อธิบายแบบมีภาพประกอบ นิดนึงนะครับ ทาง Lap ของเราที่เทพารักษ์ มี DYNO เป็นของตัวเองครับ แต่ว่าไม่ได้ให้บริการกับประชาชนทั่วไปเลยรู้จักกันในกลุ่มแคบๆครับ
โดยปรกติ แรงม้าของเครื่อง 2.5VGS คือกราฟทางด้านล่างครับ 146.7 hp/344 Nm (เกินจากโบว์ชวร์แฮะ)
โดยปรกติที่แบบใครๆ ก็ทำได้คือการยัด ก๊าซ NGV ลงไปในระบบเผาไหม้เลย ทางผมก็ลองเทสด้วยเช่นกัน โดยลองเพิ่ม ก๊าซเข้าไปเรื่อยๆ แล้วทำการจูนเกลียเล็กน้อย เพื่อเก็บค่าแรงม้าสูงสุด(กะว่าเผื่อแอบขโมยที่ บ.เอามาลง คลอง 5 เล่นๆครับ 555)
ก็๋ได้มาอยู่ที่ 215 hp/ 477 Nm ดั่งกราฟทางด้านล่างครับ
ถามว่าพังไหมประหยัดไม่ พังไม่พังอยู่ที่เท้าขวาเลยครับ และก็ไม่ประหยัดแน่นอนครับ เราจึงทำการลดดีเซลจริงๆ ไม่ใช้สูตรผีบอก ไม่ใช่การคาดคะเน ไม่ปิดตาจูน
ก็ได้แรงม้าที่ใช้ในการส่งมอบรถมาอยู่ที่ 172 hp/ 380 Nm ก็ประมาณเครื่อง 3.0 VGS น่ะครับ (จริงๆแอบบอกว่าจงใจแฮะๆ) ตามกราฟทางด้านล่าง
โดยที่ทาง บ. ไม่ได้ทำการปลดบูสนะครับ ยังคงบูสที่ 1.2 Bar เหมือนเดิม โดยใช้ OBD II ในการตรวจเช็คค่าต่างไในระหว่าง Test ทั้งระหว่างปรับจูนและวิ่งทดสอบบนถนนจริง
แรงม้าแรงบิดที่ เพิ่มขึ้นส่งผลให้ การบรรทุก แรงฉุดลาก กำลังในการขึ้นเขา ดีกว่าเครื่องเดิมครับ แต่ว่าปรับมาแค่ ~20% ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์ครับ เนื่องจากเราปรับจูนก่อนส่งมอบทุกคัน บน DYNO ครับไม่ใช่ เบิ้ลเครื่อง แล้วก็วิ่ง1ยูเทริน แล้วกลับมาจอด
ในการทดสอบ วิ่งทางไกล 670
ที่ขาขึ้น เฉลี่ย ค่าเชื้อเพลิง ต่อ กม. = 1.24
ที่ขาลง เฉลี่ย ค่าเชื้อเพลิง ต่อ กม. = 1.10
ใช้งานทางเขาจาก เชียงใหม่ ไป อ.ปาย วิ่งกินข้าวกินกาแฟถ่ายรูป 462 กม.
เฉลี่ย ค่าเชื้อเพลิง ต่อ กม. = 1.91
คือที่กำลังเครื่อง 172 hp/ 380 Nm ครับ
ค่าติดตั้งราคาโปรโมชั่น แก๊ส 1 ถังอยู่ที่ 60,000 จาก 65,000 ครับ(จะถังใหญ่วางบนกระบะหรือถังเล็กวางใต้ท้องแบบรถทดสอบก็คิดเท่ากัน)
เพิ่มถังอีกถังละ 10,000 บาทครับ ราคานี้รวมทุกอย่างแล้วครับ
คืนทุนที่ ~40,000 km ครับ ถ้าอยากจะประหยัดกว่านี้ ผมก็จูนให้แรงเท่าเดิมโดยการลด น้ำมันดีเซลลงไปอีกได้ครับ แต่ผมว่า แรงม้าแรงบิดประมาณที่คันทดสอบขับสนุกกว่านะครับ