ผู้เขียน หัวข้อ: ท่อสูตรVCEลิ้นแปรผันเร่งไวขึ้นจากเดินเบาลากเกียร์ได้ยาวกว่า/Dyno1,2(ลากเกียร์),3  (อ่าน 102967 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Isuzu  All New D-Max 2.5 MT ป้ายแดง ตัดแคทแล้วแทนที่ด้วยตัวแทนแคทก่อนมาติดตั้งท่อ VCE 
[/url]
ติดตั้งท่อ VCE หน้าหม้อพักครับ
[/url]

คุยกับเจ้าของรถคันนี. ได้ความว่า ความประหยัดเดิม ได้. 14.8. กม./ลิตร ได้เป็น 15.6 กม./ลิตร (ขับแบบเดิมไม่ลากเกียร์) การพุ่งในรอบต่ำๆ ดีขึ้น การเร่งทำความเร็วจาก. 50-60  เกียร์ 4 หรือ จาก  80 เกียร์ 5 ดีกว่าเดิม

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ส่งไปกับบริษัท ปอลอ
[/url]
ให้ความรับผิดชอบคุ้มค่าตลอดอายุการใช้งาน
////////////////////////////////////////////////////
ท่อ VCE ปัจจุบันใช้แม่เหล็กรุ่นใหม่ (ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา)
แม่เหล็กรุ่นใหม่นี้ทนความร้อนสูงกว่าแม่เหล็กนีโอไดเมี่ยมที่ใช้อยู่ก่อนหน้านั้นมานานถึงสองเท่าเป็นอย่างน้อย 

ผลของการใช้แม่เหล็กตัวใหม่นี้ คือ การทำงานจะคงเส้นคงวาตลอดการใช้งานและไม่มีปัญหาเสียงกระพือของลิ้นในรอบเดินเบาอีกต่อไป (แม่เหล็กนีโอไดเมี่ยมจะมีปัญหากับรถบางคันเท่านั้น แต่เราไม่ต้องการให้เกิดปัญหานี้จึงใช้แม่เหล็กตัวใหม่ครับ)

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ความรับผิดชอบของเรา (สำหรับแม่เหล็กรุ่นใหม่) 3 ปี ฟรีทั้งค่าจัดส่งและค่าอะหลั่ย (เพราะเราเชื่อมั่นว่ามันจะไม่เสียหายอยู่แล้วไม่ว่าใช้งานกับรถรุ่นไหน ต่างจากแม่เหล็กตัวเก่าในอดีตที่มีปัญหาเป็นบางคัน)
[/url]

ส่งไปกับบริษัท Porlor
\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
เหตุผลที่เราใช้แม่เหล็กไม่ยอมใช้สปริง เพราะว่าแม่เหล็กทำงานสอดคล้องกับการต้องควบคุมลิ้น (ในช่วงรอบเดินเบา) ได้อย่างอุดมคติ (เพราะลิ้นต้องดึงไว้ที่รอบต่ำแล้วค่อยๆ ปล่อยเมื่อรอบเครื่องสูงขึ้นและให้ความเป็นอิสระในรอบสูง

 ต่างจากสปริงที่รอบยิ่งสูงยิ่งดึงรั้งทำให้ลิ้นต้องทำงานแบบใช้ค่าเฉลี่ย หรือใช้เวสต์เกตหรือมอร์เตอร์ที่จะใช้ต้นทุนสูง และอีกอย่าง ทำให้ท่อ VCE เป็นหนึ่งเดียวที่ใช้ระบบแม่เหล็กที่ทำให้เรายื่นจดสิทธิบัตรได้ ฯลฯ)

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ท่อไอเสียของต่างประเทศที่เป็นแบบวาริเอเบิล มากกว่า 90% จะใช้สปริงทำการควบคุมให้ลิ้นเปิดและปิด เมื่อรอบเครื่องสูงขึ้น(จากที่กำหนดไว้)แรงดันไอเสียจะดันให้ลิ้นเปิดออก ในขณะเดียวกัน สปริงจะดึงรั้งลิ้นไว้ไม่ให้เปิดออกเร็วเกินไป (ถ้าเปิดเร็วมากก็ไม่มีประโยชน์เพราะจะไม่ต่างจากท่อโล่งๆ ถ้าเปิดช้ามากก็ไม่ต่างจากท่อบีบๆ ก็ไม่มีประโยชน์อีกเช่นกัน) ก็ต้องออกแบบความแข็งของสปริงไม่ให้มากเกินไปและไม่อ่อนเกินไป (ถ้าสปริงแข็งเกินไปก็จะเปิดลิ้นยากเกินไปก็ไม่เหมาะสม ถ้าอ่อนเกินไปก็แทบไม่ได้ดึงรั้งไว้) รอบเครื่องยิ่งสูง แรงดันไอเสียยิ่งมากก็จะดันให้ลิ้นเปิดกว้างขึ้น แต่สปริงยิ่งถ่างออกไปแรงดึงของสปริงก็ยิ่งสูง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าก็ยังจำเป็นต้องเฉลี่ยค่าความแข็งของสปริงสำหรับรอบต่ำที่ต้องมีความแข็งสูงและเผื่อไว้สำหรับรอบสูงที่ต้องการสปริงอ่อนๆ


สำหรับท่อไอเสีย VCE เราต้องการควบคุมลิ้นในรอบเดินเบาให้มันอยู่นิ่งๆ วิธีการก็ต้องหาอะไรสักอย่างมาควบคุมหรือดึงมันไว้ ในขณะเดียวกัน เมื่อเราหาตัวควบคุมลิ้นเราก็ต้องการไม่ให้มันมีผลเสียต่อการทำงาน (ปิดและเปิด) ของลิ้นด้วย (ไม่ใช่พอได้อย่างกลับไปเสียอีกอย่าง)

เราไม่คิดจะใช้สปริงตั้งแต่ทีแรกแล้ว เหตุผลไม่ใช่ไม่ต้องการให้เหมือนที่เจ้าอื่นใช้อยู่เพราะคิดว่า ถ้าเหมือนกัน อย่างดีก็ทำได้ใกล้เคียงของเขา อย่างที่ไม่ดี (ซึ่งมีโอกาสมากกว่า) ก็จะทำได้ด้อยกว่า ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น แต่เราต้องการให้มันทำงานใกล้อุดมคติให้มากที่สุด (ในความคิดของเรา แบบที่ใช้การควบคุมด้วยมอเตอร์ร่วมกับกล่อง ECU น่าจะใกล้อุดมคติมากที่สุด) ในขณะเดียวกันก็ควรจะเป็นเทคนิคง่ายๆ (แต่ต้องได้ผลดีด้วย) ที่ต้นทุนไม่สูง ทำหรือขั้นตอนผลิตไม่ยากเกินไปนัก (เพื่อราคาที่จะขายอยู่ในระดับที่พอจะรับได้)

จึงเป็นที่มาของการใช้แม่เหล็กในการควบคุมลิ้น (เพราะรังสีแม่เหล็กจะดึงลิ้นไว้ในรอบเดินเบาซึ่งเป็นการดึงที่แรงสุดในรอบเดินเบา เมื่อแรงดันไอเสียมากขึ้นดันให้ลิ้นเปิดออก ลิ้นก็จะเคลื่อนตัวยิ่งห่างออกไปจากแรงดึงดูดของแม่เหล็กมากขึ้น ลิ้นก็จะยิ่งเป็นอิสระจากแรงดึงมากขึ้นที่รอบสูง เปืดง่ายมากขึ้นที่รอบสูง จึงสัมพันธ์กับความต้องการควบคุมลิ้น ที่ให้ดึงรั้งไว้ที่รอบเดินเบาให้มากแล้วค่อยๆ คลายการดึงนั้นมากขึ้นเมื่อรอบเครื่องสูงขึ้น นับว่าตรงกับความต้องการที่เพื่อให้ใกล้อุดมคติให้มากที่สุดพอดี และมันยังช่วยเพิ่มสมรรถนะในช่วงรอบต่ำมากๆ ได้ดีกว่าการไม่มีตัวควบคุมลิ้นอีกด้วย (โดยทางเทคนิค ช่วงรอบต่ำมากๆ ต้องการรูท่อที่เล็กมากๆ )

ดังนั้น ทีแรกที่เรามองไว้เพียงว่าให้มีตัวควบคุมลิ้นเพื่อไม่ให้ลิ้นสั่นที่รอบเดินเบาจะได้ไม่มีเสียงรบกวน กลับได้การทำงานของลิ้นที่ดีมากยิ่งขึ้นตามอุดมคติมากขึ้นด้วยเป็นของแถม



แต่แม่เหล็กเราจะใส่ไว้ภายในท่อเลยก็ไม่ได้ (เราเคยลองทำมาแล้ว ทดสอบดูเล่นๆ สปริงสำหรับตั้งความสมดุลของบานพับ/สอดไว้ที่ช่องว่างระหว่างส่วนที่เคลื่อนที่กับส่วนที่อยู่นิ่งเพื่อให้ลิ้นมีความเสถียรมากขึ้นไม่แกว่งทางด้านข้าง/เราก็ทดลองมาแล้ว) ก็ต้องอยู่ภายนอก

เมื่ออยู่ภายนอกก็จะต้องใช้แม่เหล็กแรงสูง จึงเป็นที่มาของแม่เหล็กนีโอไดเมี่ยม

แต่แม่เหล็กนีโอไดเมี่ยมทนความร้อนได้จำกัด จึงเป็นที่มาของเทคนิคการติดตั้งแม่เหล็กและการใช้ผ้ากันความร้อนแบบต่างๆ

ในขณะที่ใกล้จะสุดท้าย ยังมีรถบางคันยังมีปัญหาเสียงลิ้นสะบัดในรอบเดินเบา (แม้จะเป็นส่วนน้อยแล้วแต่เราไม่ได้ทิ้งการแก้ปัญหานี้) เราจึงค้นหาแม่เหล็กที่ทนความร้อนได้สูงกว่าแม่เหล็กนีโอไดเมี่ยมที่เราใช้มานาน ในที่สุดก็พบแม่เหล็กตัวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันครับ

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Toyota Vigo 3000cc Diesel VN Turbo

ติดตั้งท่อ VCE จะพุ่งขึ้นอีกไม่ว่าเดิมจะออกตัวพุ่งอยู่แล้วตั้งแต่รอบต่ำๆ หรือไปทำโล่งมาแล้วช่วงรอบต่ำมากๆ พุ่งไม่เหมือนเดิมก็จะพุ่งขึ้น (โดยกลางไปปลายไม่ตกลง ซึ่งจะไม่สามารถทำได้ด้วยท่อไอเสียที่ไม่ใช่ระบบปรับขนาดรูท่อไอเสียได้ตามรอบเครื่อง)

[/url]

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

นำไปให้ร้านท่อไอเสียใกล้บ้านติดตั้งได้ (มีคู่มือและที่ตัวท่อจะเขียนรายละเอียดไว้ด้วย) ไปส่งให้ถึงที่ในเขตกทม.และปริมณฑล หรือ ส่งทางรถตู้ รถทัวร์ หรือ ทางบริษัทขนส่งและทางไปรษณีย์

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
เมื่อปลายปี 09 พอผมคิดท่อ VCE ขึ้นมา (โดยบังเอิญและจากความรู้และประสบการณ์นำมาปะติดปะต่อกัน) หลังจากนั้น ในเว็ปหนึ่งจะมีท่านหนึ่งเข้ามาโพสต์ในกระทู้ให้คนเข้าใจผิดว่ามันเป็นสิ่งหลอกลวง

มีลูกค้าบางท่านเข้ามาโพสต์เหมือนกันว่าใส่แล้วมันดีขึ้น จากที่รอเยอะในรอบต่ำก็รอน้อยลง จากที่ปล่อยไหลเวลาออกตัว (ไม่ได้กดคันเร่ง) มันก็ไหลออกได้ดีขึ้นไหลพุ่งขึ้น (ว่ากันตั้งแต่รอบเดินเบาเลยทีเดียวพิสูจน์ง่ายมาก)

เคยแม้กระทั่งสมัยที่ผมยังไม่ได้นำท่อ VCE ไปวัดแรงม้า ผมให้ลองก่อนเลยครับมีท่อลอง

จำได้ถึงทุกวันนี้ว่า มีท่านหนึ่งขับ Fortuner 2.7 มา ผมก็นั่งไปด้วยกับเขา เขาเป็นคนขับ ระบบท่อเดิมโรงงานทุกอย่างผมก็จำไว้ช่วงออกตัวรอบต่ำๆ ช่วงแรกๆ รถมันจะหนักๆ จากนั้นเริ่มพุ่ง เที่ยวต่อไปสวมท่อ VCE ไว้ที่ปลายท่อเลยมีน็อตขันยึดให้แน่นแล้วรัดด้วยลวดเหล็กอีกที ออกตัวจากรถหนักๆ ก็เบาๆ ขึ้นมาและเริ่มพุ่งก่อน (ผมฟังเสียงเครื่อง) จากนั้นเมื่อพุ่งแล้วจะพุ่งมาก (เพราะจากที่ไปวัดแรงม้าท่อ VCE มา/หลังจากใช้วิธีให้ลูกค้าลองก่อนอยู่นาน/ ช่วง 120 ไป 140 มันจะจัดขึ้นด้วย แต่ช่วง 80-90 ไป 110 มันจะเหมือนเดิม) คนขับบอกเหมือนเดิม เอ้าไม่เป็นไร ผมให้ลองอีก แถวนั้นรถยังน้อยอยู่ถนนเพิ่งสร้างเสร็จ มีเนินเล็กๆ อยู่ ผมให้เขาคลานขึ้นไปด้วยรอบเดินเบาเลยจนมันทำท่าจะผ่านไม่ไหว

จากนั้น ใส่ท่อ VCE เข้าไป มันก็วิ่งผ่านได้แบบสบายๆ ไปนิ่มๆ ไปฉิวๆ เรื่อยๆ เจอแบบนี้ท่านนี้ก็ไม่ได้ใช้บริการท่อ VCE หรอกครับ (อาจจะมาใช้บริการภายหลังหรือไม่ผมก็ไม่ทราบได้) คือ ซื้อหรือไม่ซื้อไม่ได้ว่ากันครับ แต่ พูดไม่ตรงกับผลที่ได้นี่มันยังไงกัน ซึ่งเมื่อเจอแบบนี้ผมก็ต้องคิดว่าแค่มาลองเฉยๆ แต่เห็นไหมครับว่า เสียความรู้สึกทั้งสองฝ่าย (ผมเสียความรู้สึกจากการทดสอบเที่ยวที่วิ่งยาว ส่วนคนขับเสียความรู้สึกในเที่ยวที่สองวิ่งเดินเบาผ่านเนินเล็กๆ)

////////////////

มีอยู่คราวหนึ่ง เก๋งขับเครื่อง 2200 มา มาถึงก็ติดตั้งเลย ติดตั้งเสร็จขอลองวิ่งดู ออกตัวไปก็ซิ่งเลย ขับไปก็ขอโทษนะครับบ่นไป “เหมือนเดิมครับพี่ ของผมก็ประมาณนี้ รอบต่ำรอบสูงเหมือนเดิม อ้อ (พูดเบาๆ) เออ รอบเครื่องตกช้าลงนะ” /รอบตกช้าเวลาถอนคันเร่ง รอบเครื่องตกช้าหมายถึงอะไร หมายถึงรถมันไหลขึ้น ไหลยาวขึ้น เวลาไปต่อไม่ต้องไล่รอบและไปต่อแรงขึ้น/ท่านนี้ก็ไปลงในเว็ปด้วยครับ

ผมไปเจอ/ตอนนั้นผมเจอผมก็ตอบเลยเอาผลไดโนดีขึ้นกว่าเดิม 400 รอบลงไปด้วย กระทู้นี้หาไม่เจอแล้วครับ

///////////////////

มีอีกกระทู้หนึ่ง ว่าเหมือนหลอกลวง ผมเอาผลไดโนลงอีก ว่าจะเอาผลไดโนการลากรอบเครื่องลงด้วย ของเดิมก่อนติดตั้งท่อ VCE ลากได้ 2600 รอบหมด ติดตั้งท่อ VCE ลากได้ 4700 รอบ (เกียร์ 2) ช่วงที่ลากเกียร์ได้ยาวขึ้น ช่วง 2600-4700 รอบได้แรงม้าเพิ่มในช่วงนั้น 40 แรงม้า (คนละอย่างกับแรงม้าสะสม/แรงม้าสุทธิที่จะได้เพิ่มประมาณ 3 แรงม้ากว่าๆ -9 แรงม้า) ปรากฏลงไม่ได้แล้วมีการบล็อกไว้ กรรมละคราวนี้ทำไงได้

(กราฟไดโนท่อ VCE หาดูตามกระทู้ของท่อ VCE ครับ โดยเสริจ์คำว่าท่อ VCE หรือ ดูในหน้าเพจเฟสบุ๊คท่อสูตร VCE ตามลิงค์นี้ครับ)

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

////////////////////////


สำหรับประเด็นเรื่องการทำความเร็ว // ลูกค้ารายนี้พกกล่อง Performance Box มาด้วย 1400cc AT มาถึงก็ยื่นข้อเสนอเลย ถ้าเร็วขึ้นจริงผมซื้อ เอ้าได้

รอบที่หนึ่ง ค่าใกล้เคียงเดิม ขอลองอีกรอบ ปรากฏว่า 0 ถึง 60 ไวขึ้น 1 วินาทีกว่าๆ 80-100 ไวขึ้น 1 วินาทีกว่าๆ เขาก็ตกลงซื้อท่อ VCE ไปครับ (ผมก็ขอผลการตรวจวัดด้วย Performance Box ไว้ด้วย ก็ขอขอบคุณมา ณ. ที่นี้ด้วยครับคุณลูกค้าท่านนั้น)

//////////////////////

สำหรับประเด็นเรื่องติดตั้งท่อ VCE แล้วบูสต์ช่วงสวิง เพิ่มขึ้นจาก 12 เป็น 16 ปอนด์ และคำว่า “แต่คิดว่าพุ่งหนักกว่าเดิมเพราะบูส16lb หรือป่าว” ผมขอบคุณครับ

และขอขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ที่เมสเซสมาครับ (จากท่านผู้เป็นเจ้าของ Fortuner 3000cc AT “แต่คิดว่าพุ่งหนักกว่าเดิมเพราะบูส16lb หรือป่าว”)

ข้างล่างนี้ การประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น

[/url]

ขอบคุณที่มีความจริงตรงนี้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นครับ

(บูทต์ยังไม่มาก็ยังไม่พุ่ง บูทต์มาก็พุ่งขึ้นครับ บูทต์เพิ่มก็พุ่งขึ้น บูทต์หายบูทต์ตกแรงก็หายครับ/พี่พร)

ผมเข้าใจว่าคร่าวๆ แล้วจะมีคนถนัดอยู่สองทาง จึงไม่ว่ากัน คือ ทางวิทยาศาสตร์ อีกทางทางด้านภาษา

ความรู้สมัยมัธยม งานเพิ่มความร้อนเพิ่ม (ถ้าไม่ใช่จากฝาสูบมีปัญหา/เพราะความร้อนนี้จะเพิ่มตามงาน ให้งานน้อยความร้อนก็น้อยตาม) ความร้อนเพิ่มงานก็เพิ่ม (รถซิ่งจัดๆ จึงขยายหม้อน้ำ)

ความรู้สมัยหนุ่มๆ จ่ายน้ำมันเพิ่มแรงเพิ่มและกินเพิ่ม ลดน้ำมันแรงลด เพิ่มแรงดันหัวฉีดน้ำมันฉีดเป็นฝอยมากขึ้นจุดระเบิดดีขึ้นแรงขึ้น (ไม่พูดถึงแรงเค้นที่เพิ่มในรางและที่หัวฉีด)

ทำท่อให้ไอเสียไหลดีขึ้น (ทั้งช่วงรอบต่ำและรอบสูง) ก็ทั้งวิ่งดีขึ้น (ทั้งรอบต่ำและรอบสูง) และประหยัดขึ้น ไม่ใช่ทำท่อไหลดีเฉพาะรอบสูงเพราะเวลาใช้งานก็ต้องผ่านรอบต่ำอยู่ดีไม่ว่ากดเต็มหรือค่อยๆ กด ไม่อย่างนั้นรถสปอร์ตก็ไม่ใช้ระบบวาริเอเบิลใช้ทำไมได้ใช้แป๊บเดียว เมื่อไหลดีเฉพาะรอบสูงแต่รอบต่ำไหลเอื่อยมากขึ้นแรงก็ตกที่รอบต่ำก็กินน้ามัน หรือไหลดีเฉพาะรอบต่ำแต่อั้นที่รอบสูงก็กินน้ำมันอยู่ดี (ลากไม่ได้เลย)

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ท่อ VCE มันมีลิ้นหรี่และเปิดได้อยู่ภายในท่อไอเสีย (ช่วงหรี่สุดไอเสียก็มีช่องออกได้รอบๆ ลิ้นไม่ได้ปิดสนิท) มันเปิดลิ้นขึ้นได้ด้วยแรงดันไอเสีย แรงดันไอเสียเพิ่มขึ้นนิดลิ้นก็ขยับเปิดออกนิดหนึ่ง แรงดันไอเสียเพิ่มมากขึ้นก็ดันให้ลิ้นเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงดันไอเสียที่เพิ่มขึ้น /แรงดันไอเสียเพิ่มเมื่อกดคันเร่งเพิ่ม เมื่อถอนคันเร่งแรงดันไอเสียลดลิ้นก็เริ่มหรี่ลงไป ช่วงที่ลิ้นเริ่มหรี่ลงแรงบิดจะไม่ลดฮวบแต่คงอยู่ครู่หนึ่งรถจึงไหล

ช่วงที่ลิ้นหรี่ในรอบเดินเบา ไอเสียซึ่งไหลเอื่อยๆ ในรอบเครื่องต่ำๆ เจอช่องทางที่แคบลงจากเดิมก็จะไหลออกเร็วขึ้น (การประจุทางไอดีก็จะดีขึ้นกำลังจึงเพิ่มทำให้แรงบิดเพิ่มครับ)  และช่วงที่ลิ้นกำลังเปิด จากความความเร็ว 0 ถึง 80-90/ แรงบิดจะเพิ่มจากของเดิมตลอดครับ (ทำให้พุ่งดีขึ้นตั้งแต่เดินเบาขึ้นไป) ประมาณ 100 ขึ้นไปจะเหมือนๆ เดิม (เพราะเป็นช่วงที่ลิ้นเปิดไปใกล้เคียงเดิม)

สำหรับช่วงความเร็ว 120-140 และช่วงปลายที่ได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการลากเกียร์ได้ยาวขึ้น (เห็นทั้งบนไดโนและจากการใช้งาน) ไม่มีผลอธิบายที่ชัดเจนครับ (มีแต่ความแปลกใจ)

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\พี่พรลองค้นหาคำว่า Variable Exhaust เพื่อดูว่าในโลกนี้มีใครใช้ระบบนี้ในรถยนต์หรือไม่

แรกๆ ก็เจอแต่ท่อที่ทำมาเพื่อลดเสียงเท่านั้น
จนเจอว่า มีใช้ในรถสปอร์ตชั้นนำหลายรุ่น เช่น แลมโบกินี่, ปอร์เช่, แลนเซอร์ EVO 7, เฟอร์รารี่ และอีกหลายๆ คัน ถ้าจำไม่ผิด เบนซ์เลย์รุ่นใหม่ก็พูดถึงเรื่องนี้ บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นสปอร์ต (รุ่นใหม่) และเบนซ์สปอร์ต (รุ่นใหม่) ฮอนด้าและนีสสันบางรุ่น โตโยต้าก็ได้ข่าวว่ามีในซูปร้า ในปรีอุสก็มีใช้ในหม้อพัก (ทำงานในช่วงรอบกลางสูงขึ้นไป)

สำหรับเบนซ์สปอร์ตรุ่นใหม่ มีบอกการทำงานไว้ชัดเจนว่า ลิ้นจะทำการเปิดที่ 2000 รอบขึ้นไป และเปิดแบบ 10 %30 %50 %100% ตามรอบเครื่องที่สูงขึ้น (ชัดเจนว่าไม่ได้เปิดพรวดออกไปทีเดียวแต่ค่อยๆ เปิดตามรอบเครื่องที่สูงขึ้น/ในขณะที่รถสปอร์ตคันอื่นๆ จะอุบรายละเอียดเอาไว้บอกไว้แค่ระบบไอเสียเป็นแบบวาริเอเบิล)


\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\และสำหรับเสียงลิ้นสะบัดในรอบเดินเบา เกิดขึ้นเนื่องจากในรถบางคันแม่เหล็กนีโอไดเมี่ยม (ที่ใช้อยู่เดิมมานานหลายปี) ที่ใช้ดึงลิ้นในรอบเดินเบาให้อยู่นิ่งเสียหาย ก็สามารถเปลี่ยนเป็นแม่เหล็กตัวใหม่ที่ทนความร้อนสูงกว่า (เป็นสองเท่าของแม่เหล็กนีโอไดเมี่ยม) ปัจจุบันได้ใช้แม่เหล็กตัวใหม่นี้มาร่วม 2 เดือนแล้วครับ ปัญหานี้จึงได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ (ทดสอบกับรถที่ท่อร้อนจัดจนเลส VCE เป็นสีม่วงแดงที่ติดตั้งแม่เหล็กเดิมนีโอไดเมี่ยมได้ไม่ถึงวันหรือไม่ถึงอาทิตย์ก็มีปัญหามาติดตั้งแม่เหล็กตัวใหม่ นานหลายอาทิตย์แล้วก็ยังทำงานเป็นปกติครับ)

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ท่อ VCE แค่ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ ได้ผลทั้งท่อเดิมๆ และที่ทำโล่งมา ไม่เลือกว่ามีเทอร์โบหรือไม่มี และไม่เลือกว่าเครื่องเบนซินหรือดีเซลครับ (เคยมีประสบการณ์เครื่องเทอร์โบดีเซลที่ท่อขาดหลังโข่งเทอร์โบไม่ไกล ปรากฏว่ารถออกตัวไม่เป็นครับ /รอบต่ำใกล้เดินเบาแรงบิดวูบหายไปเลยเห็นๆ) / พี่พร ท่อ VCE 0851423903
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16มิ.ย.2013, 11:26:56 โดย phorn »

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Fortuner 2.7

[/url]


ติดตั้งท่อ VCE หน้าหม้อพัก (สามารถติดตั้งได้อีกจุดหนึ่งคือ ก่อนจะออกปลายท่อครับ)
\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

ท่อ VCE ให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม.ขึ้นไป ซึ่งไม่มีใครทำได้ครับ

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Pajero Sport 2.4 LPG MT ล้อโต (สมาชิก Pajero Sport-Thailand)
 
ก่อนมาติดตั้งเขาว่าจะออกตัวอืดมาก เวลาคลานๆ ในหมู่บ้านขับผ่านลูกระนาดด้วยเกียร์สองจะไม่ดี
[/url]
 
ติดตั้งท่อ VCE ก่อนจะออกปลายท่อ
[/url]
////////////////////////////////////////////////////////////
มั่นใจได้เลยครับว่า ต่อไปจะขับผ่านลูกระนาดได้ลื่นไหลอย่างรถที่แรงบิดรอบต่ำๆ ดี
(รายงานคร่าวๆ ว่าออกตัวพุ่งขึ้นจริง ลองด้วย LPG ตอนนี้แรงกว่าน้ำมัน(เมื่อก่อน)แบบรู้สึกได้เลย)

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Pajero Sport 2.4 LPG MT ล้อโต (สมาชิก Pajero Sport-Thailand)
 
ก่อนมาติดตั้งเขาว่าจะออกตัวอืดมาก เวลาคลานๆ ในหมู่บ้านขับผ่านลูกระนาดด้วยเกียร์สองจะไม่ดี
[/url]
 
ติดตั้งท่อ VCE ก่อนจะออกปลายท่อ
[/url]
////////////////////////////////////////////////////////////
มั่นใจได้เลยครับว่า ต่อไปจะขับผ่านลูกระนาดได้ลื่นไหลอย่างรถที่แรงบิดรอบต่ำๆ ดี
(รายงานคร่าวๆ ว่าออกตัวพุ่งขึ้นจริง ลองด้วย LPG ตอนนี้แรงกว่าน้ำมัน(เมื่อก่อน)แบบรู้สึกได้เลย)


Re: ท่อสูตร VCE หนึ่งเดียวที่เพิ่มแรงบิดช่วงต้นได้แรงกว่าโดยปลายยังไหลไม่อั้น/แค่ติดเพิ่ม...
« ตอบ #228 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2013, 08:32:46 pm »
อ้างถึง
ผมเป็นเจ้าของ Pajero 2.4 MT ติด LPG ก่อนติดตั้งออกตัวอืดมากครับ ยิ่งเกียร์ 2 ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ
แต่พอติดตั้งไปแล้ว ออกตัวพุ่งเลยครับ รู้สึกได้ถึงความแตกต่างครับ ผมไม่ได้มีส่วนได้เสียกับ พี่พรนะครับ
ผมรู้สึกพอใจกับเงินที่เสียไปครับ/นายต้นไม้ สมาชิก www.pajerosport-thailand.com

ตามลิงค์นี้ครับ (ต้องเป็นสมาชิกจึงจะเปิดดูหน้าซื้อขายได้ครับ)

http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=10368.msg481672#msg481672



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18มิ.ย.2013, 09:35:15 โดย phorn »

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1

คอมเมนต์จากผู้ใช้งานท่อ VCE จาก www.pajerosport-thailand.com เพิ่มเติม (ขอขอบคุณทุกท่านที่คอมเมนต์ให้อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นครับ)

   
Re: ปา 2.4 ติด save plus หรือ ท่อ VCE อยากออกตัวดีขึ้น+ประหยัดน้ำมัน ขอคนรู้จริงตอบด้วยครับ
« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2013, 06:29:55 pm »
ช่วงต้นดีขึ้นคับ /panda-bmw สมาชิก www.pajerosport-thailand.com

   และ

Re: ปา 2.4 ติด save plus หรือ ท่อ VCE อยากออกตัวดีขึ้น+ประหยัดน้ำมัน ขอคนรู้จริงตอบด้วยครับ
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2013, 02:02:06 pm »
VCE ต้นดีขึ้นอีกเสียงครับ  / Bestson สมาชิก www.pajerosport-Thailand.com

ตามลิงค์นี้ครับ (หัวข้อหน้าพูดคุย ไม่เป็นสมาชิกก็สามารถเปิดดูได้ครับ)

http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=17142.0

/////////////////////////////////////


ท่อ VCE แรงกว่าท่ออื่นๆ เพราะเพิ่มแรงบิดมากขึ้นตั้งแต่เดินเบา (ท่ออื่นๆ ต้องไล่รอบขึ้นมาก่อน) เพราะฉะนัั้นทดสอบด้วยการปล่อยไหลเวลาออกตัว (ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ปล่อยไหลด้วยรอบเดินเบา) จะออกตัวแรงขึ้นพุ่งขึ้น (ถ้าเป็นตรงข้ามให้เช็ครอยรั่วบริเวณรอยเชื่อมท่อเวลาติดตั้ง)

ซึ่งท่ออื่นๆ ไม่สามารถแรงได้ถึงขนาดนี้

ท่อ VCE แค่ติดตั้งเพิ่มเข้่าไปเฉยๆ เท่านั้น ไม่ต้องทะลวงแคท แรงขึ้นตั้งแต่เดินเบาและปลายเกียร์ลากได้เพิ่ม มีแรงม้าเพิ่มขึ้น

ท่ออื่นๆ มีแต่อั้นที่ความเร็วสูงและปลายเกียร์ลด แรงม้าลด (เพราะมีการอั้นไว้ตลอดเวลาไม่สามารถคลายการอั้นได้ทั้งโดยทฤษฎีและปฏิบัติ)

ท่อ VCE ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น แม้ในความเร็วเดินทาง 80 กม./ชม. (ประหยัดมากขึ้นประมาณ 1 กม.) ในขณะที่ท่ออื่นๆ มีแต่จะกินเชื้อเพลิงมากขึ้น (ทดสอบโดยติดเพิ่มเข้าไปเฉยๆ ไม่ได้ดัดแปลงอะไรเพิ่มเติม)

ดีทัั้งการออกตัวและเร่งแซง (ช่วงที่ลากเกียร์หรือคิ๊กดาวน์แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้นไปมากกว่าปกติเดิมในช่วงนั้นมาก) และเวลาถอนคันเร่งรอบเครื่องและความเร็วจะตกช้ากว่าเดิม (ไหลมากขึ้น) อย่างเห็นได้ชัด (ซึี่งปกติรถโดยทั่วไปจะไหลดีที่ความเร็วสูงแต่พออยู่ในช่วงความเร็วต่ำๆ จะไม่ไหล แต่ ท่อ VCE ไหลดีขึ้นทุกช่วงความเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเร็วช่วงต่ำๆ)

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ทดสอบด้วยPerformance Box

Performance Box ทำงานร่วมกับดาวเทียม (มาตรวัดความเร็วจะเป็นมาตรฐาน) ดูค่า แรงม้าและแรงบิดได้ ดูความเร็ว ดูอัตราเร่งและระยะทางได้

อันนี้เป็นผลการวัดด้วย Performance Box (วัดโดยลูกค้าท่อ VCE ก่อนจะซื้อ) เทียบอัตราเร่งว่าดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ (แม้จะเป็นผลทดสอบนานแล้ว แต่ในเมื่อมันจริงมันก็จริงวันยังค่ำ)

 
ทดสอบทำความเร็ว วัดด้วยเครื่อง Performance Box จับสัญญาณด้วยดาวเทียม พบว่าเมื่อติดตั้งท่อไอเสีย VCE เพิ่มเข้าไป สามารถทำความเร็วได้ไวขึ้นไม่ว่าดูข้อมูลจาก 0-60กม/ชม 0-100 กม/ชม ก็ไวขึ้นถึงราวๆ 2 วินาที
 
 
จากการทดสอบกับ Performance Box (Aveo 1.4 AT) เมื่อไม่ได้ใช้งานท่อไอเสีย VCE
 
หม้อพักเดิมแคทเดิมท่อไอเสียโรงงานก่อนเพิ่มท่อๆไอเสีย VCE ทำเวลาจาก 0 ถึง 60km/h ได้ 8.2 วินาที 
จาก 0 ถึง 100km/h ได้ 19.5 วินาที
[/url]
 
 
 
จากการทดสอบกับ Performance Box (Aveo 1.4AT) เมื่อใช้งานท่อไอเสีย VCE
 
พบว่า การเร่งแซงจะดีขึ้นทั้งช่วงความเร็วต่ำ (จาก 0 ถึง 60 กม./ชม. ที่เร่งได้ดีขึ้น) และช่วงความเร็วกลาง (จาก 80 ถึง 100 กม./ชม. โดยดูจากความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ที่ทำได้ไวขึ้น)
 
ตัดท่อไอเสียช่วงท่อเปล่าๆ ออก 8 นิ้ว (แถวๆ พักกลาง) แล้วเชื่อมท่อไอเสีย VCE แทนท่อไอเสียเปล่าๆ ที่ตัดออกไป หม้อพักโรงงานแคทโรงงานมีอยู่เหมือนเดิมท่อไอเสียใช้เส้นเดิมโรงงาน
 
ทำเวลาไวขึ้นจาก 0 ถึง 60km/h ได้ 6.9 วินาที
จาก 0 ถึง 100km/h ได้ 17.9 วินาที
 
[/url]

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ส่งทางไปรษณีย์ EMS ลงหาดใหญ่ครับ (New Lancer 1.6 AT LPG)
 [/url]

\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

มีคู่มือบอกการติดตั้ง และที่ตัวท่อก็เขียนบอกรายละเอียดไว้

ขอเพียงเชื่อมอย่าให้มีรอยรั่ว

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Isuzu  All New D-Max 2.5 MT ป้ายแดง ตัดแคทแล้วแทนที่ด้วยตัวแทนแคทก่อนมาติดตั้งท่อ VCE 
[/url]
ติดตั้งท่อ VCE หน้าหม้อพักครับ
[/url]

คุยกับเจ้าของรถคันนี. ได้ความว่า ความประหยัดเดิม ได้. 14.8. กม./ลิตร ได้เป็น 15.6 กม./ลิตร (ขับแบบเดิมไม่ลากเกียร์) การพุ่งในรอบต่ำๆ ดีขึ้น การเร่งทำความเร็วจาก. 50-60  เกียร์ 4 หรือ จาก  80 เกียร์ 5 ดีกว่าเดิม

ข้างบนเมื่อขับความเร็วคงที่

All New  Isuzu 2.5 MT  ป้ายแดงคันข้างบนนี้
บอกว่า ในช่วงความเร็วประมาณ 60 ถึง  80 เวลาเร่งทำความเร็ว  ตัวเลขบอกอัตราการกินเชื้อเพลิงเดิมจะอยู่ที่ประมาณ 11 ถึง 12 กม./ลิตร เมื่อติดตั้งท่อ VCE แล้ว  อัตราการกินเชื้อเพลิงจะเปลี่ยนมาเป็น 18 ถึง 19 กม./ลิตร  (เขายอกว่าเขาเองก็แปลกใจเหมือนกัน) 

///////////////

นั่นคือ แรงบิดที่เพิ่มขึ้นในขณะเร่งทำความเร็ว นอกจากจะทำให้รถคุณทะยานพุ่งขึ้นมากกว่าเดิมแล้ว ยังประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นด้วย
(ขอบคุณเจ้าของรถคันนี้ที่ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นครับ)

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ส่งไปทางบริษัทปอลอ (จะมีเบอร์ลูกค้าที่จะติดต่อส่งของให้จึงสะดวกในการนัดแนะว่าจะไปส่งเวลาไหนที่มีคนรับของได้) จะถึงไวพอๆ กับ ไปรษณีย์ EMS แต่ไปส่งให้ถึงบ้าน
[/url]
Volvo 940 2300cc จังหวัดเลย