ผมก็อบมาลงให้ครับ
ข้อมูลมาจาก คุณ model1st หรือ คุณ Racetype
วันนึงรถของท่านๆ เกิดอารมณ์ประเภทยางรั่ว ยางแบน ต้องการเปลี่ยนล้อขึ้นมาแล้วล่ะก็ เริ่มเป็นเรื่องแล้วครับ สำรวจอุปกรณ์ซิ ครบมั้ย มียางอะไหล่ แม่แรง ประแจเบอร์ 17 หรือ 19 หรือ 21 แล้วแต่รุ่น คราวนี้ต้องทำท่าทำทางว่าเราจะขึ้นแม่แรงตรงไหนถึงมีความปลอดภัย
ต่อมาให้ขึ้นแม่แรงเพื่อยกรถแต่อย่าขึ้นให้ล้อลอย ให้ทำการคลายน็อตล้อทุกตัว ขอย้ำนะครับว่าคลายน็อต ไม่ใช่ถอด คราวนี้เจ้ากรรมจำได้ว่าคราวที่แล้วไปร้านแมกซ์ เปลี่ยนแมกซ์มาซะสวยหรู ร้านแมกซ์ก็ยิงบล็อคลมอัดน็อตซะ ใช้แรงเต็มที่ก็แล้วขึ้นขย่มก็แล้ว นี่ขนาดผู้ชายนะยังไม่ออก ถ้าเป็นผู้หญิงไม่ต้องว่ากันเลย จอดกินข้าวลิงแน่ๆ แล้วเดี๋ยวจะชี้แจงให้ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ถ้าคลายน็อตออกแล้ว ก็ยกแม่แรงให้ล้อลอย เจ้ากรรมอีกแล้ว เมื่อแรงติดรถ ใช้กับรถในปัจจุบันได้ไม่สมบูรณ์ ล้อไม่ลอย ทำยังไงดี ต้องหาหิน หาไม้มารองให้จ้าละหวั่นเพื่อที่จะขยับแม่แรงไปที่จุดอื่นได้ ถ้ายกได้(สำเร็จ) ก็เอายางอะไหล่สอดไว้ที่ใต้ท้องรถเพื่อความปลอดภัยในกรณีที่แม่แรงรูดหรืออื่นๆ รถจะได้ไม่มาทับคนทำ ไม่งั้นเตรียมเรียกมูลนิธิได้เลยจะส่งวัดหรือ รพ. ก็แล้วแต่บุญแต่กรรม ต่อมาก็เอาน็อตออก ถอดล้อ เปลี่ยนล้อที่ถอดออกไปไว้ใต้ท้องรถแทนล้ออะไหล่ เปลี่ยนล้ออะไหล่เข้าไป (แต่ตอนดูแลรถใช้ปกติ ระวังเจ้ากรรมอีกยางอะไหล่แบน) ขันน็อตพอตึงมือเอายางรองใต้รถออก เอาแม่แรงลง
ทำการขันน็อตขึ้นสุดท้ายโดยใช้แรงทอร์คประมาณ 100 N.m หรือ 1000 kgf.cm แต่ละรุ่นจะไม่เท่ากันซะทีเดียวแต่รับรองว่าค่านี้ยังอยู่ในค่าพิกัดความเผื่อ (Tolerance) ของรถยนต์แต่ละรุ่น ในการขันทอร์คนั้นให้ขันเป็นเส้นทแยงมุม ขันน็อตตัวแรกเสร็จก็ขันตัวตรงข้ามจนครบ ไม่ว่าจะเป้นรุ่นที่มีน็อต สี่ตัว ห้าตัว หรือหกตัวใช้หลักการเดียวกันหมด คราวนี้บางคนอาจจะคิดในใจหรือแอบด่าในใจมาแล้ว ให้ขันทอร์ค แล้ว(ตรู) ไม่มีประแจทอร์ค จะให้(ตรู) ทำยังไง(ฟะ) ก็เอาแค่ประแจที่มีนั่นแหละครับ ขันด้วยมือจนสุดแรง ไม่ต้องขึ้นขย่มก็เพียงพอแล้วครับ ประแจที่ผมมีก็ยาวประมาณ 360 มม. ใช้แรงผมขันก็ได้ค่าทอร์คประมาณ 120 N.m หรือ 1200 kgf.cmแล้วครับ (แต่ไม่ต้องกังวลครับ ยังเป็นค่าที่พอรับได้อยู่)