เรื่องหนึ่งที่คนใช้รถจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับยานยนต์ของตนก็คือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตรถยนต์มักติดสัญญาณเตือนเป็นไฟต่าง ๆ บนหน้าปัดมาตรวัด แต่แทนที่ผู้ใช้รถจะรู้ว่าไฟเตือนหมายถึงอะไร ผลวิจัยกลับชี้ว่า ผู้ใช้รถหลายคนสับสนกับไฟเตือนต่าง ๆ อย่างมากเลยทีเดียว
ผลการวิจัยจากบริทาเนีย เรสคิว บริษัทให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านยานยนต์ชั้นนำในอังกฤษ เผยว่า ผู้ขับขี่กว่า 98 เปอร์เซ็นต์ไม่เข้าใจสัญลักษณ์ไฟเตือนที่ขึ้นอยู่บนหน้าปัดรถยนต์ ซึ่งจะโทษผู้ขับขี่ทั้งหมดก็ไม่ถูกนัก เพราะว่ามีสัญญาณเตือนกว่า 99 แบบจากรถยนต์ยอดนิยมกว่า 15 รุ่น และมีเพียง 12 รุ่นเท่านั้นที่ใช้สัญลักษณ์ไฟเตือนความผิดปกติดีไซน์รูปเดิม
และอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสับสนคือการมีไฟเตือนจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น เมอร์เซเดส เบนซ์ อี-คลาส ซึ่งมีสัญลักษณ์เตือนความผิดปกติมากถึง 41 รูป ด้วยจำนวนขนาดนี้ ทำให้ผู้ขับขี่อาจไม่สนใจว่าไฟที่ขึ้นนั้นหมายถึงอะไร ทำให้ละเลยจนเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ รวมถึงยังมีเรื่องที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยโดยตรง เช่น ผู้ขับขี่จำนวน 35 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้จักสัญลักษณ์ไฟเตือนการทำงานของถุงลมนิรภัย เป็นต้น
จริงอยู่ว่า การออกแบบสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนหน้าปัดที่มากมายจนเราสับสนนั้น จะเป็นความรับผิดชอบของผู้ผลิตรถยนต์ แต่ผู้ใช้รถอย่างเราก็ควรจะต้องเรียนรู้สัญลักษณ์ต่าง ๆ เองบ้าง ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ลองนำสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนหน้าปัดบนรถโฟล์กสวาเกน (Volkswagen) มาให้ดูกัน โดยโฟล์กสวาเกนออกแบบให้เข้าใจได้ง่ายมาก โดยได้แบ่งระดับของไฟเตือนตามสีทั้ง 3 สี ได้แก่ สีเขียว หมายถึง แสดงผลข้อมูล, สีเหลือง หมายถึง สัญญาณเตือนสำหรับการซ่อมบำรุง และสีแดง หมายถึง สัญญาณฉุกเฉินซึ่งควรหยุดรถเพื่อแก้ไขโดยด่วน ฉะนั้นมาดูกันว่า ชาวกระปุกรู้จักและรู้ระดับความจำเป็นของสัญลักษณ์ต่าง ๆ มากน้อยแค่ไหนกันครับ
ที่มา
http://car.kapook.com/view68964.html 
