ขนาดจอดไว้ในบ้านยังถูกโจรชั่วเข้ามาขโมยอีก...แจ้งเตือนให้ระวังกันไว้ด้วยน่ะครับ

2 ผัวเมียออกรถป้ายแดงได้แค่ 2 อาทิตย์ถูกฉกคาบ้านพัก
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 6 เมษายน 2555 นายอำพร จารึกธรรม อายุ43 ปี พร้อมด้วยภรรยาได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร้อยตำรวจโทสมนึก แก้วพลูศรี ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่ารถกระบะ ยี่ห้ออีซูชุ 4 ประตู สีบอร์น - เงิน ทะเบียนป้ายแดง อ 9357 กรุงเทพมหานครที่จอดอยู่ภายในรั่วบ้านเลขที่251 / 138 หมู่ 7 ซอย 4 หมู่บ้านบางปูวิลล่า 2 ซอยวิทยุการบิน ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของตน ได้ถูกคนร้ายเข้าไปลักเอารถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปพร้อมด้วยทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ภายในบ้านไป \ ประตูเหล็กรั้วหน้าบ้านได้ถูกคนร้ายยกบานประตูออกทั้ง 2 บาน ก่อนที่จะเข้าไปงัดประตูไม้และเข้าไปรื้อค้นเอาพระเครื่องและเหรียญต่าง ๆ ที่ตนสะสมมานานหลายสิบปีที่คิดเป็นมูลค่ามิได้ไป พร้อมด้วยรถกระบะ ยี่ห้ออีซูชุ4 ประตู สีบอร์น - เงิน ทะเบียนป้ายแดง อ-9357 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ในรั้วหน้าบ้านได้ หายไป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าทำการเก็บรายนิ้วมือของคนร้ายเอาไว้เป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้าย
โดยนายอำพร ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาของตนได้ถอยรถกระบะป้ายแดงคันดังกล่าวมาได้ประมาณสองอาทิตย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ออกไปไหน ส่วนใหญ่จะจอดอยู่ภายในรั้วหน้าบ้านทั้งทุกวัน
ด้านนายวิรัตน์ พิมพ์แดงเพื่อนบ้าน ได้เล่าว่าก่อนหน้านี้ได้มีชายหญิงสองคนได้เดินอยู่ในบ้านตนคิดว่าเป็นเจ้าของบ้านจึงไม่สนใจ จนกระทั้งคนร้ายได้ถอยรถออกมาและได้กดบีบแตรรถสองครั้งซึ่งปกติแล้วนายอำพร ก็มักจะทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้วก่อนออกไป พวกตนจึงไม่สนใจ จนกระทั้งมารู้อีกทีว่ารถและทรัพย์สินภายในบ้านหลังดังกล่าวถูกคนร้ายเข้ามาลักไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุน่าจะเข้ามาดูลาดเราที่บ้านหลังกล่าวหายวันจนกระทั้งรู้ว่าก่อนที่ผู้เสียหายจะขับรถออกจากบ้านจะต้องบีบแตรทุกครั้ง ก่อนลงมือก่อเหตุเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเฝ้าดูลาดเรากระทั่งผู้ตายและภรรยาเดินทางออกจากบ้านไปโดยจอดรถยนต์กระบะคันดังกล่าวทิ้งเอาไว้ในรั้วบ้าน สบโอกาสสองสามีภรรยาออกไปทำงานคนร้ายจึงได้ลงมือกอเหตุ
ข้อมูลจาก
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=627514