ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องวุ่นๆ มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ เรื่อง “ลดน้ำหนักแบบ IF”  (อ่าน 5 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ siritidaphon

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 111
  • คะแนน Like 0
  • จังหวัด: กรุงเทพ
  • ชื่อเล่น: aa
เรื่องวุ่นๆ มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ เรื่อง “ลดน้ำหนักแบบ IF”

ส่วนมาก คนที่อยากลดน้ำหนักจำนวนมาก จะติดทานอาหารเยอะ โดยเหตุนี้การบีบให้ระยะเวลาเหลือเพียง 2 มื้อใหญ่ กับ 1 มื้อย่อยๆ จะมีผลให้รับประทานมื้อใหญ่ได้มากขึ้น ซึ่งแคลอรีรวมแล้วจะน้อยกว่ารับประทานตลอดทั้งวัน การกินของกินโดยไม่กำหนดจำนวนเลยตลอดทั้งวัน จะได้โอกาสรับประทานเกินเยอะแยะ แนวทางแบบนี้ราวกับเป็นการฝึกฝนให้รับประทานเป็นมื้อๆถ้าหากรับประทานอิ่มแล้วจำเป็นต้องพอเพียง

ส่วนตอนที่จำต้องไม่กินอาหาร ราวกับเป็นการให้ร่างกายได้พักซ่อมบำรุงตนเอง ให้ฮอร์โมนหิว-อิ่มได้พัก เพื่อมาดำเนินการสุดกำลังได้อีกครั้ง และก็เป็นการเพิ่มโกรทฮอร์โมน ช่วยหัวข้อการเบิร์นไขมัน แม้กระนั้นไม่ใช่ว่าไม่กินอาหารเป็นตอนเวลาแล้วจะรับประทานอะไรก็ได้ จำเป็นต้องกินตามที่คำนวณแคลอรี

สำหรับผู้ที่พอใจจะลดหุ่นด้วยแนวทางรับประทานแบบ IF อย่างแรกที่จำต้องทำหมายถึงเริ่มขยับมื้อแรกออกไป แต่ว่าย้ำว่าไม่ใช่การหักดิบ จะต้องเริ่มขยับมากินระยะเวลา 8-9 นาฬิกา ในอาทิตย์แรก และก็อาทิตย์ถัดไปค่อยขยับเป็น 11 นาฬิกาไปจนกระทั่งเที่ยงตรง โดยฝึกหัดพร้อมการคำนวณแคลอรีของของกินว่าจำต้องรับประทานมากแค่ไหน ถึงจะครบดังที่ร่างกายอยาก ส่วนการนับแคลอรีของแต่ละคนแตกต่างกันตั้งแต่เรื่องของอายุ เพศ น้ำหนัก ความสูง แม้กระนั้นจำนวนมาตรฐานของหญิงรับประทานโดยประมาณวันละ 1,500 แคลอรี ส่วนเพศชาย ราวๆวันละ 2,000 แคลอรี

 เรื่องที่มักเข้าใจผิดใน IF

1.    ไม่กินข้าวเช้า สมองจะเสื่อม

การอดอาหารเช้าตรู่นั้นปลอดภัย เนื่องจากว่าร่างกายสามารถใช้พลังงานจากน้ำตาลที่สะสมตั้งแต่เมื่อวานนี้ได้ ตรงกันข้ามถ้าเกิดรับประทานมากมายเกิน จะมีลักษณะมึน ความนึกคิดไม่แล่น สมองจะงงเต็ก เนื่องมาจากระบบที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารเป็นระบบประสาทที่ให้การพัก พินิจง่ายๆเป็น หากรับประทานมากมายจะอยากนอน

 2.    รับประทานอะไรก็ได้ เพียงแค่จำเป็นต้องจำกัดเวลา

สำหรับคนอ้วน กลไกความหิวการอิ่มตามธรรมชาติ ได้เสียไปแล้ว ไม่อาจจะรับทราบความอิ่มได้ โดยเหตุนี้ก็เลยจะต้องมีการคำนวณแคลอรีมากำคราวดอีกชั้นยอด จะรับประทานอะไรตามใจทุกสิ่งทุกอย่างมิได้

 3.    ห้ามรับประทานแป้งเด็ดขาด

สามารถกินได้ตามเดิม เนื่องจากว่าคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานที่จำต้องใช้ตอนบริหารร่างกาย โดยจะต้องใช้พลังงานของแป้งเข้าช่วย

 4.    จำเป็นต้องอดอาหารจำนวนมาก

การเลิกของกินมากมายเกิน จะมีผลไม่ดี ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่ถูกใจรับประทานเยอะแยะ 1 มื้อต่อวัน แต่ว่าไม่สมควรทำหลายครั้ง เนื่องจากว่ารับประทานแบบงี้แล้วร่างกายจะเครียดนาน

 5.    ไม่ต้องออกกำลังกาย

นับว่าเป็นความเชื่อถือที่ไม่ถูก สิ่งที่ถูกเป็น จำต้องรับประทานให้พอดิบพอดีแล้วไปบริหารร่างกาย เพื่อมีการเผาผลาญของส่วนเกินทิ้ง แล้วสร้างความแข็งแรงขึ้นมาใหม่