มหกรรมรถคันแรกคาดยอดขาย 3 พันคัน
มหกรรมรถคันแรก มั่นใจตลาดรถยนต์เติบโต ดันยอดขายในงานทั้งรถใหม่และมือสองทะลุ 3 พันคัน
ด้านอีซูซุเชื่อปีนี้ยอดรวมทะลุล้านคัน นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานบริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด ประธานจัดงาน มหกรรมรถคันแรก ครั้งที่ 1 หรือ First Auto Show Thailand 2012 (FAST) ที่ไบเทค บางนา เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ปีนี้จะกลับมาเติบโตที่ดีอีกครั้ง หลังจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเชื่อว่ามหกรรมรถคันแรก ซึ่งเป็นงานจำหน่ายรถงานแรกของปีจะได้รับการตอบรับจากลูกค้า ที่กำลังต้องการซื้อรถ โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรวม 3,000 คัน แบ่งเป็นรถใหม่ 1,000 คัน และรถมือสอง 2,000 คัน
"เราไม่ได้วางให้มีแนวคิดเหมือนกับงานแสดงรถงานใหญ่อย่างบางกอก มอเตอร์ โชว์ หรือว่า มหกรรมยานยนต์ แต่เป็นงานที่ให้ผู้จำหน่ายรถนำมารถมาให้ลูกค้าเลือกทั้งรถเก่าและรถใหม่ การตกแต่งบูธก็ไม่ต้องลงทุนมาก การจำหน่ายบูธเริ่มตั้งแต่ราคาหลักหมื่นบาทสำหรับกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่ง ส่วนบูธที่แพงสุดประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำมากหากเทียบกับงานทั่วไป โดยบริษัทใช้งบลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านบาท"
นายพัฒนเดช กล่าวว่า หากปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดี งานในปีต่อไป ก็จะยังคงแนวคิดเดิม คือ มีทั้งรถใหม่และรถมือสอง ไม่เพิ่มขนาดงานจากปีนี้ที่มีพื้นที่รวมประมาณ 1 หมื่นตารางเมตร
สำหรับงานปีนี้มีรถใหม่เข้าร่วม 18 ค่าย และผู้ประกอบการรถมือสองกว่า 20 ราย โดยงานจะมีไปจนถึงวันที่ 4 มี.ค.นี้
ด้านนายฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด ซึ่งเข้าร่วมงานด้วย กล่าวว่า บริษัทไม่ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนยอดขายเช่นเดียวกับการร่วมงานอื่นๆ แต่ก็เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากตลาดรถยนต์อยู่ในช่วงการเติบโต และคาดว่าตลาดรวมจะมียอด 1 ล้านคัน โดยอีซูซุตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดปีนี้ 20% หรือประมาณ 2 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 1.3 แสนคัน ขณะที่ตลาดส่งออกจะอยู่ที่ 5 หมื่นคัน
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคของค่ายรถขณะนี้ คือ การผลิตที่ยังทำได้ไม่เต็มที่หลังประสบภัยน้ำท่วม โดยในส่วนอีซูซุ คาดว่าจะกลับมาผลิตเต็ม 100% ช่วงปลาย มี.ค. และเมื่อรวมกับโรงงานใหม่ที่เกตเวย์ ซึ่งลงทุน 6,500 ล้านบาท และจะเริ่มการผลิตได้ เดือน ต.ค.ทำให้สามารถผลิตได้ 2.5-3 แสนคัน เพียงพอต่อการรองรับทั้งตลาดในประเทศและส่งออก
นายนาคางาวะ กล่าวว่า แม้ไทยจะยังมีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม แต่ก็เชื่อในแนวทางป้องกัน รวมถึงในส่วนของบริษัทและผู้ประผลิตชิ้นส่วน โดยอีซูซุได้ประชุมร่วมและให้ชิ้นส่วนเสนอแผนป้องกัน เช่น การหาแหล่งผลิตทดแทน หรือการนำเข้าชิ้นส่วนทดแทน เป็นต้น
"เรายังยืนยันว่าจะไม่ย้าย ไม่หนีไปไหน เรามีการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงย้ายศูนย์อาร์แอนด์ดีมาไทย ขณะนี้ มีพนักงาน 250 คน โดย 200 คน เป็นคนไทย เป็นการยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทย และในอนาคตก็จะเป็นศูนย์กลางของ เออีซี ที่อาจจะมีการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนระหว่างกันในอาเซียน" จากลิ้งค์นี้เลย ข่าวของกรุงเทพธุรกิจ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/auto-mobile/auto-mobile/20120301/439221/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2-3-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99.htmlขอให้ได้รถกันเร็วๆครับ (ผมก็อยู่ในนั้น) 
