็คือ เฟืองท้าย Differential . . . ที่มาของมันละ
โดยปกติแล้วเจ้าน้องกระบะเรานั้น จะขับ 2 ล้อหลัง โดย
เครื่องส่งกำลัง >> ครัช >> เกียร์ >> เพลากลาง >> เพลาท้าย
ถ้าเราไปดูรถสามล้อเด็ก ที่ล้อหลัง ถูกยึกติดกัน บนเพลาเดียวกัน ทำให้มันมี รอบ(การหมุน)เท่ากัน
เวลาที่วิ่งทางตรงมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับท่าน เพราะล้อมันต้องวิ่งเท่าๆกันเพื่อให้รถวิ่งไปตรงๆ
แต่พอมาถึงเวลาเข้าโค้ง
ขอให้ท่านนึกถึงตอนเด็กๆ วันลูกเสือที่มันมีสวนสนาม อาจารย์จะคอยมาสั่งว่าให้คนที่อยู่ด้านใน ซอยเท้าอยู่กับที่ และให้คนที่อยู่วงนอก ซอยเท้าไวๆ มันก็จะเดินไปได้เป็นระนาบเดียวกันจิงไหมครับ
เอาละทีนี้มาต้องที่เฟืองท้าย หน้าที่ของมันก็สำหรับเวลาเข้าโค้งนี่ล่ะครับ
คือเวลาเลี้ยวซ้าย ความเสียดทานที่ล้อซ้ายจะสูงกว่าที่ล้อขวา ก็จะทำให้ล้อซ้ายหมุนช้าลง และล้อขวาหมุนเร็วขึ้นเพื่อทำให้เกิดสมดุลแรงภายใน
ในทางกลับกัน ก็คือถ้าเลี้ยวขวา ล้อขวาก็จะหมุนช้าลง แต่ล้อซ้ายจะหมุนเร็วขึ้น
ถ้าไม่เข้าใจก็ลองชมวิดีโอนี้ดูนะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=K4JhruinbWcเอาล่ะมาต่อที่ เต็ด กับ ดิฟล็อค ทำไมถึงมี และ ต่างกันยังไง
ถ้าโดยปกติที่เราวิ่งบนท้องถนนเรียบๆมันก็ไม่ต้องมีอะไรมากกว่านี้แล้ว เพราะมันไม่ต้องใช้อะไรเพิ่มแล้ว
แต่เราก็มักจะไปเจอกรณีพิเศษ (Event ละทึกใจ)
รถสุดที่รัก "ติดหล่ม"
เวลาที่รถติดหล่ม ล้อนึงจะสัมผัสพึ้นอยู่ อีกข้างจะอยู่ในหลุมเป็นดินเลน เหลวๆ หรือเป็นน้ำเลย เทียมได้กับลอยในอากาศ
ล้อที่ลอยในอากาศ จะมีไม่ความเสียดทานเลย แต่ในขนะเดียวกัน ล้อที่สัมผัสพื้นก็มีความเสียดทานมากเหลือหลาย เฟือยท้ายมันก็จะไปปั่นล้อที่อยู่ในหล่มที่ไม่มีความเสียดทานเลย ถามว่า. . . รถจะวิ่งออกจากหล่มมั้ยครับ คำตอบคือดิ้นไงก็ไม่หลุด เพราะรถเราเองก็วิ่งได้เพราะความเสียดทานที่ล้อมีต่อถนน เมื่อไม่มีความเสียดทาน รถก็ไม่วิ่ง
ดังนั้นจึงมีการคิดค้นระบบที่ทำการ "ยึด" เพลาท้ายทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกัน (ทำให้รอบของล้อซ้ายและขวาเท่ากัน) นั่นก็คือ ลิมิเต็ด สลิป(เรียกสั้นๆว่า เต็ด) และ ดิฟเฟอเรนเชี่ยล ล็อค (Differential Lock หรือ Diff Lock)นั่นเอง
ความต่างของมันเป็นไง
เริ่มที่เต็ดกันก่อน
เต็ด เท่าที่ผมรู้ มีแบบ แอคทีฟ(Active) และ พาสซีฟ(Passive)
Passive คือทำการล็อคเพลาซ้ายขวา ตลอดเวลา เวลาเข้าโค้ง ล้อดังเอี๊ยดๆ ยิ่งกว่านันยางตลอดเวลา
และแน่นอน ดอกยางสึกอย่างรวดเร็ว
Active เป็นแบบ ล็อคเพลาซ้ายขวา เมื่อท่านเหยียบคันเร่งเท่านั้น คือพอปล่อยคันเร่งมันก็จะกลับมาเป็น เฟือยท้ายธรรมดา เวลาเข้าโค้งท่านก็มานั่งปล่อยคันเร่งเพื่อไม่ให้ยางสึก
สำหรับเต็ด จะต้องใช้น้ำมันเฟืองท้ายแบบพิเศษสำหรับเต็ดด้วยนะครับ (เท่าที่ผมรู้)
และสำหรับ ดิฟล็อค
คืองี้ครับ ดิฟล็อคที่ติดกันมันมีกลไกแบบเมคานิคชุดนึง เวลาที่เกิดความต่างของรอบ ระหว่างล้อซ้ายกับขวา
ถึง 100รอบ (สำหรับไอ้ G80 Diff Lock ของ โคโรลาโด้) ล็อคจะทำงาน ยึดเพลาซ้ายขวาเข้าด้วยกัน
ท่านสามารถใช้น้ำมันเฟือยท่ายแบบปกติได้ (เท่าที่ผมรู้)
ข้อเสียของดิฟล็อคคือ เวลาที่มันทำงาน(ล็อค) และเลิกทำงาน(ปลดล็อค) มีเสียงดัง ดวบคุมไม่ได้
จึงมีการทำล็อคแบบไม่ออโต้ขึ้นมาด้วย (เลือกจังหวะล็อคได้)
สำหรับเท่าที่ผมรู้ก็มีเท่านี้ล่ะครับ
ท่านใดมีความรู้ก็เชิญมาแชร์ด้วยนะครับ