*** เทคนิคและการดูแลรักษาใบปัดน้ำฝน...
ที่ปัดน้ำ ฝนเป็นอุปกรณ์หนึ่งซึ่งสำคัญกับความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ โดยเจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะละเลย และไม่นึกถึง จะมาเห็นความสำคัญเมื่อตอนที่เจอฝน ซึ่งตอนนั้นอาจจะสายเกินไป ส่วนประกอบสำคัญของที่ปัดน้ำฝนที่ต้องดูแลสภาพค่อนข้างสมำเสมอ เนื่องจากมีการเสื่อมสภาพหลังจากที่ผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่ง คือส่วนโครงและใบปัดน้ำฝน ซึ่งโดยทั่วไปมักจะมีคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนดังต่อไปนี้
1. ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนเมื่อไร...
เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ควรทำการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้เนื่องจากใบปัดน้ำฝน โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและวัสดุที่ใช้ในการผลิต
2. รู้ได้อย่างไรว่าที่ปัดน้ำฝนหมดอายุการใช้งาน...
เมื่อผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่งแล้วที่ปัดน้ำฝนจะมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง ซึ่งอาจทำให้ไม่ปลอดภัยเวลาขับขี่ โดยมีอาการหลายอย่างที่บ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของที่ปัดน้ำฝนได้แก่ ใบปัดเป็นรอยทำให้ปัดน้ำได้ไม่หมด,ใบปัดสะดุด,มีเสียงดังเวลาปัดและใบปัดฉีกขาด
3. ถ้าที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยได้ใช้งานเรามีความจำเป็นในการเปลี่ยนหรือไม่...
ถึงแม้ว่าไม่ค่อยได้ใช้งานใบปัดน้ำฝนก็ยังต้องรับกับสภาวะต่างๆนอกรถ เช่น แสง UV และความร้อนจากแสงแดดหรือมลภาวะ ฝุ่นต่างๆทีมีผลกระทบกับประสิทธิภาพการทำงานของใบปัด ซึ่งทำมาจากยาง ทำให้เรามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนตามอายุการใช้งานเพื่อความปลอดภัย
4. ขนาดของใบปัดน้ำฝน...
รถแต่ละรุ่นจะใช้ใบปัดน้ำฝนขนาดที่แตกต่างกันในการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนจึงควรจะดูขนาดที่ระบุอยู่ในคู่มือของรถรุ่นนั้นๆ หรือสามารถเทียบดูรุ่นรถที่ระบุไว้บนกล่องใบปัดน้ำฝนได้เช่นกัน
*** ในกรณีที่ติดใบปัดผิดขนาด ถ้าเล็กไปจะทำให้รัศมีในการปัดน้อยลงทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี ถ้าใหญ่ไปใบปัดอาจจะเลยขอบกระจกทำให้ใบปัดเสียและอายุการใช้งานน้อยลง
5. การทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน...
เพราะว่าใบปัดน้ำฝน จะมีหน้าที่ปัดสิ่งสกปรกออกจากกระจกไม่ว่าจะเป็นฝุ่นหรือคราบต่างๆทำให้สิ่งเหล่านั้นอาจเกาะอยู่บนใบปัดทำให้ใบปัดไม่สะอาด ซึ่งเราสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำแล้วรูดไปตามใบปัดไม่ควรใช้สารเคมีใดๆโดยเฉพาะผงซักฟอก เพราะจะทำให้ใบปัดและสีของรถเสียหายได้
ที่มา
http://bit.ly/JOOqOT