ทฤษฏีและแนวทางของเครื่องเสียงรถยนต์ที่ควรรู้...

[nu-fdc]

หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าเครื่องเสียงรถยนต์มีลักษณะการติดตั้งและการฟัง
แตกต่างกันอย่างใร บางคนฟังดัง บางคนฟังเพราะ มันแตกต่างกันอย่างใร และแบ่งอย่างใร

เครื่องเสียงรถยนต์ ถ้าให้ผมแบ่งเป็นประเภทหลักๆก็จะมีอยู่แค่ 2 ประเภท

1.SQ (Sound Quality)
คือ ประเภทคุณภาพเสียงแบบฟังในรถเพียงอย่างเดียว เน้นการฟังสมดุล
ของน้ำเสียงเป็นหลัก (Tonal Balance) เน้นรายละเอียดชิ้นดนตรี เน้นการฟังแบบเหมือนแหล่งที่บันทึก
มาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เน้นที่เรื่องของเวทีเสียง มีการจัดรูปแบบของเวทีเสียงให้อยู่บนหน้าปัท
ของรถยนต์

2.SPL(Sound Pressure Level)
คือประเภทที่เน้นความดังของเสียงเป็นหลัก เน้นเสียงเบสที่มีพลังดุดัน มีแรงกดอากาศสูงๆเมื่อเปิด
เบส เน้นฟังระยะไกลๆ เน้นเสียงกลางแหลมที่คมชัด แต่มีความดังมากๆไม่เน้นรายละเอียดมากนัก
หากเทียบกับประเภทแรก

[nu-fdc]

เมื่อเรารู้แล้วว่าเราแบ่งออกเป็น 2 ประเภท แต่ลักษณะของการฟังเพลงละเราจะแบ่งอย่างใร
นักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์มือใหม่และนักเล่นที่ไม่ค่อยมีความรู้ ส่วนมากเวลาจะไปติดตั้งเครื่องเสียงก็มักจะบอกกับร้านแค่ว่า “ผมชอบฟังแนว เพื่อชีวิต, ลูกทุ่ง, ลูกกรุง, สตริง,สากล”

แต่ไม่รู้ว่าที่ตัวเองชอบฟังนั้นภาษาเรียก หรือ ศัพท์ทางเครื่องเสียงเขาเรียกว่าอะไร ไปถามบางคนยังไม่รู้เลยว่าแนวนี้คืออะไร

แนวนั้นเป็นแบบไหน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเวลาไปคุยกับร้าน หรือ คนเล่นเครื่องเสียงด้วยกันจะได้เข้าใจถูกต้องตรงกัน

แนวทางในการฟังเครื่องเสียงรถยนต์มีด้วยกันอยู่ 5 แนว หลัก ๆ คือ

1.  Audiophile คือ เสียงเบา ๆ ฟังอย่างเซียนเครื่องเสียงบ้าน เน้นเพลงร้อง เพลงจีน เพลงช้า ใช้แผ่นอย่างดีพิเศษ

2. SQ / SOUND QUALITY คือ เสียงเบา ๆ เน้นคุณภาพเสียง ความถูกต้องของโน้ตดนตรีใช้แผ่นเทสที่ใช้ในการแข่งขัน

3. SQ PLUS ในรถ / SQ+ในรถ คือ เน้นมันส์ ๆ ในรถ แต่ยังคงได้คุณภาพเสียง ความถูกต้องของโน้ตดนตรี ฟังแผ่นเพลงทั่วไป

4. SQ PLUS นอกรถ / SQ+นอกรถ คือ เน้นมันส์ ๆ นอกรถ แต่ยังคงได้คุณภาพเสียงความถูกต้องของโน๊ตดนตรี ฟังจากแผ่นเพลงทั่วไป

5. SPL / SOUND PRESSURE LEVEL คือ เน้นมันส์ ๆ นอกรถ เสียงเบสจุกหน้าอกไม่สนใจความเป็นดนตรี ใครดังกว่าชนะไป ใครจะด่าชั่งเขาขอมันสะใจไว้ก่อน....ฮ่าๆ 

[VISA]

 

[nu-fdc]

หาความเป็นตัวเอง...

ทุกท่านควรจัดงบประมาณมาก่อนเลยครับว่าในการทำรถครั้งนี้ มีงบเท่าไร หาตัวเองให้เจอก่อนว่าชอบฟังแบบไหน..?

ตอบให้ชัดเจน เช่น “แนว SQ” ดังในรถอย่างเดียวไม่เผื่อแผ่ใคร

หรือจะเป็น “แนว SPL” ฟังดัง ๆ นอกรถแบบว่า “ลั่นทุ่ง” ไปเลยว่างั้นเถอะ

หรือ ถ้าชอบทั้งสองอย่างก็เป็น “แนว SQ PLUS” ฟังได้ทั้งนอกรถและในรถ แต่ต้องเลือกนะครับว่าฟังในรถหรือนอกรถมากกว่ากัน เช่น ฟังในรถ 70% ฟังนอกรถ 30% ไม่ใช่เอา 50 / 50 นะครับ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

หรือ จะชอบแนวไหนอะไรก็ได้ตามที่เป็นตัวตนของคุณจริง ๆ เป็นแนวที่เราชอบฟังจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับ งบน้อย หรือ งบมากนะครับ เอาสิ่งที่เราเองต้องการจริงๆ เมื่อติดตั้งเสร็จจะได้ตรงตามความต้องการตามที่เรา
ต้องการจริงๆ มิใช่เสียเงินแล้ว ต้องมานั่งเสียดายตังในภายหลัง....

[nu-fdc]

เมื่อเรารู้แล้วว่าประเภทเครื่องเสียงแบ่งเป็นกี่ประเภท ลักษณะการฟังเพลงแบ่งกี่ประเภทแล้วนั้น
สิ่งที่เราควรรู้ต่อไปก็คือ ลักษณะของการติดตั้งที่แตกต่างกันออกไป

เช่นการติดตั้งแบบ SQ ก็จะมีลักษณะเฉพาะเพื่อให้ได้รายละเอียดของเสียงที่สมบูรณ์แบบ
การติดตั้งแบบประเภท SPL ก็มีลักษณะเฉพาะเช่นการตีตู้ การปรับจูนที่แตกต่างกับ SQ

หรือแม้กระทั้งแบบ SQ + ก็จะมีลักษณะการติดตั้งและการปรับจูนที่แตกต่างกัน แต่การติดตั้งพื้นฐาน
หลักๆ อย่างเรื่องระบบไฟ ความแข็งแรงก็จะคล้ายๆกัน

[nu-fdc]

การติดตั้งพื้นฐานที่เราควรรู้ครับ.....

การติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์เป็นหัวใจของระบบเสียงเลยก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นแนวใหนก็ตาม
เพราะเครื่องเสียงรถยนต์ต้องอาศัยการติดตั้งเป็นหลักเสียงถึงจะออกมาดี ดัง สมใจ คุ้มเงิน

ผมต่อให้ใช้อุปกรณ์ดีแค่ใหน แพงแค่ใหน หากไม่ได้รับการติดตั้งที่ถูกต้อง การวางระบบที่ถูกต้อง
เสียงที่ได้ยินคงจะออกมาแค่ "มีเสียง" ไม่ใช"เสียงดี" แน่นอนครับ

การจะทำให้เครื่องเสียงออกมาคุ้มเงิน ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่ใช่ใช้"ไสยศาสตร์"ครับ

[nu-fdc]

การวางระบบ+การออกแบบระบบ

เรามาลงลึกกันอีกนิดนะครับ ว่าสิ่งที่เราควรรู้ควรรู้ต่อไปในการติดตั้งเครื่องเสียง
ก็คือการวางระบบ การออกแบบระบบ

ระบบมีอะใรบ้าง แบ่งง่ายๆเป็น 3 อย่างครับ

1.BI-AMP


2.TRI-AMP


3.QUART-AMP

[proalarm]

การติดตั้งพื้นฐานที่เราควรรู้ครับ.....

การติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์เป็นหัวใจของระบบเสียงเลยก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นแนวใหนก็ตาม
เพราะเครื่องเสียงรถยนต์ต้องอาศัยการติดตั้งเป็นหลักเสียงถึงจะออกมาดี ดัง สมใจ คุ้มเงิน

ผมต่อให้ใช้อุปกรณ์ดีแค่ใหน แพงแค่ใหน หากไม่ได้รับการติดตั้งที่ถูกต้อง การวางระบบที่ถูกต้อง
เสียงที่ได้ยินคงจะออกมาแค่ "มีเสียง" ไม่ใช"เสียงดี" แน่นอนครับ

การจะทำให้เครื่องเสียงออกมาคุ้มเงิน ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์เท่านั้น ไม่ใช่ใช้"ไสยศาสตร์"ครับ

ชอบรูปนี้มากครับ

[thanoi32]

 

[newvcross]

จริงๆการฟังเพลงมีแบบเดียวครับ คือ ความเที่ยงตรงสูง จำลองของจริงมาให้มากที่สุด อะไรที่ไม่เที่ยงตรงก็คือของไม่ดีทั้งนั้น

ส่วนที่เหลือเรียกว่ารสนิยมครับ จบ



ขอบอกว่า audiophile ไม่ใช่การเล่นเครื่องบ้าน เพราะเครื่องบ้านก็ไม่ได้ดีทุกเครื่อง และไม่ใช่การฟังเฉพาะแนวเพลงครับ
คือต้องทุกเพลง
แต่ถ้าเราเอามาเป็นตัวอ้างอิง ความเที่ยงตรงเราจะยิ่งห่างไกลครับ แล้วมันจะยิ่งไกลไปเรื่อยๆสุดท้ายคือฟังอะไรก็ได้

[NOUNG]

ความรู้ทั้งนั้น *-*

[nu-fdc]

จริงๆการฟังเพลงมีแบบเดียวครับ คือ ความเที่ยงตรงสูง จำลองของจริงมาให้มากที่สุด อะไรที่ไม่เที่ยงตรงก็คือของไม่ดีทั้งนั้น

ส่วนที่เหลือเรียกว่ารสนิยมครับ จบ



ขอบอกว่า audiophile ไม่ใช่การเล่นเครื่องบ้าน เพราะเครื่องบ้านก็ไม่ได้ดีทุกเครื่อง และไม่ใช่การฟังเฉพาะแนวเพลงครับ
คือต้องทุกเพลง
แต่ถ้าเราเอามาเป็นตัวอ้างอิง ความเที่ยงตรงเราจะยิ่งห่างไกลครับ แล้วมันจะยิ่งไกลไปเรื่อยๆสุดท้ายคือฟังอะไรก็ได้

ครับ ผมยกตัวอย่างของประเภทการฟังเพลง แนว Audiophile เกิดจากการฟังเพลงที่ใช้แผ่นที่บันทึกดีๆ
จากห้องอัดดีๆ จากเครื่องเสียงที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดจากแผ่นต้นฉบับได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรง
เป็นหลัก

ไม่ใช่จากต้นฉบับบอะไรก็ได้หรือเพลงอะไรก็ได้ เพราะแะนั้นการฟังเพลงแนว Audiophile ต้องฟังจาก
แหล่งที่บันทึกดีๆเท่านั้นครับ ถึงจะถ่ายทอดรายละเอียดได้

ถ้าจะให้แบ่งอย่างคุณ newvcross ว่ามานั้นผมขอแบ่งให้ตามลักษณะของการฟังเพลงจะถูกต้องกว่าครับ
ผมแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆตามนี้ครับ

1.Critical Listening ฟังเชิงวิเคราะห์ถึงรายละเอียด ความถูกต้องว่าดีอย่างไร / ไม่ดีอย่างไร ( ถูกต้อง แต่ไม่ถูกใจ )

2.Listening For Pleasure ฟังเพื่อความพึงพอใจ สนุกสนาน เพลิดเพลิน ( ถูกใจ แต่อาจไม่ถูกต้อง )

[nu-fdc]

ในหัวข้อนี้ผมลืมบอกไปว่าเน้นที่นักเล่นมือสมัครเล่นเท่านั้นที่ไม่มีความรู้ใดๆเลยได้อ่านได้ศึกษา
เอาแค่ฟังเพลงจากชุดเครื่องเสียงรถยนต์ที่ติดมาอย่างคุ้มค่าคุ้มราคาเท่านั้น

คิดเสียว่าเอาใว้เป็นไม้กันหมา หากต้องเจอกับร้านที่คิดจะติดเครื่องเสียงรถยนต์ให้เพียงแค่ มีเสียง เพียงอย่างเดียว หรือแค่คิดจะขายเพียงอย่างเดียว

ผมเคยเขียนใว้ในบอร์ดของผมถึงวิธีการทดสอบว่ารถเราเสียงเป็นอย่างใรอยู่ในระดับมาตรฐานใหม
ลองแยกฟังแบบนี้ครับ

เน้นเฉพาะแบบ SQ ฟังในรถ

10 ประการของการทดสอบเครื่องเสียงที่ดี ถูกต้อง คุ้มเงิน


การฟังเครื่องเสียง ตามมาตราฐานสากล ( เพื่อจะได้รู้ว่าเครื่องเสียงรถเรา เสียงดีมั๊ย )
เป็นหลักเกณฑ์คร่าวๆที่เอาไว้ใช้อ้างอิงสำหรับ มือสมัครเล่น ฟังเพลง ขณะขับรถ

( หรือบางท่าน เน้น จอดรถฟัง โปรดแจ้งก่อนช่างลงมือติดตั้ง )

เน้นมือสมัครเล่นครับ
1. ฟังเฉพาะเสียงซับเบส...จากซับเบส
2. ฟังเฉพาะเสียง มิดเบส...จากลำโพง 6 นิ้ว
3. ฟังเฉพาะเสียง กลาง...จากลำโพง 6,4,3และ 2.5 นิ้ว
4. ฟังเฉพาะเสียง แหลม...จากลำโพงทวิตเตอร์

*เมื่อฟังแยกส่วนของแต่ละลำโพงแล้ว จึงเริ่มข้อ 5 ต่อไป

5. ฟังรวมทุกย่านความถี่เสียง ว่าเข้ากันได้อย่างกลมกลืนมั๊ย
6. ฟังเบสอัพฟร้อน
7. ฟังเวทีเสียง กว้าง สุดขอบเสา เอพิลล่า ซ้ายสุด ถึงขวาสุด
8. ฟังเวทีเสียง สูง ระดับสายตา ( ต่ำกว่ากระจกมองหลังนิดหน่อย ) ห้ามได้ยินเสียงที่ประตู
9. ฟังเวทีเสียง ลึก ประมาณใบปัดน้ำฝน ( ถ้าลึกไปถึงฝากระโปรงหน้ารถ ยิ่งดี ระดับเทพ )
10. ตำแหน่งนักร้อง และชิ้นดนตรี จะต้องได้ตำแหน่ง และจัดวางตำแหน่งอย่างถูกต้อง ( ตามที่แผ่นระบุมาให้ )

คร่าวๆก็คือ เสียงนักร้องยืนอยู่ตรงกลางหน้าปัท / กลางแดชบอร์ดของรถ
( ให้นึกภาพการวางเครื่องดนตรี ตามเวทีคอนเสิร์ท หรือนักร้องคาเฟ่ยืนกลางเวที )
ต่อไปคือเสียงที่ไม่พึงประสงค์
1. เสียงปิด เปิดเครื่องเสียง ดังตุ้บ ตั้บ
2. เสียงกวนจากการเปิด ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่นเปิดไฟหน้า เหยียบเบรค แล้วมีเสียงเข้าลำโพง
3. เสียงกวนจากการทำงานของรีเลย์ ที่ใส่เพิ่มเข้าไปในระบบ
4. เสียงฮัม เสียงจี่ เสียงวี๊ด จากการเร่งเครื่องที่ 2,00 รอบ ( ขณะ เปิดแอร์ และเปิดไฟสูง )
5. เสียงกวนจากอุปกรณ์ ทุกอย่างในรถ เช่นเวลาเปิดเสียงดังๆแล้วมีเสียง ก๊อก แก๊ก ที่แผงประตู หรือเสียงสั่นของแผงประตู
และเสียงแปลกปลอมทุกๆอย่างที่ไม่ใช่เสียงดนตรี

[Barnaby]

แจ่มครับ