11. โม้มาเยอะแล้ว มาทำงานกันต่อดีกว่า ทำการหมุนน็อตเติมน้ำมันเฟืองท้ายออกมา แนะนำให้ใช้ด้ามบล็อคยาว
จะช่วยให้มีแรงขันออกมาได้ง่ายขึ้น คันไหนไปเจอบล็อคลมทำการขันอัดมา จะบอกว่าขันน็อตออกยากมาก
อย่าให้เจอหน้าคนที่เอาหมุนน็อตเข้าก็แล้วกัน จากรูปพบว่า ช่างคนนี้ไม่น่าจะใช่คนไทย เนื่องช่างคนไทย
ไม่นิยมการใส่ถุงมือ 555+++
12. จากนั้นทำการหมุนน็อตถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายออกมา แล้วหาภาชนะมารองรับน้ำมันเก่าที่ไหลออกมา
13. ทำการตวงวัดน้ำมันเฟืองท้ายที่ออกมาสักหน่อย จากรูป น้ำมันที่ถ่ายออกมาประมาณ 2.5 ลิตร เราได้เตรียม
น้ำมันเฟืองท้ายของใหม่เอาไว้ 3 ลิตร ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
14. อุปกรณ์พิเศษอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยให้เราทำการเติมน้ำมันเฟืองท้ายได้ง่ายขึ้น เป็นท่อยางที่ใช้เป็นท่อน้ำมัน
หาซื้อได้ตามร้านขายอะไหล่รถยนต์ทั่วไป เมื่อทำการประกอบร่างกับขวดหัวจรวดแล้ว จะช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น
15. ทำการยกกองกำลังเข้าประชิด เตรียมการในขั้นสุดท้าย เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ลุย....เลย
16. หลังจากหมุนน็อตถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายกลับคืนที่เดิมแล้ว ก็ทำการเติมน้ำมันเฟืองท้ายของใหม่เข้าไป
สังเกตว่าถ้าใช้วิธีการแบบเดิม เสียบขวดเข้าไปเติมเลยจะพบว่ามีความลำบากในการเติม เนื่องจากติดยาง
อะไหล่นี่เอง ทำให้ไม่มีระยะในการบีบ และการยก ครั้นจะถอดยางอะไหล่ลงมา แล้วเติมน้ำมันเฟืองท้าย
ก็ถือว่าได้ตรวจเช็คยางอะไหล่ด้วย ได้ออกกำลังเพิ่มขึ้นด้วย
17. อีกวิธีนึงที่สะดวกมาขึ้น คือ เอาท่อยางมาต่อที่ปลายขวดหัวจรวด แล้วจะพบว่ามันทำงานได้ง่ายขึ้นมาก
ทำการเติมน้ำมันเฟืองท้ายของใหม่เข้าไปเรื่อยๆ จนล้นรูเติมน้ำมันเฟืองท้าย
18. ทำการเติมน้ำมันเฟืองท้ายของใหม่ เข้าไปจนล้นรูเติม ดังรูป ต้องจอดรถในแนวระนาบไม่เอียงไปข้างใด
ข้างหนึ่ง เป็นอันใช้ได้
19. ทำการปิด เก็บ ตรวจเช็คอีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย น็อตเวลาขันเข้า แนะนำขันให้สุดแต่อย่าแน่นเกิน
เดี๋ยวเกลียวจะพัง ถ้าทำบ่อยจะรู้น้ำหนักโดยอัตโนมัติ โปรดระวังในครั้งหน้าถ้าขันน็อตไม่ออก อย่าลืมว่าเรา
เป็นคนที่ขันน็อต อย่าเผลอด่าออกมาดังๆ ใครฟระแมร่งขันแน่นเกิน...
20. จากน้ำมันเฟืองท้ายของใหม่ประมาณ 3 ลิตร หลังจากใช้ไปแล้วก็จะเหลือประมาณเกือบ 0.5 ลิตร ดังรูป
แนะนำว่าขวดเปล่าอย่าทิ้ง เก็บเอาไว้ทำ D.I.Y. อื่นๆ ได้อีกมากมาย ทิ้งไปก็เสียดาย หาซื้อขวดเปล่าแบบนี้
ยากมากไม่ค่อยมีใครปล่อย เดี๋ยวคราวหน้ามี D.I.Y. กันต่ออีกโปรดติดตาม
เดี๋ยวเราจะมาชี้ช่อง ข้อแตกต่างของน้ำมันเฟืองท้ายขับสอง และน้ำมันเฟืองท้ายขับสี่กัน
21. น้ำมันเฟืองท้ายขับสอง เหมาะสำหรับเติมลงในเฟืองท้ายขับสองเท่านั้น ห้ามเติมลงไปในเฟืองท้ายขับสี่
ข้อแตกต่างของน้ำมันทั้งสองชนิด ราคาต่อลิตรของน้ำมันเฟืองท้ายแบบขับสี่ แพงกว่าแบบขับสอง ส่วนเรื่อง
ของสีน้ำมัน แทบจะเหมือนกัน ต้องดูที่ภาชนะบรรจุเท่านั้น
22. น้ำมันเฟืองท้ายขับสี่ เหมาะสำหรับเติมลงไปในเฟืองท้ายขับสี่ แต่ก็สามารถเติมลงไปในเฟืองท้ายแบบ
ขับสองได้เช่นกัน ส่วนใหญ่จะมีตัวหนังสือบอกว่าเป็น Limited Slip เห็นได้ทั่วไปตามร้านอะไหล่รถยนต์
มีบรรจุภัณฑ์แบบขวดหัวจรวด ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และราคาสูงขึ้นนั้นเอง ส่วนบางยี่ห้อก็มีแบบเป็นขวด
ธรรมดาขนาด 1 ลิตร ก็ต้องไปหาขวดหัวจรวดมาทำการเติมเข้าไปอีกที