ผู้เขียน หัวข้อ: มีแบบนี้ด้วยหรอ  (อ่าน 4311 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kookju

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 120
  • คะแนน Like 1
มีแบบนี้ด้วยหรอ
« เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:09:26 »
เรื่องมีอยุ่ว่า ตอนที่ผมทำสัญญากับ ไฟแนนซ์   ไฟแนนซ์ ก็มีหนังสือฉบับนึงมาให้เซ็น หลังจากที่เซ็นไปแล้วหลายๆฉบับ
กำลังเพลินเลย ก็ถึงกับตกใจ ว่า เอ๊! นี่มันหนังสือ ทำประกันชีวิตนี่ (ซึ่งตัวผมก็ทำประกันไม่รู้กี่ฉบับแล้ว) แล้วทำไมต้องทำด้วย แล้วทำต้องเสียคนประกันเท่าไร   เซล บอกว่า เสีย 22000 บาท หักจาก เงินดาว ก็จะเสียต่อเดือน ตกเดือนละ 100 กว่าบาท ตลอดอายุค่างวดรถ และจะไม่ได้เงินคืนไม่ครบกำหนด จะได้เงินประกัน ก็คือตายหรือไม่ก็ทุขทนด้วยความพิการ อะไรอีกต่ออะไรอีก บลา บลา บลา ผมก็เลยถามว่าไม่ทำก็ได้ใช่ไหม  ไอ้เซลก็รีบบอกมาเลยว่า ไม่ทำก็จะมีผลต่อการพิจารณา นั่นและมีแถมอีก งั้น ทำครึ่งนึงก็ได้ไม่เต็มวงเงิน และบอกอีกว่า ประกันตัวนี้ทำมาเพื่อปิดวงเงินของรถ ในกรณีที่เกิดปัญหา  เหอะๆ แล้วประกันที่ผมทำมา หกฉบับจะไม่มีเงินพอปิดบัญชีเลยหรอวะเนี่ย เกรียน จริงๆ ผมก็เลยไม่ทำ แล้วบอกมันไปว่า ไม่ผ่าน ก็หาใหม่ได้ รีบๆ เหอะต้องทำธุระ  แม่งหมอจริงๆ

ออฟไลน์ Phong

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 299
  • คะแนน Like 2
  • 2D HR 2.5 VGS Z DVD NO.NDC 034
  • จังหวัด: กรุงเทพ-น่าน
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:13:56 »
มีครับแต่เราเลือกได้ทีจะไม่ทำครับ
NO.NDC 034

ออฟไลน์ udservice

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 921
  • คะแนน Like 10
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:15:18 »
แม่งกวนครับ

ออฟไลน์ น้าปอ_NDC.011

  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 2001-3000
  • *
  • กระทู้: 2817
  • คะแนน Like 65
  • โซนตะวันตก Tel.081981711หนึ่ง8 ปอ เพลินไพร No.11
  • จังหวัด: นครปฐม
  • ชื่อเล่น: น้าปอ
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:18:09 »
ทุกวันนี้เป็นแบบนี้ไปหมด แอบเนียน...  emo5

ออฟไลน์ Arts

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 797
  • คะแนน Like 1
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:19:01 »
มีด้วยหรือครับ

ออฟไลน์ kwan_cr2 No.209

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 575
  • คะแนน Like 9
  • ยังไม่ทันลุกขึ้นสู้ จะรู้ได้ไง ว่าไม่ชนะ
Re:
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:21:12 »
ไม่มีครับ
ไม่มีจรรยาบัญ
เซลล์จัญไ_
รอ ต่อ ไป

ออฟไลน์ sittipe

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 73
  • คะแนน Like 0
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:24:45 »
 emo32 ขอบคุณที่มาเตือนครับ

ออฟไลน์ Tanai_sign red

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 611
  • คะแนน Like 18
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:25:22 »
มีครับถ้าตายก็ไม่ต้องส่งต่อ มันเป็นเสมือนประกันวงเงินสินเชื่ออ่ะครับ ไม่ได้บังคับ

ออฟไลน์ ToRae

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1816
  • คะแนน Like 3
  • เป็นต่อ เชียงใหม่ NDC 445 ครับ
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:25:46 »
ตายละตูตอนทำไฟแนนไม่ได้ดูด้วยเซ็นอย่างเดียว emo4 เอาไงละทีนี้งามงอกแล้วตู  emo42  emo42
น้องนิว เงินอาร์กติก

ออฟไลน์ Tanai_sign red

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 611
  • คะแนน Like 18
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:42:55 »
ลักษณะการคุ้มครอง มีใช้กับสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้วย อ่านแล้วผมว่าข้อดีของมันคือทำให้เราและลูกหลานไม่มีหนี้ถ้าเกิดเป็นไรไป ที่เราทำประกันชีวิตไว้แต่ละที่ก็ไม่ต้องเอามาจ่ายหนี้ที่เหลือตรงนี้ เพราะประกันจะปิดบัญชีให้เรา

AIA จับมือทิสโก้ รุกประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถ ร่วมโครงการกว่าหมื่น

เอไอเอ จับมือ แบงก์ทิสโก้ รุกตลาดประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หรือ Auto Loan Protection เผยเพียง 6 เดือน มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 คน วงเงินทุนประกัน 4,593 ล้านบาท

มร.โทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูง และผู้จัดการทั่วไป บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) เปิดเผยว่า เอไอเอ ได้ร่วมกับ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการประกันสินเชื่อรถยนต์ ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เช่าซื้อรถยนต์มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 ที่ผ่านมา ผลปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้า โดยมีคนเข้าร่วมโครงการ 10,223 ราย คิดเป็นวงเงินทุนประกัน 4,593 ล้านบาท

การประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เป็นการประกันที่ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต ประสบอุบัติเหตุ สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร

โดยเอไอเอจะเป็นผู้รับภาระในการชำระค่างวดของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังคงค้างไว้ เพื่อให้ผู้เอาประกันมั่นใจได้ว่า รถยนต์นั้นจะไม่ถูกยึด แม้ว่าตนเองจะประสบเหตุจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ และกรรมสิทธิ์ในรถยนต์นั้นจะเป็นของบุคคลในครอบครัวอย่างแน่นอน โดยจะมีระยะเวลาความคุ้มครองเท่ากับระยะเวลาการเช่าซื้อ

สำหรับขอบเขตความคุ้มครองของการประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เอไอเอจะให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง แก่ผู้เอาประกัน ซึ่งเป็นลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของทิสโก้ ในกรณีเสียชีวิต ทั้งจากการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั่วไป จะได้รับความคุ้มครองเพิ่มอีก 50% ของทุนประกันเริ่มต้น หรือได้รับความคุ้มครองเพิ่มอีก 100% ของทุนประกัน ในกรณีประสบอุบัติเหตุสาธารณภัย

"โครงการนี้ถือเป็นการดำเนินธุรกิจแบบ Win-Win โดยจะสร้างความมั่นใจให้กับแบงก์ทิสโก้ว่า สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์นั้นจะได้รับการชำระคืน แม้ว่าผู้ที่เช่าซื้อจะประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปได้"

นอกจากนั้น ยังลดภาระและค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้สินและยึดทรัพย์ ในด้านของผู้เอาประกัน โครงการนี้จะช่วยเสริมความมั่นใจให้แก่ผู้เอาประกันว่า รถยนต์ที่เช่าซื้อกับทิสโก้นี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือของทายาทและสมาชิกในครอบครัวอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เบี้ยประกันของกรมธรรม์นี้ยังต่ำ ชำระเบี้ยประกันครั้งเดียว แต่ได้รับความคุ้มครองในวงเงินสูง"

คุณสมบัติของผู้เอาประกัน ต้องเป็นลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ที่มีอายุระหว่าง 20-59 ปี แต่ทั้งนี้ เมื่อรวมกับระยะเวลาเอาประกันแล้ว ต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี

สำหรับเบี้ยประกันจะเป็นเบี้ยประกันชำระครั้งเดียว อัตราเบี้ยประกันประมาณ 1.25% ของวงเงินสินเชื่อเช่าซื้อเริ่มต้น

http://www.kaohoon.com
ที่มาของข่าว :: เว็บไซต์ นสพ.ข่าวหุ้น 19 ก.ค. 2550

ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเพื่อคนที่คุณรัก จากคนที่รักคุณ

    05 มิ.ย. 2554, 13:31 น.
    หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ-หุ้น

ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ไม่ใช่สัญญาที่ผูกติดกับบัญชีสินเชื่อ ทำให้เราสามารถแยกซื้อประกันจากสถาบันการเงินอื่นก็ได้ ถ้าประเมินแล้ว “คุ้มค่ากว่า”...

โดย...สวลี ตันกุลรัตน์

สมัยนี้ “เป็นหนี้...ง่ายนิดเดียว” (ถ้าเป็นคนที่ “เครดิตดี”) ใช้เอกสารเพียงไม่กี่อย่าง เซ็นชื่อไม่กี่ตัว ที่เหลือก็เพียงแค่รอเวลาให้สถาบันการเงินอนุมัติ ซึ่งโดยมากจะใช้เวลาไม่นาน

แต่ประเด็นปัญหาจนกระทั่งมีคนบ่นออกมาดังๆ ก็คือ สถาบันการเงินโยนความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ออกมาให้ลูกหนี้เป็นคนรับผิดชอบ ด้วยการบังคับให้ทำ “ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ”

ที่เป็นข่าว “ขึ้นหน้าหนึ่ง” เมื่อต้นสัปดาห์ ก็คือ ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่กลายเป็นการ “เพิ่มภาระทางการเงิน” ให้กับคนอยากมีบ้านมากขึ้น เพราะไหนจะต้องขวัญผวากับดอกเบี้ยที่มีแต่จะปรับเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อและขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยอีกหลายรายการ แถมยังต้องมาเจอสถานการณ์กดดันจากเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินให้ใช้บริการ “ประกันชีวิต” เพิ่มเข้าไปอีก

แต่เชื่อเถอะว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินพยายามทำอยู่นั้น เป็นการทำเพื่อคนที่คุณรัก เพราะเขาเป็นคนที่รักคุณ (จริงๆ นะ)

คืออะไร

ดูเหมือนว่าประกันชีวิตประเภทนี้จะมีชื่อเรียกค่อนข้างหลากหลาย เช่น กรมธรรม์คุ้มครองสินเชื่อแบบทุนประกันลดลง (Mortgage Reducing Term Assurance : MRTA) ประกันภัยเพื่อ|ค้ำประกันเงินกู้จำนอง หรือประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่สถาบันการเงินบางแห่งยังตั้งชื่อให้ประกันประเภทนี้ด้วยชื่อเฉพาะของตัวเองอีกด้วย

ไม่ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไร แต่หลักการโดยทั่วไปแล้วไม่แตกต่างกัน คือ หากผู้ขอสินเชื่อที่ทำประกันชีวิตประเภทนี้เสียชีวิต หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ในระหว่างที่ยังผ่อนชำระสินเชื่อไม่ครบ บริษัทประกันจะชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับธนาคารแทนทายาทของผู้กู้ โดยที่ความคุ้มครองจะทยอยลดลงไปตามวงเงินกู้ที่ลดลง

เพราะฉะนั้น จึงไม่ทำให้ “ภาระหนี้” ตกทอดไปถึงทายาท และทำให้ทายาทได้รับกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นทันที โดยไม่ต้องผ่อนชำระต่อ

และไม่ได้มีเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น ที่มี “ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ” ไว้คอยบริการ เพราะสำหรับ “คนธรรมดา” ยังมีสินเชื่อบุคคลอีก 2 ประเภทที่มีประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อให้ลูกหนี้เลือกซื้อ ได้แก่ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบัตรเครดิต และประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อรถยนต์

สำหรับ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อรถยนต์ หรือประกันสินเชื่อรถยนต์ หรือประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มีรูปแบบเดียวกันกับประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อที่อยู่อาศัย คือ วงเงินความคุ้มครองจะลดลงไปตามยอดหนี้ที่ลดลง ตามระยะเวลาการผ่อนชำระ

ขณะที่ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบัตรเครดิต หรือประกันสินเชื่อบัตรเครดิตจะต่างออกไปเล็กน้อย คือ เบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับ “ยอดหนี้ค้างชำระ” ในวันตัดยอดของบัตรเครดิต คูณด้วยอัตราเบี้ยประกัน และจะได้รับความคุ้มครองเท่ากับมูลหนี้คงค้าง ณ วันที่เสียชีวิตหรือวันที่เริ่มทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร

ทำเพื่อใคร

ชื่อเรื่องก็บอกชัดอยู่แล้ว การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเป็นการทำเพื่อ “คนที่เรารัก” เพราะหลังจากที่เราเสียชีวิต หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ก็จะไม่ทำให้คนที่เรารักเดือดร้อน ไม่ต้องวิ่งวุ่นเพื่อหาทางชำระหนี้ที่ยังค้างอยู่ ไม่ทำให้ต้องวิ่งวุ่นเพื่อขายบ้านเพื่อลดภาระทางการเงิน ไม่ทำให้ต้องย้ายออกจากบ้านไป เพราะถูกยึดบ้าน

ในอีกมุมหนึ่ง คือ ทำเพื่อตัวเราเอง เพื่อความสบายใจของเราเองว่า จะไม่ทิ้งภาระหนี้เอาไว้ให้คนข้างหลังต้องเข้ามาแบกรับ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

แต่หากมองออกมาในโลกธุรกิจ ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า สถาบันการเงินได้รับประโยชน์จากการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อไปแบบเต็มๆ เพราะมีแต่ได้กันได้

อย่างแรก คือ ความเสี่ยงในการทำธุรกิจลดลง เพราะวัตถุประสงค์ใหญ่ของสถาบันการเงินที่ให้กู้เงิน คือ รายได้จากดอกเบี้ย ไม่มีสถาบันการเงินที่ต้องการให้หนี้ที่ปล่อยไปกลายเป็นหนี้เสีย จนต้องไป “ยึดบ้าน-ยึดรถ” ที่เป็นหลักประกันมาขายทอดตลาด และที่แย่กว่า คือ หนี้บัตรเครดิต เพราะไม่มีหลักประกันให้ยึด

ดังนั้น หากโยนความเสี่ยงนี้ออกไปให้บริษัทประกันรับไป โดยมีลูกหนี้เป็นคนจ่ายค่าประกันความเสี่ยงอันนี้จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด นั่นเพราะหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ (ตามเงื่อนไขของประกัน) ธนาคารจะได้เงินต้นที่ค้างชำระครบเต็มจำนวน และปิดบัญชีเงินกู้อันนั้นได้โดยไม่ต้องมานั่งกังวลว่า ทายาทของลูกหนี้จะหาเงินที่ไหนมาผ่อนต่อ

อย่างที่สอง คือ สถาบันการเงินจะได้ค่านายหน้าจากการขายประกัน เพราะประกันประเภทนี้เป็นประกันที่ขายผ่านธนาคาร หรือที่เรียกว่า แบงก์แอสชัวรันซ์ (Bancassurance) ซึ่ง “นายแบงก์” เองก็ออกมายอมรับว่า เพราะถ้าจะหวังพึ่งรายได้จากดอกเบี้ยอย่างเดียวคงไม่มากพอ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดดอกเบี้ยแข่งกัน

อย่างที่สาม คือ รายได้ดอกเบี้ยอีกนิดหน่อยจากการให้ลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระเบี้ยประกันได้ในครั้งเดียวกู้เงินมาชำระเบี้ย และทยอยจ่ายคืนไปพร้อมๆ กับค่างวดในการผ่อนบ้าน หรือรถยนต์

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินธนาคารทำเพื่อเราบ้าง โดยการลดดอกเบี้ยให้เป็นกรณีพิเศษสำหรับลูกหนี้ที่ตัดสินใจทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ

ใครควรทำ

แม้ว่าจะได้ชื่อว่า ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ แต่ ทัศพงศ์ บุศยพลากร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจประกันลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า ประกันประเภทนี้ไม่ได้ผูกติดหรือพ่วงกับการให้สินเชื่อ “ผู้กู้” จึงไม่จำเป็นต้องเป็นคนทำประกันเสมอไป แต่คนที่ควรทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ คือ คนที่เป็นคนชำระค่างวดจริงๆ หรือคนที่หารายได้หลักของบ้าน

“เราแนะนำให้ผู้ที่หารายได้หลักของบ้านเป็นคนทำประกัน ซึ่งในบางกรณีอาจจะไม่ใช่ผู้กู้ก็ได้” ทัศพงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในกรณีที่เป็นผู้กู้ร่วมกัน 2 คน จะทำประกันคนเดียว หรือ 2 คนก็ได้ แต่เดิมธนาคารกำหนดให้ทำประกันที่มีความคุ้มครองไม่เกินวงเงินกู้ แต่ในปัจจุบันเปิดโอกาสให้ผู้กู้ร่วมแต่ละคนทำประกันที่คุ้มครองเต็มวงเงินกู้ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดอะไรขึ้นกับอีกคนหนึ่ง ผู้กู้ร่วมก็หมดภาระการผ่อนเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังไม่จำเป็นต้องทำทุนประกันให้เท่ากับวงเงินสินเชื่อ หรือตามระยะเวลาที่กู้ก็ได้

แต่หากเป็น “คนโสด” ไม่มีคนในอุปการะที่ไม่สามารถรับภาระหนี้ต่อไปได้ หรือไม่เดือดร้อนกับบ้าน หรือรถที่จะต้องถูกยึดไป หรือหากสามารถขายบ้านเพื่อนำมาชำระหนี้ (โดยมากมูลค่าบ้านและที่ดินที่ขายได้มักจะสูงกว่าภาระหนี้ที่เหลืออยู่) ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ เพื่อเพิ่มภาระการเงินให้กับตัวเอง

เพราะประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ ไม่ใช่สัญญาที่ผูกติดกับบัญชีสินเชื่อ ทำให้เราสามารถแยกซื้อประกันจากสถาบันการเงินอื่นก็ได้ ถ้าประเมินแล้ว “คุ้มค่ากว่า” เพราะเชื่อว่าสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้คงจะไม่ขัดข้อง เพราะในที่สุดสถาบันการเงินจะได้รับประโยชน์จากการทำประกันของเราอยู่ดี

ทำแล้วได้อะไร

สิ่งที่จะได้รับจากการทำประกันแน่ๆ คือ “ความคุ้มครอง” เพียงแต่ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อจะให้คุ้มครองเฉพาะ 2 กรณีเท่านั้น คือ การเสียชีวิต และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร

ในกรณีเสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครองทุกกรณี (ที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขยกเว้นการจ่ายผลประโยชน์) คือ ไม่ว่าจะเสียชีวิตจากสาเหตุอะไรก็จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันที่ลดลงในแต่ละเดือนตามตารางจำนวนเงินที่กำหนดไว้ โดยบริษัทประกันจะจ่ายผลประโยชน์ให้กับสถาบันการเงินที่เป็นผู้รับผลประโยชน์

หากมูลหนี้ต่ำกว่าความคุ้มครอง เช่น ที่ผ่านมามีการผ่อนชำระมากกว่ากว่าค่างวดที่สถาบันการเงินกำหนด (กรณีสินเชื่อที่อยู่อาศัย) เงินส่วนที่เกินนั้นจะถูกนำไปชำระเงินต้น ทำให้เงินต้นคงเหลือต่ำกว่าทุนประกันที่กำหนดไว้ ทายาทจะได้รับเงินส่วนต่างนั้นด้วย

ทัศพงศ์ กล่าวว่า โดยปกติแล้วบริษัทประกันจะกำหนดทุนประกันในอัตราที่ใกล้เคียงกับวงเงินสินเชื่อที่ลดลงตามระยะเวลาหลังจากผ่อนชำระในแต่ละงวด แต่หากผู้กู้สามารถชำระหนี้หมดก่อนกำหนด เช่น กำหนดระยะเวลากู้ 10 ปี แต่ผ่อนหมดภายในเวลา 5 ปี เราสามารถเลือกที่จะคงความคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือเลือกรับเงินสดตามมูลค่าเวนคืนเงินสดก็ได้

“แต่เราจะแนะนำให้คงความคุ้มครองเอาไว้ เพราะลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองชีวิตตามเงื่อนไขเดิม ซึ่งหากจะเวนคืนเงินสดก็ได้ แต่จำนวนเงินจะไม่มากนัก” ทัศพงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ สถาบันการเงินบางแห่งยังออกแบบประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อแบบพิเศษที่จะให้ความคุ้มครอง 100% ของทุนประกัน (หรือวงเงินสินเชื่อเริ่มต้น) หากเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จากปกติที่ความคุ้มครองจะลดลงตามวงเงินสินเชื่อที่ลดลง

ในกรณีที่กรณีทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร (เช่น ตาบอดสองข้าง หรือ มือขาดสองข้าง) บริษัทประกันจะแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด งวดละ 50% ของทุนประกันที่ลดลง

งวดแรก จะจ่ายหลังจากทุพพลภาพ 6 เดือน และหลังจากจ่ายงวดแรกไปแล้วความทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรยังมีต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 360 วัน จึงจะจ่ายอีก 50% ของทุนประกันที่ลดลงที่เหลือจากจ่ายงวดแรกแล้ว 6 เดือน

แต่สำหรับการประกันสินเชื่อบัตรเครดิตจะแตกต่างออกไป เพราะจะให้ความคุ้มครองตามยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรทันที นอกจากนี้ในกรณีที่ทุพพลภาพสิ้นเชิงชั่วคราว จะชดเชยให้เดือนละ 10% ของยอดค้างชำระ ณ วันที่ทุพพลภาพสิ้นเชิงชั่วคราว (ยอดหนี้หลังจากนี้ไม่คุ้มครอง) และจะจ่ายให้สูงสุดไม่เกิน 10 เดือน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อยังไม่ให้ความคุ้มครองกรณี “เจ็บป่วยเรื้อรังจนไม่สามารถทำงานได้” ซึ่งส่งผลต่อการผ่อนชำระเงินกู้เช่นเดียวกัน แต่ก็แว่วๆ มาว่า ในไม่ช้านี้ สถาบันการเงินบางแห่งจะขยายความคุ้มครองออกไป ให้ครอบคลุมในกรณีดังกล่าวด้วย

นอกจากความคุ้มครองที่จะได้รับแล้ว สถาบันการเงินหลายแห่งยังจูงใจลูกค้าด้วยการ “ลดดอกเบี้ย” เป็นกรณีพิเศษให้กับลูกค้าที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่ออีกด้วย โดยมากกว่าจะลดดอกเบี้ยให้ 0.2-0.5% ต่อปี ในปีใดปีหนึ่ง

จ่ายเท่าไร

ทัศพงศ์ กล่าวว่า สำหรับอัตราเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 4-6% ของทุนประกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเพศ อายุ ระยะเวลาการกู้ โดยยิ่งถ้ามีระยะเวลากู้ยาวจะยิ่งเสียเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นด้วย

ขณะที่อัตราเบี้ยประกันสินเชื่อบัตรเครดิต เท่าที่สำรวจพบจะอยู่ระหว่าง 0.35-0.53% ของยอดหนี้คงค้างในแต่ละงวด

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 1 ส.ค. 2554 ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะนำอัตรามรณะไทยปี 2551 ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้กำหนดเบี้ยประกัน มาใช้แทนอัตรามรณะไทย ปี 2540 ซึ่งในแวดวงประกันว่ากันว่า จะทำให้เบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อลดลงไปหลายเปอร์เซ็นต์ เพราะโดยเฉลี่ยแล้วอัตรามรณะไทยปี 2551 ต่ำกว่าอัตรามรณะไทย ปี 2540 ประมาณ 26-27%

แม้ว่าหลายคนจะมองประกันเป็น “ค่าใช้จ่าย” แต่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าค่าใช้จ่ายบางรายการที่เป็นค่าใช้จ่ายสูญเปล่า เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามการทำประกันประเภทนี้

เพียงแต่จำให้ขึ้นใจว่า ไม่มีธนาคารไหนบังคับให้เราทำประกันชีวิตได้ ไม่มีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ และหากจะตัดสินใจทำประกันก็ขอให้ทำไป เพราะเห็นความสำคัญมากกว่าทำเพราะ “จำใจ”

ออฟไลน์ san231

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 60
  • คะแนน Like 1
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:49:33 »
ผมก็ว่าดีนะ ในหน่วยผม ตายกันปีละหลายคน ส่วนมากอุบัติเหตุ ต่าง ๆ ลูกเมีย ก็ร้องไห้ กระจอ งอแง ถ้าทำก็จะได้ไม่ต้องมามีภาระ เรื่องรถ อีก

ออฟไลน์ Guaris

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 154
  • คะแนน Like 0
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:52:39 »
 ขอบคุณมากเลยครับ ผมยิ่งไม่เคยทำธุระกรรมอ่ะไรแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งกลัวโดนหลอกอยู่
All New! Isuzu Dmax Hi-lander Cab4 HR 3.0 VGS Z-Prestige Navi M/T Australian Coal Black

ออฟไลน์ G.V-CROSS

  • ถ้าคิดจะไป ต้อง ไปให้สุด
  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 7001-8000
  • *
  • กระทู้: 7477
  • คะแนน Like 299
  • เกศ โทร.081-806-2529
  • จังหวัด: สมุทรปราการ
  • ชื่อเล่น: เกศ
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 21:57:09 »
ผมเคยเจอแต่สินเชื่อ SME นะ ประกันประเภทนี้คือถ้าผู้กู้เสียชีวิตประกันจะจ่ายให้ 85 เปอร์เซ็นจากวงเงินกู้ที่เหลือ
แต่สินเชื่อไฟแนนท์รถผมยังไม่เคยเจอแฮะ!!! หรือมันเริ่มมีแล้ว แต่ที่ผมทำไปหยกๆ นี่ก็ไม่มีครับ
น้าเกศ NDC No.111
G.Suspension 4x4 อัพเกรดแก้ใขช่วงล่าง ALL NEW ISUZU D-MAX ทุกรุ่น
https://www.facebook.com/G.Suspension4x4/

ออฟไลน์ 3K```CC

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 664
  • คะแนน Like 2
  • NDC NO.333 (°๐WIT๐°)
Re: มีแบบนี้ด้วยหรอ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 13ก.พ.2012, 22:42:19 »
 emo4 ผมจัดไปแล้วครับ
«------------ใช้ชีวิตอยู่ในความพอดี------------»
Cab4 HR 3.0 VGS Z-Prestige Navi M/T Black