ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนน้าๆช่วยแนะนำการขับรถขณะฝนตกหนักหน่อยครับ  (อ่าน 1340 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ae-all new

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 52
  • คะแนน Like 0
พอดีวันนี้ไปเจอมาเต็มๆครับฝนตกหนักมากมองแทบไม่เห็นทางจนผมต้องแวะจอดข้างทางเลยครับ พอดีผมก็มือใหม่ด้วยอ่ะครับ พึ่งรับรถมาเมื่อวันเสาร์ครับ emo4

ออฟไลน์ pakorn294

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 440
  • คะแนน Like 14
ขับช้าๆ.....ชัวร์ ครับ

ออฟไลน์ Nesteen

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 456
  • คะแนน Like 8
  • Phetburi Zone
  • จังหวัด: Phetburi-Samutsongkram
จอดข้างทางผมว่าก็ยังไม่ปลอดภัยเท่าไหรนะครับ

เพราะตอนฝนตกหนักๆผมเคยจะเสยพวกจอดข้างทางหลายคันเลย (เค้าคงจอดมานานเลยไม่ได้เปิดไฟสัญญาณอะไรเลย  emo31)

ออฟไลน์ GRN-V

  • ไมล์ 3001-4000
  • *
  • กระทู้: 3933
  • คะแนน Like 74
  • NDC.696 สิ่งที่เราไม่เห็นไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี
       การขับรถที่ถูกวิธีในขณะฝนตก
       1. ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีในขณะฝนตก
       2. ในขณะที่เกิดฝนตกต้องขับอย่างระมัดระวัง! ใส่ใจในการขับขี่และรักษาระดับความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนอาจก่อตัวเป็นแผ่นน้ำบางๆ แรงตึงพื้นผิวน้ำน้อยมาก เมื่อไปแซกอยู่ระหว่างถนนกับยาง จะทำให้สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของยางกับถนนลดลงเป็นอย่างมาก ทำให้ความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง ผู้ขับขี่จึงควบคุมรถได้ยากขึ้น
       3. เปิดไฟหน้ารถขณะฝนตก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อต้องขับรถในขณะฝนตกให้เปิดไฟหน้ารถเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถผู้ขับได้จากระยะไกลด้วย
       4. หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรคแรงๆ หรือการเบรกกระทันหันในขณะฝนตก การค่อยๆทิ้งน้ำหนักเหยียบเบรคเพื่อชะลอความเร็วลง นับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด เพราะหากเหยียบเบรคอย่างรุนแรง รถอาจลื่นไถลได้
       5. ขับรถอย่างมีสติและเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้าในขณะฝนตกหนัก ในยามที่ถนนเปียกจะต้องใช้เวลาและระยะทางในการเบรคเพิ่มขึ้น เมื่อประสบกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ขับตามหลังรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุก จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้
       6. ในขณะฝนตกให้หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก ผู้ขับรถไม่มีทางทราบได้เลยว่าภายใต้ผิวน้ำนั้นมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าปรากฏว่าแอ่งน้ำมีลักษณะเป็นหลุมลึกมาก หากขับลงไปยังแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง รถอาจเสียหลักเกิดอุบัติเหตุ จนได้รับความเสียหายร้ายแรง
       7. การใช้เกียร์ต่ำกระทันหันขณะฝนตกเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ขณะที่พื้นถนนเปียก การเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลกระทบต่อความเร็วของล้อและยาง อาจทำให้รถลื่นไถลและสูญเสียการควบคุมรถ ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ผู้ขับขี่ควรใช้ความระมัดเพิ่มขึ้นเมื่อต้องการเปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำขณะขับบนถนนลื่น โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถขึ้นหรือลงเนินที่มีความลาดชัน
       8. กรณีรถเหินน้ำ ซึ่งเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง หรือแอ่งน้ำ เพื่อความปลอดภัยผู้ขับขี่ควรจับพวงมาลัยให้มั่น ลดความเร็วรถก่อนถึงแอ่งน้ำจะช่วยลดแรงกระแทก ห้ามเหยียบเบรคในขณะที่ขับผ่านแอ่งน้ำ
เพราะจะทำให้ล้อล็อคและรถเสียการทรงตัว จนเกิดอาการหมุนหรือปัดอย่างรวดเร็ว ให้แก้ไขโดยค่อยๆถอนคันเร่งรอจนรถสามารถทรงตัวได้ดี จึงค่อยเหยียบเบรคเพื่อหยุดรถ
       9. ในขณะที่ฝนตกหนักมากเกินไป ไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้ในระยะ 25 เมตร ควรหยุดเดินทางโดยการจอดพักตามสถานที่ต่างๆที่อยู่ใกล้ในขณะนั้น และไม่ควรจอดรถข้างถนนเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้รถที่วิ่งในเลนส์เส้นทางเดียวกัน อาจมองไม่เห็นรถที่จอดอยู่ จนเกิดอุบัติเป็นเหตุตามมาได้
       สิ่งสำคัญของการขับรถในขณะฝนตกหรือแม้แต่ฝนไม่ตก เพื่อให้ปลอดภัย คือ รถยนต์จะต้องมีการยึดเกาะของยางกับถนนอย่างเต็มสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของยางกับถนน เลือกใช้ยางที่ได้มาตรฐาน ใช้ยางที่สามารถรองรับน้ำหนักรถ โดยให้ขนาดของยางสัมพันธ์กับรถที่ใช้อยู่
       ในปัจจุบันการก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนวัตกรรมทางยานยนต์จะมี ABS (ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค) EBD (ระบบกระจายแรงเบรค) BA (ระบบเพิ่มแรงเบรคอัตโนมัติ) TCS (ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี) ESC (ระบบควบคุมการทรงตัว) ระบบเหล่านี้ล้วนเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานป้องกันเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้ถูกทดสอบในทุกสภาวะทุกพื้นที่ทุกเส้นทางที่มีอยู่ทั้งหมด เนื่องจากแต่ละบุคคลล้วนเจอกับเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวแปรควบคุมและตัวแปรตาม ในแต่ละพื้นที่และแต่ละเหตุการณ์ย่อมไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นควรพึ่งพาและฝากชีวิตไว้กับสายตา มือและเท้า ของท่านไว้ก่อนเป็นอันดับแรก โดยไม่ตกอยู่ในวังวนแห่งความประมาท และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้

emo13 emo13 emo13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21มี.ค.2012, 01:31:52 โดย GRN »

ออฟไลน์ สนสามใบ

  • ไมล์ 3001-4000
  • *
  • กระทู้: 3790
  • คะแนน Like 300
ตกหนักมากๆ ผมยอมหาที่ปลอดภัย แล้วจอดรถรอ ไม่อยากเสี่ยงขับอ่ะครับ

ออฟไลน์ Nesteen

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 456
  • คะแนน Like 8
  • Phetburi Zone
  • จังหวัด: Phetburi-Samutsongkram
       การขับรถที่ถูกวิธีในขณะฝนตก
       1. ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีในขณะฝนตก
       2. ในขณะที่เกิดฝนตกต้องขับอย่างระมัดระวัง! ใส่ใจในการขับขี่และรักษาระดับความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนอาจก่อตัวเป็นแผ่นน้ำบางๆ แรงตึงพื้นผิวน้ำน้อยมาก เมื่อไปแซกอยู่ระหว่างถนนกับยาง จะทำให้สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของยางกับถนนลดลงเป็นอย่างมาก ทำให้ความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง ผู้ขับขี่จึงควบคุมรถได้ยากขึ้น
       3. เปิดไฟหน้ารถขณะฝนตก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อต้องขับรถในขณะฝนตกให้เปิดไฟหน้ารถเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถผู้ขับได้จากระยะไกลด้วย
       4. หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรคแรงๆ หรือการเบรกกระทันหันในขณะฝนตก การค่อยๆทิ้งน้ำหนักเหยียบเบรคเพื่อชะลอความเร็วลง นับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด เพราะหากเหยียบเบรคอย่างรุนแรง รถอาจลื่นไถลได้
       5. ขับรถอย่างมีสติและเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้าในขณะฝนตกหนัก ในยามที่ถนนเปียกจะต้องใช้เวลาและระยะทางในการเบรคเพิ่มขึ้น เมื่อประสบกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ขับตามหลังรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุก จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้
       6. ในขณะฝนตกให้หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก ผู้ขับรถไม่มีทางทราบได้เลยว่าภายใต้ผิวน้ำนั้นมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าปรากฏว่าแอ่งน้ำมีลักษณะเป็นหลุมลึกมาก หากขับลงไปยังแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง รถอาจเสียหลักเกิดอุบัติเหตุ จนได้รับความเสียหายร้ายแรง
       7. การใช้เกียร์ต่ำกระทันหันขณะฝนตกเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ขณะที่พื้นถนนเปียก การเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลกระทบต่อความเร็วของล้อและยาง อาจทำให้รถลื่นไถลและสูญเสียการควบคุมรถ ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ผู้ขับขี่ควรใช้ความระมัดเพิ่มขึ้นเมื่อต้องการเปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำขณะขับบนถนนลื่น โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถขึ้นหรือลงเนินที่มีความลาดชัน
       8. กรณีรถเหินน้ำ ซึ่งเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง หรือแอ่งน้ำ เพื่อความปลอดภัยผู้ขับขี่ควรจับพวงมาลัยให้มั่น ลดความเร็วรถก่อนถึงแอ่งน้ำจะช่วยลดแรงกระแทก ห้ามเหยียบเบรคในขณะที่ขับผ่านแอ่งน้ำ
เพราะจะทำให้ล้อล็อคและรถเสียการทรงตัว จนเกิดอาการหมุนหรือปัดอย่างรวดเร็ว ให้แก้ไขโดยค่อยๆถอนคันเร่งรอจนรถสามารถทรงตัวได้ดี จึงค่อยเหยียบเบรคเพื่อหยุดรถ
       9. ในขณะที่ฝนตกหนักมากเกินไป ไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้ในระยะ 25 เมตร ควรหยุดเดินทางโดยการจอดพักตามสถานที่ต่างๆที่อยู่ใกล้ในขณะนั้น และไม่ควรจอดรถข้างถนนเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้รถที่วิ่งในเลนส์เส้นทางเดียวกัน อาจมองไม่เห็นรถที่จอดอยู่ จนเกิดอุบัติเป็นเหตุตามมาได้
       สิ่งสำคัญของการขับรถในขณะฝนตกหรือแม้แต่ฝนไม่ตก เพื่อให้ปลอดภัย คือ รถยนต์จะต้องมีการยึดเกาะของยางกับถนนอย่างเต็มสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของยางกับถนน เลือกใช้ยางที่ได้มาตรฐาน ใช้ยางที่สามารถรองรับน้ำหนักรถ โดยให้ขนาดของยางสัมพันธ์กับรถที่ใช้อยู่
       ในปัจจุบันการก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนวัตกรรมทางยานยนต์จะมี ABS (ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค) EBD (ระบบกระจายแรงเบรค) BA (ระบบเพิ่มแรงเบรคอัตโนมัติ) TCS (ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี) ESC (ระบบควบคุมการทรงตัว) ระบบเหล่านี้ล้วนเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานป้องกันเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้ถูกทดสอบในทุกสภาวะทุกพื้นที่ทุกเส้นทางที่มีอยู่ทั้งหมด เนื่องจากแต่ละบุคคลล้วนเจอกับเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวแปรควบคุมและตัวแปรตาม ในแต่ละพื้นที่และแต่ละเหตุการณ์ย่อมไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นควรพึ่งพาและฝากชีวิตไว้กับสายตา มือและเท้า ของท่านไว้ก่อนเป็นอันดับแรก โดยไม่ตกอยู่ในวังวนแห่งความประมาท และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้

emo13 emo13 emo13

เยี่ยมครับ ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ออฟไลน์ โต้ง มีนบุรี (NDC.๔๒๘)

  • ไมล์ 3001-4000
  • *
  • กระทู้: 3266
  • คะแนน Like 123
  • NDC.๔๒๘ โต้งครับ
  • จังหวัด: บ้านเกิด สกลนคร บ้าน ผบ. พิจิตร ทำงานที่ กรุงเทพฯ
  • ชื่อเล่น: โต้งครับ
ขับช้าๆๆ และเปิดแอร์เบาๆๆครับน้า มันเย็น emo10 emo10 emo36 emo36
ไม่ถึง 18 นั่งหน้า   เกิน 25 นั่งหลัง
Hi-2Dr 3.0 ดำ Z-Prestige(กระบะบ้านๆ)

ออฟไลน์ speedline

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 416
  • คะแนน Like 3
ผมขอฝากเพื่อนสมาชิกบ้องหูพวกที่ขับรถแล้วเปิดไฟฉุกเฉินเวลาฝนหนักด้วยครับ  emo7 emo7 emo7
ในสงครามกลางเมือง แนวยิงนั้นมองไม่เห็น
แต่มันผ่านหัวใจของผู้คน

In a civil war the firing line is invisible;
it passes through the hearts of men.

ออฟไลน์ ตั้ม รามอินทรา

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 297
  • คะแนน Like 1
ตามพี่ๆเลยครับ

ออฟไลน์ Mod-Dum®Shop+

  • บริการกันเป็นกันเอง...
  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 8001-9000
  • *
  • กระทู้: 10704
  • คะแนน Like 381
  • จังหวัด: รังสิต-คลองสาม ธัญญ 086-5200520
  • ชื่อเล่น: น้าภพ คลอง3
ถ้ามองไม่เห็นจริงแนะนำให้จอดในที่ๆไม่กีดขวางจราจร หรือที่จะทำให้เกิดอันตราย การขับรถตอนฝนตก อันตรายกว่าถนนปกติ โดยเฉพาะตกใหม่ๆ ถนนจะลื่น เเละยางยังไม่อิ่มน้ำ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เเละไม่ควรขับเร็วน่ะครับ emo34
กรองแอร์+ฝาปิด Dmax ทุกรุ่น/อุดEGRUro3-4/1.9/Service ทุกระยะ/ตะแกรงกันหิน/โลโก้แดงแท้/Hilanderแท้//AT Meter/ท่ออินเตอร์/ท่อแทนเเคท/คันเร่งไฟฟ้า/Super fast /Remap/ประดับยนต์อื่นๆชมด้านใน-->http://www.newdmax-club.com/index.php/topic,2212.0.html[/color

ออฟไลน์ BooMz_Ubon

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 469
  • คะแนน Like 0
ผมขอฝากเพื่อนสมาชิกบ้องหูพวกที่ขับรถแล้วเปิดไฟฉุกเฉินเวลาฝนหนักด้วยครับ  emo7 emo7 emo7

เอาอย่างนั้นเลยหรือครับ

 emo10 emo10
NDC 147
ชื่อ บูม
จังหวัด อุบลราชธานีครับ

ออฟไลน์ speedline

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 416
  • คะแนน Like 3
ผมขอฝากเพื่อนสมาชิกบ้องหูพวกที่ขับรถแล้วเปิดไฟฉุกเฉินเวลาฝนหนักด้วยครับ  emo7 emo7 emo7

เอาอย่างนั้นเลยหรือครับ

 emo10 emo10

เอาอย่างนั้นเลยครับ...พวกนี้สงสัยซื้อใบขับขี่มา จอดอยู่ จะเลี่ยวซ้าย-ขวา เราก็ไม่รู้ที่สำคัญไอ้คันตามท้ายโครตแสบตา ไฟฉุกเฉินจะเปิดได้ก็ตอนรถจอดสนิทนะครับหรือมีเหตุฉุกเฉินจริงๆ ไม่ใช่เอาไว้เปิดฝนตกหนักหรือข้ามทางแยก

พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี 2522 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 มีข้อกำหนดเกี่ยวกับ เรื่องนี้ดังนี้ คือ
     มาตรา 56 ระบุไว้ว่า กรณีที่รถยนต์เกิดเครื่องยนต์เสียหรืออุปกณ์รถยนตเสียจะต้องเคลื่อนย้ายให้พ้นจากทางเดินรถหากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ต้องเปิดสัญญาณไฟกระพริบ หรือสัญญาณไฟฉุกเฉินตามที่กฎกระทรวงกำหนดแสดงให้เห็นชัดเจน
     ทั้งนี้ กฎกระทรวง ข้อ 11 ได้ระบุเกี่ยวกับสัญญาณไฟฉุกเฉินไว้ว่า กรณีที่จำเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถเนื่องจากเครื่องยนต์หรืออุปกรณ์รถยนต์ขัดข้องให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติดังนี้ ให้สัญญาณเป็นไฟกระพริบเหลืองอำพัน-ขาวที่ติดตั้งอยู่หน้ารถด้านซ้ายและขวาและไฟสัญญาณกระพริบ แดง-เหลืองอำพัน บริเวณท้ายรถ
ในสงครามกลางเมือง แนวยิงนั้นมองไม่เห็น
แต่มันผ่านหัวใจของผู้คน

In a civil war the firing line is invisible;
it passes through the hearts of men.

ออฟไลน์ pakim (No.NDC.241)

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 377
  • คะแนน Like 1
  • pakim (No.NDC.241)
ผมขอฝากเพื่อนสมาชิกบ้องหูพวกที่ขับรถแล้วเปิดไฟฉุกเฉินเวลาฝนหนักด้วยครับ  emo7 emo7 emo7

ขอฝากด้วยอีกคนครับขับเป็นอย่างเดียวแต่ไม่รู้จักใช้  ฝากดวยอีกคนนะ emo7 emo7 emo7
No.NDC.241

ออฟไลน์ ToRae

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1816
  • คะแนน Like 3
  • เป็นต่อ เชียงใหม่ NDC 445 ครับ
ถ้าตกหนักมากๆไปต่อไม่ไหวจอดดีกว่าครับไปต่ออันตราย
น้องนิว เงินอาร์กติก