ประโยชน์ของการเติมไนโตรเจนในยาง
เอาละครับ ผมก็ขอพูดถึงเฉพาะส่วนที่เอามา เติมแทนลมยางปกติ ก็แล้วกันนะครับ จริง ๆ การเติมไนโตรเจนในยาง มันไม่ใช่เรื่องใหม่น่าตื่นเต้น เพราะมีการเติมในยางกันมานานนมแล้ว แต่ก่อนจะนิยมเติมกันใน อากาศยาน และ รถแข่งสูตร 1 กันมานาน เพราะพวกนี้ต้องใช้ความเร็วสูงมาก จึงต้องการไนโตรเจนที่รักษาแรงดันลมยางได้เสถียรที่สุด และปัจจุบันก็ได้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับ รถยนต์นั่งทั่วไป หลายคนคงตั้งคำถามในใจว่า มันได้ประโยชน์จริงหรือ ซึ่งก็จำแนกได้โดยหลัก ดังนี้
ไนโตรเจนไม่ติดไฟ = ไม่ระเบิดด้วยตัวเอง
นี่แหละ เป็นประเด็นที่คนกลัวกันไปเองมากมายนัก ที่ผมบอกไปข้างต้น ได้ยินว่า ไนโตร ก็คิดถึง ระเบิด มันคนละเรื่องกันคร๊าบบบบ พี่น้องทั้งหลาย ตัว ไนโตรเจน มันไม่ติดไฟ และไม่ก่อเกิดให้ไฟติด เรียกว่าทำปฏิกิริยากับไฟได้ยาก จึงไม่ต้องห่วงว่ามันจะทำให้ระเบิด ของพรรค์นี้ถ้าไม่จริงใครจะกล้านำมาใช้ละครับ ไม่งั้นก็คงระเบิดร้านยางกันไปแล้ว ส่วนอากาศปกติ จะมีปริมาณออกซิเจนอยู่ 1 ใน 5 ส่วน ที่อุณหภูมิเท่ากัน โอกาสที่อากาศจะติดไฟมีมากกว่า
คุ้มหรือไม่ที่จะเสียเงินเติม
โดยปกติ เมื่อคุณต้องการเติมไนโตรเจนในยาง ก็ต้องขับรถเข้าไปในพวกศูนย์บริการยางที่รับเติมไนโตรเจน จะมีป้ายบอกไว้ ค่าบริการในการเติมครั้งแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาท ต่อยาง 4 เส้น ที่ต้องบอกว่าครั้งแรก เพราะเขาต้อง ถ่ายลมยางเดิมออกให้หมด แล้วค่อยเติมไนโตรเจนเข้าไป เพื่อให้มีความบริสุทธิ์มากที่สุด ส่วนการเติมครั้งต่อไป หมายถึง การเติมเฉย ๆ นะครับ ไม่ใช่การเปลี่ยนถ่ายแบบหมดไส้หมดพุง ก็จะเติมฟรี บางทีก็จะเติมฟรี 6 เดือน โดยมีสติกเกอร์ บันทึกวันที่เติมครั้งแรก ติดข้างเสากลางของตัวรถ มันก็ไม่แพงนะครับ ส่วนตัวผมก็นิยมใช้ไนโตรเจนในรถที่บ้าน คันที่จำเป็นต้องเดินทาง หรือใช้ความเร็วสูงสักหน่อย ซึ่ง ให้ความรู้สึกที่ดี อย่างที่เขาว่ามาจริง ๆ ไม่งั้นผมก็คงไม่เติมเป็นแน่ เพราะไม่ชอบทำอะไรตามกระแสที่มันไม่ดีจริง ส่วนจะเติม ด้วยแรงดันเท่าไหร่ดี ก็อาศัยค่า จากบริษัทรถยนต์ ที่กำหนดมา ให้ใช้กับรถรุ่นนั้น ๆ หรือด้วยหลักเกณฑ์ อย่างที่บอกไปในบทความครั้งก่อนนั่นเอง
แล้วถ้าไม่อยากเติมล่ะ จะมีผลเสียอะไรไหม
มันก็แล้วแต่ท่านครับ ไม่มีใครบังคับ ให้ท่านต้องเติมหรอก มันเป็นเพียง ทางเลือก เท่านั้น จริง ๆ แล้ว การเติมลมยางธรรมดา มันก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร คนก็เติมกันเยอะแยะ เพียงแต่ว่า ไนโตรเจนมีคุณสมบัติดีกว่า ก็เท่านั้นเอง ถ้าท่านคิดว่า ไม่ซีเรียสอะไรกับรถนัก ไม่ได้ขับเร็ว ไม่ได้ขับไกล ใช้งานปกติในเมือง ไม่ได้ไปออกทางไกลที่ไหน ก็เติมลมยางธรรมดาไปเถอะครับ ไม่ต้องไปเสียเงินก็ได้ เพียงแต่ว่า อย่าเติมลมยางที่มีน้ำปนมามาก และ รักษาแรงดันลมยางให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ก็เพียงพอแล้ว
ไม่ควรเติมลมยางปกติ ผสมกับไนโตรเจน
บางทีเวลาวัดแรงดันลมยางแล้วมันพร่องไป บางคนอาจจะใช้วิธีการเติมลมธรรมดาเข้าไปปนกับไนโตรเจน จริง ๆ แล้วในทางปฏิบัติก็ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะการขยายตัวของทั้งสองชนิดนี้ไม่เหมือนกัน มันก็คงพอได้ หากเติมไปด้วยปริมาณที่เท่ากันทุกล้อ แต่ถ้าไม่เท่ากัน ผิดกันมาก ๆ ก็จะทำให้ แรงดันลมเวลารถวิ่งปกติในแต่ละล้อไม่เท่ากัน ก็เป็นได้ ทางที่ดี ก็ควรไปเติมไนโตรเจนกลับอย่างเดิม ก็กลับมาเรื่องเดิม หมั่นเช็คแรงดันลมยางสม่ำเสมอ แต่ถ้าเกิดจำเป็นต้องเติมลมยางปกติเข้าไปจริง ๆ ก็เติมได้ครับ ไม่ซีเรียสอะไรคอขาดบาดตายขนาดนั้น
ผลคุ้มค่าที่ได้ อาจจะไม่ได้เป็นตัวเงินที่ชัดเจนนัก แต่ในระยะยาว ด้วยคุณสมบัติก็ดีกว่าลมยางทั่วไปพอสมควร แต่ที่ได้แน่ ๆ คือ ฟิลลิ่งของยางที่ดีกว่า ทั้งในด้านความนุ่มนวล และการยึดเกาะถนน ทั้งนี้ มันคงไม่เชิงอุปทาน แต่มันเป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ บริษัทยางก็ให้คำแนะนำในการเติมไนโตรเจนไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้อง เติมแรงดันลมยางให้ถูกต้อง และ ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง แม้จะเป็นลมยางธรรมดาก็ตาม ก็จะรักษายางให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ครับ