ตามหลักการคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องยังไงน้ำมันเครื่องสังเคาระห์ก็ดีกว่าแน่นอนครับ
แต่....อายุการใช้งานนานขึ้นก็หมายถึงสิ่งสกปรกที่อยู่ในเครื่องยนต์ก็จะนานขึ้น มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
เครื่องยนต์เมื่อผ่านการใช้งานจะสะสมสิ่งสกปรกฝุ่นละอองที่อาจหลุดรอดมาจากกรองอากาศ เขม่าจากการ
เผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ คราบโคลนจากสารชะล้างที่ผสมมาในน้ำมันเครื่อง รวมทั้งเศษชิ้นส่วนโลหะเล็กๆ ที่เกิด
จากการสึกหรอของเครื่องยนต์เองครับ (อันนี้การอุด EGR ก็ช่วยได้บ้างในเรื่องของการลดเขม่าจากไอเสีย)
ส่วนตัวน้ำมันเครื่องเอง อายุการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยนะครับ ถ้าน้าเป็นคนขับรถใจเย็น
ใช้รอบการขับขี่ไม่สูงมากไม่ใช้งานหนัก ไม่ลากรอบ ไม่ได้บรรทุกของ ไม่วิ่งทางฝุ่น ไม่ใช้รอบเดินเบานานๆ(รถติด)
ที่บ้านอากาศไม่ร้อน น้ำมันเครื่องก็จะมีอายุการใช้งานนานขึ้นครับ คงบอกไม่ได้ว่าจะสักกี่กิโลเมตรถึงเปลี่ยนดี
นอกจากน้าจะติดตั้งมิเตอร์สำหรับวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง นั่นอาจบอกได้ชัดว่านานเท่าไหร่ เมื่อวิ่งในอุณหภูมิ
น้ำมันเครื่องใกล้เคียงกัน รอบเครื่องยนต์เท่ากันแต่แรงดันน้ำมันต่ำลง อันนี้ก็จะบอกได้ว่าน้ำมันเครื่องเริ่มเสื่อมแล้วครับ
สำหรับรถที่มีแรงม้าสูง ใช้รอบสูง อย่างรถที่เค้าวิ่งเล่นกันในสนามแข่ง แค่ 3-5 พันกิโลเมตร น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
ก็ยังเสื่อมสภาพแล้วเลยครับ
ที่ผมเขียนมาไม่ได้มี อคติ กับการใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์นะครับ แต่อยากให้พิจารณาความจำเป็น
ในการใช้งานและความเหมาะสมมากกว่า ผมเองรถที่บ้านบางคันใช้สังเคราะห์บางคันใช้กึ่งสังเราะห์ ก็ดูความเหมาะสม
จากการใช้งานครับ รถใช้งานธรรมดาใช้กึ่งสังเคราะห์ 5 พันโลเปลี่ยนทีพร้อมกรอง ราคาไม่แพงมากสบายตัว
เปลี่ยนได้บ่อยๆ เครื่องสะอาดน้ำมันใหม่ใสเสมอ ส่วนที่ใช้งานหนัก ซัดตลอด แต่ไม่ค่อยได้วิ่งใช้งาน ก็จัดสังเคราะห์ไป
ไม่เกิน 8 พันก็เปลี่ยนที ผมเองทนไม่ไหว น้าๆอาจไม่เห็นด้วย แต่สิ่งสกปรกมันที่อยู่ในเครื่องสะสมมาเรื่อย กรองน้ำมัน
ก็ใช้มานานเก็บสิ่งสกปรกไว้เพียบ คุณสมบัติของน้ำมันก็เริ่มลดลง ทั้งความลื่น ความหนึด ความใส ฯลฯ
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มีราคาสูง ถ้าน้าไม่มีปัญหากับราคา ก็จัดไปได้เลยครับดีกว่าแน่ แต่....ถ้ามองว่าราคาสูง
แล้วจะเปลี่ยนครั้งเดียวใช้มันยัน 2 หมื่นโล ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยเสียเงินน้อยกว่าด้วย เพราะไม่ต้องเปลี่ยนกรองน้ำมัน
อันนี้ผมไม่สนับสนุน ก็อย่างที่ผมเล่ามาแหละครับ ลองพิจารณาดูตามความเหมาะสมกับตัวเรา รถเรา การใช้งานของเรา
ว่าแบบไหนดีกว่าแล้วกันครับ อ้อ....ตัวน้ำมันเครื่องเองมันก็มีหมดอายุนะครับ อาจจะไม่ได้ใช้งานหนัก แต่วิ่งไม่ถึงไมล์
ที่กำหนดเปลี่ยนซะที จอดเยอะ ถึงปีก็ควรเปลี่ยนเช่นกันครับ
