ห้ามตาย ห้ามหาย ก่อน 5 ปี
เพราะ ถ้าผู้ใช้สิทธิ์ ตาย หรือ รถหาย ก่อน 5 ปี จะต้องคืนภาษีให้กับรัฐ
น้าคนไหนที่ใช้ชื่อ ผบ ต้องดูแล ผบ และ รถ ให้ดีด้วยนะครับ
ขอโทษน้า แจ้งข้อมูลคลาดเคลื่อนนิดหน่อย เลยเอาละเอียดมาให้ดู
หลังจากมีประชาชนคนอ่างทอง ออกมาร้องเรียนความเป็นธรรมหลังถูกเรียกคืนเงินรถคันแรก พร้อมดอกเบี้ย เนื่องจากสามีผู้ไปขอใช้สิทธิเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ก่อนที่อธิบดีกรมสรรพสามิต จะออกมาระบุว่าไม่ต้องเสียเงินจำนวนดังกล่าวเนื่องจากไม่ผิดเงื่อนไข ไม่ได้ขายไปก่อน 5 ปี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด! นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ก็ได้ออกมาตอบถึงข้อสงสัยว่า เงื่อนไขรถคันแรก ห้ามตายด้วยใช่หรือไม่นั้นว่า ผู้ที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรกและเสียชีวิต หลังจากการได้รับคืนภาษี หรือ ครอบครองรถเกิน 1 ปี จะยังได้รับสิทธิ์ในโครงการรถยนต์คันแรกไม่ต้องนำเงินภาษีคืนกรมสรรพสามิต เพราะถือเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวที่พึงได้
แต่หากผู้มีสิทธิ์เสียชีวิตก่อนครอบครองรถยนต์ครบ 1 ปี ญาติผู้เสียชีวิตต้องนำเงินมาคืนให้กรมสรรพสามิต ภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้รับเงินไป หากไม่คืน ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องชำระดอกเบี้ยปีละ 15% นับตั้งแต่วันครบกำหนดคืนเงินจนกว่าชำระคืนให้ครบถ้วน ตามที่ใบคำขอใช้สิทธิ์และเงื่อนไขสำหรับรถยนต์ใหม่คันแรก
กระทรวงการคลังออกกฎกระทรวง เผยหลักเกณฑ์อนุญาตให้โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันแรกได้ ก่อน 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกฎกระทรวง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 5 ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม โดยรถยนต์ที่จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ ก่อนครบระยะเวลา 5 ปี จะต้องเข้าข่ายในกรณีต่อไปนี้
1. กรณีผู้ซื้อนำเงินภาษีที่ได้รับคืนไปกลับมาคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วมแล้วแต่กรณี
2. กรณีที่ผู้เช่าซื้อยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดระยะเวลา 5 ปี และผู้ให้เช่านำรถยนต์ไปขายโดยวิธีการประมูล หรือวิธีการที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคกำหนด เมื่อหักใช้หนี้และค่าใช้จ่ายในการขายแล้ว หากมีเงินเหลือ ให้ผู้ให้เช่าซื้อคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
3. กรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดสัญญา ทำให้รถถูกยึด และนำออกขายโดยวิธีการประมูลหรือวิธีการที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคกำหนด เมื่อหักใช้หนี้และค่าใช้จ่ายในการขายแล้ว หากมีเงินเหลือ ให้ผู้ให้เช่าซื้อคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
4. กรณีรถยนต์ที่ซื้อหรือเช่าซื้อเกิดอุบัติเหตุ หรือประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ และผู้ซื้อ หรือผู้เช่าซื้อไม่ประสงค์จะใช้รถยนต์นั้นต่อไป ให้นำเงินภาษีที่ได้รับไปแล้ว มาคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
5. กรณีรถยนต์ที่ซื้อ หรือเช่าซื้อสูญหาย และบริษัทผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อไปแล้ว แต่ต่อมาผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อได้รับรถยนต์กลับคืนมา และต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้กับบริษัทผู้รับประกันภัย กรณีนี้ ผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อต้องนำเงินภาษีที่ได้รับไปแล้ว มาคืนให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
6. กรณีผู้ซื้อ หรือผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม
7. กรณีผู้ให้เช่าซื้อโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้เช่าซื้อ
8. กรณีผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อซึ่งได้รับโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ได้ทำสัญญาเช่าซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าซื้อ โดยผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อยังเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้อ อันเนื่องมาจากการขอสินเชื่อเช่าซื้อนั้น