การล้างรถที่ถูกวิธี ควรต้องใช้น้ำฉีดล้าง คราบภายนอกตัวรถ (เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ที่มีใช้กันตาม ศูนย์บริการ) จะทำให้ฝุ่นละออง คราบโคลน หลุดออกไปเกือบ 100 % แล้วจึงใช้ฟองน้ำ ชุบเช็ดให้ทั่วบริเวณอีกครั้ง ด้วยโฟมล้างรถ หรือ แชมพู เท่านั้น ห้ามใช้ผงซักฟอก เพราะจะทำให้สีซีดจาง
ถ้าหากไม่ใช่วิธีนี้ คราบสิ่งสกปรก โดยเฉพาะิอย่างยิ่ง ฝุ่น หรือ เม็ดทราย ที่ติดตัวรถ เมื่อนำผ้า หรือ ฟองน้ำ ไปเช็ด ก่อนที่จะใช้น้ำฉีดล้าง จะทำให้เกิดริ้วรอยที่เรียกกันว่า "ขนแมว" และถ้าหากเป็นเม็ดทราย จะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ ดังนั้นที่ถูกต้อง จึงควรใช้น้ำฉีดล้างคราบเหล่านั้น ออกให้หมดเสียก่อน หลังจากนั้นจึงใ้ช้น้ำฉีดล้าง โฟม หรือ แชมพู ออกจนหมด ทิ้งไว้ซักครู่ จึงใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งสนิทอีกครั้ง
ฟองน้ำที่ใช้จะเป็นชนิดไหนก็ได้ แต่ต้องสะอาด ต้องระวังไม่ให้มีเม็ดทรายติดอยู่ ส่วนผ้าที่ใช้ควรเป็น ผ้าสำลี หาซื้อได้ตามร้านขายสีพ่นรถยนต์ทั่วไป หรือใช้ ผ้าชามัวร์ จะเป็นของแท้ หรือว่า สังเคราะห์ก็ได้ ที่สำคัญคือ ผ้าจะต้อง สะอาด หลังจากใช้แล้วควรซักล้าง ตากให้แห้งแล้ว ควรเก็บไว้ให้มิดชิด
หลังจากเช็ดรถจนแห้งสนิทดีแล้ว ใช้ ยาลงเงา (มีขายตามร้านขายสีพ่นรถยนต์) จะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ นำมาลงเงาโดยป้ายน้ำยาให้ทั่วบริเวณ แล้วใช้ผ้าสำลีที่แห้งสนิท เช็ดจนขึ้นเงางาม ส่วนยางรถยนต์ก็อาจใช้ Waxy เช็ดก็จะทำให้เป็นสีดำสวยงาม Waxy นี่สามารถใช้เช็ดกับพลาสติคสีดำด้วยก็ได้
น้ำยาเคลือบเงา ปกติแล้ว อู่ซ่อมรถยนต์โดยทั่วไปจะใช้ยี่ห้อ 3M ซึ่งจะมีที่ใช้กับสีแห้งเร็ว และแห้งช้า ราคาไม่แพงจนเกินไปนัก คุณภาพดี เคลือบผิวได้นาน สีจะมีความฉ่ำและเงางาม ส่วนยี่ห้อ Gana ก็เป็นที่นิยมตามเต้นท์รถยนต์ เนื่องจากมีราคาที่ถูก คุณภาพพอใช้ได้ ก็แล้วแต่จะเลือกใช้ตามความต้องการ
การล้างรถยนต์ ด้วยตัวเองโดยไม่ได้ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง บ่อยๆ ไม่เป็นผลดี เพราะทุกครั้งที่ล้าง จะทำให้สีเกิดเป็นรอยขนแมว ไม่ว่าจะระวังเพียงใดก็ตาม ยิ่งถ้าไม่ได้มีการเคลือบทับหน้าด้วย น้ำยาเคลือบเงาด้วยแล้ว ดังนั้นจึงควรล้างรถ ตามศูนย์บริการ คาร์แคร์ หรือตามปั๊มน้ำมัน จะดีกว่า และเราอาจเอา น้ำยาเคลือบเงาของเรา ไปให้เขาลงเงาให้ก็ไ้ด้ หากรถยนต์ไม่สกปรกมากนัก ก็เพียงแค่ใช้ ผ้าขนไก่ที่สะอาดๆ ปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ออก ก็เพียงพอแล้ว