0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ก้อมีข่าวออกมาตั้งนานแล้วนิคับว่ะใครได้เงินรถคันแรกแล้ว "ห้ามใช้" ต้องเก็บไว้ก่อน กระทู้เก่าก้อบอกใว้555+
นี่แหละ ปัญหาที่ตามมา ผมว่ายังไม่จบ น่าจะมีอีกหลายภาค
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม กรมสรรพสามิต ย้ำชัด ผู้ใช้สิทธิ์รถคันแรกต้องครอบครองรถ 1 ปี หากเสียชีวิตก่อน 1 ปี แล้วได้เงินคืนไปแล้ว จะต้องคืนเงิน โอนสิทธิ์ให้ญาติไม่ได้ เพราะไม่ใช่มรดก จากกรณีที่ นางพัชรี สุนทรนันท์ ชาวจังหวัดอ่างทอง เข้ามาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ถูกกรมสรรพสามิตเรียกเงินจากโครงการรถคันแรกคืนพร้อมดอกเบี้ย หลังจากสามีของนางพัชรีซึ่งเป็นผู้ขอใช้สิทธิ์รถคันแรกเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน โดยกรมสรรพสามิต ระบุว่า เมื่อผู้ขอใช้สิทธิ์เสียชีวิตไปแล้ว ถือว่าสิทธิ์ของผู้ตายสิ้นสุดลง ดังนั้นจึงต้องนำเงินที่ได้รับคืนไปแล้วมาคืนให้กรมสรรพสามิต พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ข่าวดังกล่าวได้สร้างความสับสนให้กับประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ในโครงการรถคันแรกเป็นอย่างมาก เพราะไม่แน่ใจว่ากฎเกณฑ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร หากผู้ใช้สิทธิ์เกิดเสียชีวิตกะทันหันเช่นเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ ทำให้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ต้องออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 20 มีนาคมว่า มติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ผู้ขอใช้สิทธิ์รถคันแรกต้องเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ และต้องครอบครองรถยนต์ 1 ปี หากเสียชีวิตหลังครอบครองรถไปแล้ว 1 ปี ก็ไม่ต้องนำเงินภาษีมาคืน อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของนางพัชรีนั้น อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า นางพัชรีต้องนำเงินมาคืนให้กรมสรรพสามิต เพราะจากการตรวจสอบพบว่า สามีของนางพัชรีนั้นไม่ได้ครอบครองรถยนต์ครบ 1 ปี เพราะได้รับรถยนต์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554 แต่มาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ดังนั้น ญาติต้องนำเงินภาษีมาคืนภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้รับเงินไป หากไม่นำมาคืนจะต้องชำระดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับตั้งแต่วันครบกำหนดคืนเงินจนกว่าชำระคืนให้ครบถ้วนตามที่ใบคำขอใช้สิทธิ์และเงื่อนไขสำหรับรถยนต์ใหม่คันแรก อธิบดีกรมสรรพสามิต ยังอธิบายด้วยว่า สิทธิ์รถคันแรกถือเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวที่พึงได้ ไม่ใช่มรดก หากผู้ได้รับสิทธิ์เสียชีวิตก่อน 1 ปี หลังซื้อรถไป ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการรถคันแรกได้แย่ละ