มาดูอัตราการกินน้ำมันของ Hi 4-Door 2.5 Z-P AT กันครับ

[Neung30]

ของผมขับยังไงก็ได้ไม่เกิน 12 กม.ต่อลิตร วิ่ง 90 - 120= 90% / 130-140 =10%
หนักสุดประมาณ 10 กม.ลิตร วิ่งในเมืองเป็นส่วนมาก

จับจากการเติมน้ำมันเอานะครับ ถ้าเอาตามหน้าจอมันไม่ตรงความจริง

[คนรักน้ำมัน]

เมื่อวันก่อน ได้เติมน้ำมันเต็มถังใหม่อีกรอบ แต่ยังไม่หมดถังนะครับ วิ่งไปได้ 829 โล และเติมจนเต็มใหม่ได้ 59.2 ลิตร เมื่อเอามาหารดูก็พบว่าได้อัตราสิ้นเปลืองจริงเฉลี่ยตลอดระยะทางคือ 14 กิโลต่อลิตรพอดี  หน้าจอเฉลี่ยมันน่าจะอยู่ 16 โล/ลิตร แสดงว่าหน้าจอเวอร์กว่าความจริงประมาณ 2 โล/ลิตร เทคนิคการขับให้ประหยัด คือการออกตัวกับการปล่อยไหลครับ การออกตัวอย่าเหยียบไป เพราะจังหวะนี้การกินน้ำมันจะมาก อาจต่ำกว่า 5 โลลิตร และหลังจากรถวิ่งลอยตัวแล้ว ควรหาจังหวะปล่อยไหล คือไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ในช่วงที่รถวิ่งเร็วไม่ได้ หรือมองเห็นไฟแดงแต่ไกล ก็ปล่อยไหลเลย ส่วนเทคนิคการขับเมื่อรถวิ่งเร็ว อันแรกก็ไม่ควรขับเกิน 100 โดยอัตราที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ 90 กม./ชม. ให้มีจังหวะปล่อยไหลบ้าง คือเหยียบบ้างเพื่อให้ความเร็วเกิน100 หรือแตะ 100 นิดหน่อย แล้วปล่อยไหล หรือประคองคันเร่งเบาๆ ความเร็วจะลดลงช้าๆ แต่อัตราการกินจะน้อยมาก เหลือประมาณ 20-30 ช่วงนี้จะเป็นช่วงสร้างค่าเฉลี่ยที่ดี แต่หากปล่อยไหลเลย อัตราการกินจะเกิน 100 กม./ ลิตรเลยทีเดียว ยิ่งถ้ามีช่วงนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งประหยัดมากเท่านั้นครับ

[คนรักน้ำมัน]

เทคนิคนี้ทำได้จะประหยัดได้ทั้งในเมืองกับออกตจว. จำไว้ว่า การจอดเครื่องบ่อย สตาร์ตบ่อย นี่แหละตัวกินครับ โดยเฉพาะใครที่ใช้เกียร์ออโตด้วย นี่ตัวซดเลย จะฉุดอัตราการสิ้นเปลืองลงได้มาก สำหรับผมพอใจแล้วครับ กับอัตราถัวเฉลี่ยในเมืองกับนอกเมืองกับเครื่องออโต แล้วได้ 14 กม./ลิตร โดยที่ไม่เคยปิดแอร์

ปล.ผมไปอุดEGRแล้วนะครับ รู้สึกว่าไม่มีผลต่อการกินน้ำมันแต่อย่างใด แต่รู้สึกได้ถึงการออกตัวดีขึ้นนิดหน่อยครับ เพราะ 2.5 AT ออกตัวจะอืดซักหน่อย

[Galaxias]

เมื่อวันก่อน ได้เติมน้ำมันเต็มถังใหม่อีกรอบ แต่ยังไม่หมดถังนะครับ วิ่งไปได้ 829 โล และเติมจนเต็มใหม่ได้ 59.2 ลิตร เมื่อเอามาหารดูก็พบว่าได้อัตราสิ้นเปลืองจริงเฉลี่ยตลอดระยะทางคือ 14 กิโลต่อลิตรพอดี  หน้าจอเฉลี่ยมันน่าจะอยู่ 16 โล/ลิตร แสดงว่าหน้าจอเวอร์กว่าความจริงประมาณ 2 โล/ลิตร เทคนิค การขับให้ประหยัด คือการออกตัวกับการปล่อยไหลครับ การออกตัวอย่าเหยียบไป เพราะจังหวะนี้การกินน้ำมันจะมาก อาจต่ำกว่า 5 โลลิตร และหลังจากรถวิ่งลอยตัวแล้ว ควรหาจังหวะปล่อยไหล คือไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ในช่วงที่รถวิ่งเร็วไม่ได้ หรือมองเห็นไฟแดงแต่ไกล ก็ปล่อยไหลเลย ส่วนเทคนิคการขับเมื่อรถวิ่งเร็ว อันแรกก็ไม่ควรขับเกิน 100 โดยอัตราที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ 90 กม./ชม. ให้มีจังหวะปล่อยไหลบ้าง คือเหยียบบ้างเพื่อให้ความเร็วเกิน100 หรือแตะ 100 นิดหน่อย แล้วปล่อยไหล หรือประคองคันเร่งเบาๆ ความเร็วจะลดลงช้าๆ แต่อัตราการกินจะน้อยมาก เหลือประมาณ 20-30 ช่วงนี้จะเป็นช่วงสร้างค่าเฉลี่ยที่ดี แต่หากปล่อยไหลเลย อัตราการกินจะเกิน 100 กม./ ลิตรเลยทีเดียว ยิ่งถ้ามีช่วงนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งประหยัดมากเท่านั้นครับ

 
มาช่วยดันครับ เมื่อวานผมลองใช้วิธีขับแบบนี้แล้วครับ วิ่งความเร็วบนถนนประคองให้คงที่อยู่แถวๆ 80-90 km/hr โดยตั้งค่าต่างๆเป็น 0.00 ทั้งหมด วิ่งไปได้ประมาณ 200 km รวมช่วงรถติดแล้วปรากฏว่าตัวเลขเปลี่ยนจริงๆครับ อัตรากินน้ำมันเฉลี่ยจากเดิมที่เคยโพสไว้ปรากฏว่าขับแบบนี้ได้ถึง 17.9 km/L เลยทีเดียวครับ ถ้าขับทางไกลกว่านี้โดยลักษณะการขับแบบนี้และไม่มีช่วงรถติดคิดว่าน่าจะได้มากกว่านี้ครับ แนะนำน้าๆท่านอื่นลองกด reset ค่าเป็น 0.00 ก่อนแล้วลองจับอัตราสิ้นเปลืองดูใหม่นะครับ ได้ผลจริงๆครับ

[คนรักน้ำมัน]

มาอัพเดทนะครับ เมื่อวานน้ำมันเหลือไม่ถึงครึ่งถึงวิ่งไปได้ประมาณ 550 กิโล ไปเติมจนเต็มเหมือนเดิม เติมน้ำมันไป 43.34 ลิตร ได้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 12.7 กิโลต่อลิตร โดยครั้งนี้วิ่งแต่ในเมือง ออกตัวเหยียบตามความเคยชินเดิม แต่ก็มีจังหวะไหลบ้าง โดยไม่มีวิ่งนอกเมืองเลย แต่อัตราที่โชว์ตัวรถบอกที่ 14.6 ดังนั้นพออนุมานได้ว่า อัตราสิ้นเปลืงจริงลบออกประมาณ 2 นะครับ

[Willy]

มาอัพเดทนะครับ เมื่อวานน้ำมันเหลือไม่ถึงครึ่งถึงวิ่งไปได้ประมาณ 550 กิโล ไปเติมจนเต็มเหมือนเดิม เติมน้ำมันไป 43.34 ลิตร ได้อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 12.7 กิโลต่อลิตร โดยครั้งนี้วิ่งแต่ในเมือง ออกตัวเหยียบตามความเคยชินเดิม แต่ก็มีจังหวะไหลบ้าง โดยไม่มีวิ่งนอกเมืองเลย แต่อัตราที่โชว์ตัวรถบอกที่ 14.6 ดังนั้นพออนุมานได้ว่า อัตราสิ้นเปลืงจริงลบออกประมาณ 2 นะครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

 

[คนรักน้ำมัน]

มาอัพเดทข้อมูลครับ วันนี้วิ่งไปตจว. ไปกลับ ประมาณ 670 กม. เติมเต็มถังอีกครั้ง ได้ 40 ลิตร วิ่งแบบอัดเต็มๆหลายจังหวะ มีเหยียบ 140 ก็มี แต่เฉลี่ย 90-100 ตก 16.7 กม./ลิตรครับ

[คนรักน้ำมัน]

ข้อมูลในจอบอกว่า 16.4 ซึ่งใกล้เคียงมาก แสดงว่าการสตาร์ทบ่อยทำให้ค่าเพี้ยนไป ถ้าขับยาวๆต่อเนื่อง ค่าที่ได้จะใกล้เคียงความจริง ตก กม.ละ 1.77 บาท

[thinthai28]

  emo914 กม.ลิตร ก้อพอใจแล้วครับ....แต่ยังไม่มีให้ลองนี่สิกลุ้ม

[nop450]

ของผมก็ขับรุ่นนี้เหมือนกันครับ พอดีขับขึ้นจากภูเก็ต-ปทุมธานี ระยะทางประมาณ 1000 km. ผมขับความเร็วอยู่ในช่วงประมาณ 100-120 เป็นส่วนใหญ่ มีถึง 140 บ้างนิดหน่อยเป็นระยะทางไม่กี่กิโล ลองดูอัตราการกินน้ำมันจากหน้าจออยู่ที่ประมาณ 14.5 km/L แต่ผมลองจดระยะช่วงสุราษ-สมุทรสงคราม หลังจากเติมน้ำมันเต็มถังที่สุราษ set trip เป็น 0.00 วิ่งถึงช่วงเติมน้ำมันเต็มถังครั้งที่สองที่สมุทรสงครามได้ 40.83 L ได้ช่วงระยะทาง trip = 554 km. แสดงว่าระยะ 554 km. รถวิ่งใช้น้ำมันไป 40.83 L  คิดเป็นอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 554 km/40.83 L = 13.57 km/L ครับ ไม่ทราบว่าของผมกินน้ำมันผิดปกติไปหรือปล่าวครับ ผมเห็นของน้าๆใน clup วิ่งกันได้ถึง 18 km/L ก็มี แต่ผมลองวิ่งที่ความเร็ว 80-100 km แล้วก็ยังไม่เห็นจะถึงเลยครับ ยังไงรบกวนขอความคิดเห็นด้วยนะครับ
 

ต่างกันช่วงออกตัวไหมพี่

 
ผมว่าวิธีนี้แน่นอนกว่าการคำนวนคอมพิวเตอร์แน่ๆ ตัวคอมมันอาจจะเกินจริงไปบ้าง  (ผมว่านะ)

[คนรักน้ำมัน]

อัตราการกินโดยเฉลี่ยในเมืองของผมอยู่ประมาณ 13-14 กิโลต่อลิตรครับ ส่วนนอกเมืองเคยได้ถึง 16-18  การสตาร์ทบ่อย รถติดบ่อย จะทำให้อัตราการกินน้ำมันสูงขึ้นครับ

[พงษ์สุวรรณ พรมเย็นสถาพร]

รถรุ่นเดียวกันของผมทดสอบมาหลายถังแล้วได้อยู่ประมาณ 14 กม./ลิตร แต่หน้าจอจะหลอกให้ดีใจที่ประมาณ 15 กม./ลิตร(วิ่งระยะทางไม่ไกลประมาณช่วงระหว่าง 20-30 กม.ที่ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม.)

[tee d-max]

  emo55ครับ..

[dokpradoo]

ผมในเมืองได้ 13-14 กม/L เเบบรถขับได้ความเร็วไม่เกิน 60 มีหยุดบ้างเป็นระยะ เเล้วขับทางที่ได้ความเร็วบ้าง เเต่ถ้าติดเเล้วหยุดนานๆน่าจะได้11-12 กม/L เเต่ถ้าทางไกลน่าจะได้ 16 กม/L ที่ความเร็ว 100 ตามที่เขาบอกๆกันนะ
ผมพยายามขับให้รอบเปลี่ยนไม่เกิน 2000 เเล้วให้ความเร็วอยู่ในระดับ 80-100 กม/ชม เพราะเป็นความเร็วที่ประหยัดที่สุด ตอนนี้ลองใช้วิธีเปลี่ยนจาก 4 เป็น 5 ดูรอบเอานะ พออยู่ที่ 4 ความเร็วจะประมาณ 70 กว่าๆเกือบๆ 80  ก็ใช้วิธียกเท้าขึ้น ให้มันเข้า 5 จะได้ความเร็วเกือบ 80  รอบ 1500
(เคยทำใน วีออส มันมี 4 เกียร์ พอเกี่ยร์ 3 มันจะได้ความเร็วที่ 60 รอบ 2000 เราก็ยกเท้านิดเเล้วกดต่อมันจะเข้า 4 จะได้ไม่ลากรอบเยอะ เพื่อคนเท้าหนัก)
ตอนนี้ใช้ลมยาง หน้า36 หลัง 36 ไนโตรเจนครับ ยังไม่ได้อุด ที่เติม ไนโตรเจน เพราะขี้เกียจตรวจลมยางบ่อยเเล้วไม่อยากได้ลมที่มีไอน้ำเข้าไปในยางนะ เท่านั้นเอง
ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว โปรดใช้ความคิดในการอ่าน 
ผิดพลาดประการไหนขออภัยด้วย