ผู้เขียน หัวข้อ: ท่อสูตรVCEลิ้นแปรผันเร่งไวขึ้นจากเดินเบาลากเกียร์ได้ยาวกว่า/Dyno1,2(ลากเกียร์),3  (อ่าน 103025 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้ ตรงกับวัน อัฏฐมีบูชา



แรมแปดค่ำ เดือนหก


//////



คนดีเลื่อมใสและชื่นชมในคนดี รู้สึกยินดีเมื่อรู้เห็นคนทำความดีครับ



/////////



สนใจท่อ VCE ติดต่อที่โทร 0851423903 ครับ


///////


โรคระบาด kovid 19 คงมีผลกับเราไปอีกสักระยะหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่ค่อยสะดวกในด้านการประกอบอาชีพ หลายๆ อย่าง
แต่มีข้อน่าสังเกตุว่า การค้าขายบางอย่างกลับทำได้ดีกว่าเมื่อก่อน เช่น การขายอาหารในตลาด อาจจะจากที่เมื่อก่อนแต่ละคนจะตัดสินใจยากว่าจะซื้ออะไร กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้พอเจอก็จะรีบตัดสินใจซื้อไม่เรื่องมาก


วกกลับมาที่เราๆท่านๆ บางท่านที่จำเป็นต้องเปลี่ยนงาน อาจจะไม่ถนัดในงานเกี่ยวกับปากท้อง ก็ต้องมองไปที่งานอย่างอื่น ผมไม่มีความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ (และไม่ถนัดอย่างมากทางด้านเศรษฐศาสตร์) อาจจะมองไม่ออกว่าทิศทางการงานจะไปในทางไหนที่ทำแล้วน่าจะรุ่ง แต่งานแต่ละอย่างก็จะไม่เหมาะสำหรับทุกคน

////////

สำหรับท่านที่ชอบเล่นเครื่องเสียงฟังเพลง การฟังเพลงถือเป็นการพักผ่อนสันทนาการที่น่ารื่นรมย์สำหรับเราๆท่านๆ แบ่งเป็น แนวมิวสิคเลิพเวอร์ และ ออดิโอฟายล์ ดังที่เคยกล่าวไปแล้ว

ถ้าท่านหันเหอาชีพมาทางด้านเครื่องเสียง ผมว่ายังมีช่องว่างอยู่ แต่อย่างที่ผมได้บอกไปก่อนแล้วท่านต้องมีความถนัดทางด้านนี้ และมีความสามารถมากพอครับ ไม่งั้นโอกาสจะสำเร็จมีน้อยมากๆครับ

สิ่งที่ท่านทำได้มีหลายชิ้นส่วนในเครื่องเสียง ไม่ว่า ทำพวกอุปกรณ์เครื่องเคียงเครื่องเสียง เช่น สายสัญญาณ สายลำโพง สายไฟเอซี สายดิจิตอลต่างๆ หรือทำพวกเครื่อง เช่น ปรีฯ พาวเวอร์แอมป์ อินธิเกรตเต็ดแอมป์ หรือพวกเครื่องทางด้านดิจิตอลต่างๆ รวมทั้ง ลำโพง

เพียงแต่ท่านต้องตั้งมาตรฐานให้สูง ท่านมีตัวเลือก สามระดับ คือ ระดับไฮไฟทั่วไป ระดับมิดไฟ และ ระดับไฮเอ็นด์ (ท่านควรเลือกระดับไฮเอ็นด์ หรือ อย่างน้อยๆก็มิดไฟครับ)

เมื่อตั้งมาตรฐานให้สูงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ท่านต้องมีติดตัว (หรือท่านมีมือดีอยู่) คือ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และมีทักษะในการฟัง (ดนตรี เพลง) เน้นว่าต้องมีสูงครับ ทักษะที่ว่า ไม่ใช่นักฟังที่เก่งสามารถรู้ว่าเพลงนั้นใครแต่งฯลฯ แต่ต้องมีความแม่นยำว่าเสียงที่ดีที่ได้ฟังนั้นๆตรงกับธรรมชาติหรือมีความบกพร่องตรงไหนอย่างไร และสามารถปรับปรุงได้อย่างไร ถ้าท่านไม่มีตรงนี้ หรือมีไม่สูงพอ ท่านไม่มีวันทำอาชีพทางด้านนี้สำเร็จหรอกครับ (เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะผมมองว่า ท่านต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเหนือชั้นกว่าในระดับนั้นๆ มากๆ ครับ เพราะถ้าเปรียบเหมือนมวยที่เพียงชนะคะแนนท่านจะไปไม่ได้ไกลหรอกครับ ต้องชนะน็อคอย่างเดียวครับ ก็ในเมื่อ ความสามารถท่านยังไม่สูงพอแล้วท่านจะสรรค์สร้างงานทางด้านเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมมาได้อย่างไรมันเป็นไปไม่ได้ครับ ต้องมีเหตุมีผลกัน)


หากจะถามว่า ความสามารถที่ว่าต้องมากขนาดไหนกัน ก็ขอตอบว่า ต้องมากพอที่จะสามารถฟังออกว่า สมมุติ ท่านมีขดลวดอินดักเตอร์ (coil) อยู่ค่าหนึ่ง ขอตัดขดลวดมาสักนิ้วหนึ่งหรือคืบหนึ่ง ท่านสามารถฟังออกว่าเมื่อต่อทางทิศนี้เสียงถูกต้อง (หรือดีกว่าตามความเห็นท่าน) ถ้าท่านสามารถทำได้ (ผลออกมาถูกต้อง) ท่านก็มีความสามารถทางด้านนี้มากพอแล้วครับ (การฟังที่ว่านี้ใช้เวลาไม่นานครับ อาจจะทันที/สำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญสูงครับ/หรือแป๊บหนึ่งสำหรับบางท่าน) เพราะต่อไปท่านต้องนำมาใช้ในการฟังทิศทางของคอนเดนเซอร์ อาร์ สายที่จะมาเชื่อมต่อ ฯลฯ เพราะท่านจะต้องนำมาใช้งานให้มันต่อตรงทิศ /เพราะถ้าผิดทิศก็เท่ากับว่าท่านได้ลดทอนคุณภาพเสียงโดยรวมไปเรื่อยๆ /(ทั้งๆที่พวกอุปกรณ์เหล่านี้ ท่านจะต่อทิศทางไหนมันก็ใช้งานได้เหมือนกันแต่เสียงที่ได้ไม่เหมือนกันครับ)

เพราะลำพังแต่มีแบบ มีวงจร แล้วคัดอุปกรณ์เกรดสูงๆมาใครก็ทำได้ครับ
/พี่พร 0851423903






ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
 

วันนี้วันพระ

/

ท่อ VCE ติดต่อ โทร 0851423903



/

ตู้ปันสุข

นี่คือการส่งเสริมการให้


ถ้าคุณมีลูกคุณต้องสอนลูก (ไม่ว่าลูกจะยังเล็กเรียนอยู่อนุบาล หรือเรียนจบไปแล้วหรือกำลังทำงานอยู่) ด้วยวิธีซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นแล้วให้ลูกได้ไปใส่ของเหล่านั้นลงในตู้ด้วยตนเอง ไม่ใช่ทำแค่บอกกล่าวครับ นี่เป็นโอกาสอันดี

แล้วไม่ต้องท้อใจเวลาเห็นใครบางคนหอบของเหล่านั้นไปเป็นของตนเองโดยไม่เผื่อใครๆ ด้วยเหตุที่ว่า คนไม่ดีนั้นมีไม่มากครับ ใส่ตู้นี้มีปัญหาก็ไปใส่ตู้อื่น



/



พูดถึงลำโพงไฮเอ็นด์ต่อ


อย่างที่ผมเคยอธิบายไปก่อนแล้วว่า เพลงคลาสสิคประเภทวงใหญ่ๆ อย่างซิมโฟนี่ออร์เคสตร้า นั้นเหมาะที่จะใช้อ้างอิงในการใช้ทดสอบแยกแยะหรือประเมินคุณภาพเสียงของเครื่องเสียงได้เป็นอย่างดี

เนื่องจาก มีเครื่องดนตรีหลายชิ้นที่ใช้ในการบรรเลง ทำให้ ถ้าเครื่องเสียงหรืออุปกรณ์ที่เราต้องการทดสอบมีคุณภาพสูง ก็จะแสดงความสามารถในการถ่ายทอดเสียงดนตรีเหล่านั้นออกมาอย่างสมจริงถูกต้องเป็นธรรมชาติมากที่สุด (เสียงที่เป็นธรรมชาติของเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ หลากหลายชนิด หลากหลายขนาด และหลากหลายจำนวน) ซึ่งความสมจริงนี้ ยังหมายถึง สามารถในการแสดงเวทีเสียงที่ถูกต้องสมจริงอีกด้วย (ความกว้างใหญ่ของเวที ความลึกเป็นแถวเป็นแนวเป็นลำดับชั้นของหมู่เครื่องเป่า หมู่เครื่องสาย หรือ เสียงร้องของนักร้องและเสียงคอรัสต่างๆ)

แต่ แผ่นซีดี (แผ่นเสียง, ไฟล์เพลง) เพลงประเภทอื่นๆ ถ้าบันทึกมาดีๆ ก็เหมาะไม่ได้ด้อยไปกว่ากันนัก ซึ่ง มีเพลงอยู่ประเภทหนึ่งซึ่งมีความสำคัญมากๆ เช่นกัน และไม่ควรจะมองข้าม คือ เพลงประเภทลูกทุ่งครับ ยิ่งเป็นเสียงร้องของนักร้องที่มีความสามารถสูงๆ ในการร้องเพลงลูกทุ่งอย่างมากๆ ร่วมกับเสียงเครื่องดนตรีที่มักใช้ในการบรรเลงเพลงประเภทนี้ที่มีความพลิ้วไหวอย่างมาก ที่หลบเสียงไปมาสูงๆต่ำๆ มีความถี่คู่ควบ (หรือฮาร์โมนิค) เยอะๆ ก็จะยิ่งเป็นตัวเลือกที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว


เพราะ ถ้าได้ถ่ายทอดออกมาจากเครื่องเสียงที่ดีและถึงระดับไฮเอ็นด์จริงๆ ก็จะฟังดูเหมือนหรือใกล้เคียงมากๆ กับที่ว่า เหมือนมีดนตรีจริงๆที่ไพเราะเพราะพริ้งและสมจริงอย่างมากๆ บรรเลงอยู่ตรงหน้า

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้วันพระครับ


///


สนใจท่อ VCE ติดต่อที่ โทร 0851423903 ครับ



///


สมัยผมเด็กๆ ที่บ้านปลูกเงาะพันธุ์โรงเรียน (คุณแม่ซื้อพันธุ์มาจากบ้านนาสารเลยทีเดียว) ในบรรดา 30-40 ต้นนั้น จะมีอยู่ 2-3 ต้นที่ลูกมีความอร่อยเป็นพิเศษเหนือกว่าต้นอื่นอย่างเห็นได้ชัด (ไม่ใช่ว่าต้นอื่นจะไม่แท้หรือกลายพันธุ์ เพียงแต่ว่าแม้ว่าต้นอื่นๆจะว่าอร่อยแล้ว 2-3 ต้นที่ว่ายังเหนือไปอีกระดับ) ให้รสหวานเย็นเนื้อกรอบและเนื้อล่อนแยกจากเมล็ด และใน 2-3 ต้นดังกล่าวยิ่งถ้าลูกไหนไม่มีเมล็ด มันจะยิ่งอร่อยเหนือชั้นขึ้นไปอีก และเมื่อนานวัน (นานปี) เข้า ความอร่อยดังกล่าวจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อย (จนถึงขนาดเหมือนบางต้นคล้ายจะกลายพันธุ์ไป)

ในโลกของเครื่องเสียงก็เช่นกัน มีแยกเป็น ไฮไฟ และไฮเอ็นด์ นักเล่นก็มี มิวสิคเลิพเวอร์ และ ออดิโอฟายล์
ในโลกของผลเงาะ ผมก็จะไปเลือกกินเฉพาะ 2-3 ต้น ที่พิเศษ กว่าต้นอื่น และถ้ามีลูกที่ไม่มีเมล็ดผมก็จะเลือกลูกนั้นก่อน หันไปดูน้องๆ มีบางคนมาแนวเดียวกับผมในขณะที่อีกหลายๆ คนไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในโลกของเครื่องเสียงก็เช่นนั้น มันจะมีเหล่าออดิโอฟายล์ แม้จะไม่เยอะแต่ก็เหนียวแน่นและไม่อยากจะเปลี่ยนแนวไป (ถ้าเลือกได้) เช่นกัน มิวสิคเลิพเวอร์ก็เช่นกัน ต่างคนต่างเล่นในแนวทางที่เขาชอบ


ความแตกต่างระหว่างออดิโอฟายล์กับมิวสิคเลิพเวอร์จะคล้ายๆ การเลือกเสพเงาะโรงเรียนดังที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่ต้น มิวสิคเลิพเวอร์เลือกเสพดนตรีโดยไม่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เครื่องเคราในชุดเครื่องเสียงมากนัก (เลือกแต่พองาม)

ในขณะที่ เหล่าออดิโอฟายล์ จะมีความพิถีพิถันกว่า (ต้องลำโพงคู่นั้นขับด้วยแอมป์นั้นแอมป์นี้) เหมือนเงาะโรงเรียนต้อง 2-3 ต้นที่ว่าถ้าไม่มีจึงจะหันไปต้นอื่น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่ว่า ออดิโอฟายล์จะไม่สนใจดนตรี ตรงข้าม ออดิโอฟายล์จะพิถีพิถันในดนตรีนั้นเป็นพิเศษ (เขามักจะหาทางปรับปรุงให้ดนตรีนั้นมีความไพเราะเหนือชั้นขึ้นไปอีกถ้าทำได้ /โดยการเปลี่ยนเครื่องเปลี่ยนลำโพง เปลี่ยนสาย/) ในการฟังเพลงของเขา ไม่ใช่การจับผิด เปรียบเสมือนการกินเงาะที่ไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดว่าเงาะนั้นอร่อยแค่ไหนอย่างไร เพียงแต่เมื่อเสพไปแล้วก็รับรู้โดยอัตโนมัติว่าเงาะนั้นอร่อยมากแค่ไหน ไม่ได้เครียดไม่ได้ทุกข์อะไรแต่อย่างใดในการกินนั้นๆ เพียงแต่เขาต้องการเสพเงาะลูกที่อร่อยเป็นพิเศษ (หรือ ไฮเอ็นด์ในโลกของเครื่องเสียง)


เช่นกัน ในการฟังเพลง ถ้าเป็นเพลงที่เนื้อร้องทำนองไพเราะก็จะชอบ เหมือนมิวสิคเลิพเวอร์ แต่ถ้าการบันทึกดี ให้เสียงสมจริงคล้ายในธรรมชาติ ก็จะชอบเพิ่มขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าการบันทึกนั้นสามารถแสดงมิติเวทีเสียงให้การรับรู้เหมือนดนตรีจริงตรงหน้าก็จะยิ่งปิติเป็นทวีคูณ (เปรียบเหมือนเจอเงาะลูกที่ไม่มีเมล็ดของ 2-3 ต้นที่อร่อยเป็นพิเศษนั้นครับ) / พี่พร 0851423903

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้วันพระ


วันนี้ทำให้นึกถึงพระพุทธศาสนา และนานวันไปก็ทำให้คิดได้ว่า นับว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้มาพบพระพุทธศาสนา มาถึงวันนี้แม้ว่าภายในประเทศจะไม่มีการระบาดของโรคโควิดแล้วแต่ก็จะยังอยู่ในยุคโควิดอยู่ เพราะนอกประเทศก็ยังหนักอยู่ เราจึงอย่าเพิ่งวางใจไป 100%.

พอดีใกล้วันคล้ายวันเกิดลูกสาวก็แนะให้ลูกสาวทำบุญโดยการให้ทานในตู้แบ่งปัน เดินผ่านตู้แบ่งปันก็เหลือบไปดูภายในตู้เห็นส่วนใหญ่มีแต่อาหารจำพวกมาม่าอยู่เยอะแล้ว จึงคิดกันกับลูกว่าเราควรจะบริจาคพวกนมกันดีกว่า และถ้าเป็นเราที่ชอบรสช็อคโกแลตซึ่งอร่อยชื่นใจดี เราก็ต้องซื้อรสนี้ไปบริจาค

ทำความเข้าใจนิดหนึ่งครับว่า กับคนบางคนที่ขี้เหนียวโดยใช่เหตุ (คนเหล่านี้มักจะแยกไม่ถูกระหว่างประหยัดกับขี้เหนียว) เวลาจะให้สิ่งของอะไรแก่คนอื่น แทนที่จะเลือกของที่ชอบ หรือของที่ดีเสมอตนหรือดีกว่า หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่กลับเลือกของที่แม้แต่ตนเองก็ไม่ชอบใจ หรือของที่ตนไม่ต้องการแล้ว ชอบให้แต่ของต่ำของเสียแก่ผู้อื่น ผมว่าทำแบบนั้นไม่ได้บุญเท่าไหร่หรอกครับ

บางท่านแย้งว่าทำบุญอะไรก็ได้บุญเหมือนกัน (หรือเท่ากัน) งั้นท่านลองคิดดูซิว่า ถ้าท่านได้ทำบุญช่วยเหลือให้คนหรือสัตว์รอดจากความตายกับช่วยให้เขารอดพ้นจากการบาดเจ็บ ท่านคิดว่าบุญมันจะเท่ากันไหม ไม่ใช่ให้ท่านทำบุญเพื่อหวังผล เพียงแต่ชี้แนะให้เห็นความแตกต่างกันของผลที่เกิดครับ

เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสขอให้ทำบุญให้เต็มกำลังความสามารถของท่านครับ (ที่ทำโดยท่านไม่เดือดร้อน)


ติดต่อเรื่องท่อ VCE ติดต่อ โทร 0851423903


เรื่องลำโพงไฮเอ็นด์ต่อครับ

บางท่านเป็นกังวลว่าเวลาเราไปเลือกซื้อลำโพงไฮเอ็นด์ เราจะทำอย่างไรดี เราเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเลือกถูกหรือเปล่า ด้วยเราเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมาก ดนตรงดนตรีก็ไม่ได้ไปฟังของจริงกันสักเท่าไหร่ แล้วเราจะพลาดไหมหว่า

มาทางนี้เลยครับ

การมีประสบการณ์ในการฟังดนตรีจริง ก็คล้ายๆกับการปั่นจักรยานนั่นแหละครับ ลองได้ปั่นเป็นไม่กี่ครั้ง แล้วผ่านมาอีกนานไปจับมาปั่นอีกทีมันก็ปั่นได้ครับ

ลองนึกถึงเสียงพูดของเพื่อนคุณมาสักคนหนึ่งซิ ถ้าเกิดมีเสียงแบบนั้นมาพูดใกล้ๆคุณ ผมว่าคุณก็จำได้ และถ้าหันหน้าไปแล้วไม่ใช่ คุณก็มั่นใจว่าคล้ายกับเสียงเพื่อนของคุณคนนั้นมากใช่ไหม

นั่นแหละเสียงดนตรีจริงที่คุณเคยฟังมาก็ประมาณนั้น (เห็นไหมว่าไม่ต้องเคร่งเครียดอะไรมาก).

ทีนี้ ลำโพงไฮเอ็นด์จริงๆเป็นอย่างไร ราคาสูง ใช่ ใช้ดอกลำโพงและใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์คุณภาพสูง ใช่ สวยงาม ใช่ เสียงดี ใช่ เสียงถูกต้องยิ่งใช่

ทีนี้ลองนึกถึงรถยนต์ รถยนต์ราคาแพงๆ ไฮเอ็นด์ไหม ไฮเอ็นด์ แล้วรถยนต์ราคาแพงทุกคันเป็นรถไฮเอ็นด์ไหม อันนี้ก็ไม่นะ ถ้าช่วงล่างห่วยแตกขับรถเหมือนขับเรือก็คงไม่ใช่หละ

คำถามสุดท้าย แล้วรถยนต์ที่ราคาพอได้สมรรถนะดีและช่วงล่างดีหละนับเป็นไฮเอ็นด์ไหม อันนี้ผมว่าได้นะ สำหรับผม แต่คนอื่นที่เขาไม่รู้ก็จะมองข้ามไป

พูดถึงลำโพงไฮเอ็นด์ต่อ

ลำโพงไฮเอ็นด์ที่สวยงาม คุณสัมผัสได้ด้วยตา เลือกเอาตามชอบใจ (อย่าเผลอไปเลือกลำโพงมินิคอมโปเนนท์ที่เผลอเรียกตัวเองว่าลำโพงไฮเอ็นด์ก็แล้วกัน)

ประการต่อไป ลำโพงไฮเอ็นด์ราคาแพง
ก็เลือกเอาได้ตามชอบใจเช่นกันว่าจะเลือกเอาระดับราคาไหน (แต่จะมีสมรรถนะสมใจคุณหรือไม่นั้นก็อีกเรื่องหนึ่งที่เราจะมาพิจารณากันต่อไป)

ลำโพงไฮเอ็นด์คุณภาพเสียงดี

ใช่นี่สำคัญมากๆ เลย และคุณควรจะมองจุดนี้เป็นจุดสำคัญ

เสียงดีเป็นอย่างไร
เสียงดีต้องสะอาดใส ใช่ครับต้องเป็นเช่นนั้น ไม่อับทึบ อู้ (เหมือนอยู่ในโอ่ง) ก็ใช่อีก ส่วนมากลำโพงที่จูนมาไม่ดีจะมีเสียงอับทึบในบางช่วงที่ปนมากับเสียงแหลมใสๆ เสียงที่อับทึบโดยมากจะอยู่ที่ย่านเสียงกลางต่ำและย่านมิดเบส (ผลจากเฟสเสียงการปรับจูนและผลการประกอบลำโพง) รวมทั้งย่านกลางแหลม

ถ้าลำโพงประกอบมาดีจูนมาถูกต้อง เสียงจะมีความต่อเนื่องลื่นไหลและมีความละเอียดอ่อนในเสียงเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ ไม่ว่า ชิ้นเล็ก ชิ้นกลาง และชิ้นใหญ่ ซึ่ง จะมาพร้อมกับความสามารถในการแยกชิ้นดนตรีที่เป็นอิสระอย่างยิ่ง ถ้าถามว่าแยกชิ้นได้ระดับไหน ก็ตอบว่า ระดับที่เครื่องดนตรีหลากหลายชนิดที่กำลังบรรเลงพร้อมๆ (และถัดๆกัน) จะสามาถฟังรายละเอียดแยกเป็นอิสระแต่ละชิ้นกันไปเลย ไม่มีตีรวนปนเปหรือรบกวนกันเลย (หรือรบกวนกันบ้างจากข้อจำกัดของเครื่องเสียงที่ใช้และการเซ็ทอัพที่ยังไม่สมบูรณ์ก็มีผล /ลำโพงถ้าสมรรถนะสูงจริงจะเซ็ทอัพไม่ยากนัก เหมือนปั้นดินให้เป็นดาวนั่นแหละถ้าเป็นดินจริงๆก็ยากหน่อยหละ) ซึ่ง ดนตรีจริงก็เป็นเช่นนั้นแหละครับ (การแยกชิ้นดนตรีจะเป็นอิสระกันสุดๆ) ความสามารถตรงนี้ถ้าทำได้อย่างอื่นแค่จิ๊บจ๊อยครับ

เพราะเมื่อลำโพงนั้นแสดงความสามารถด้านการแยกแยะชิ้นดนตรีระดับเอกอุเช่นนั้นแล้ว มิติ (ความกลมกลึงเป็นสามมิติของอิมเมจ) เวทีเสียงที่ถูกต้องสมบูรณ์สุดยอดมันก็จะมาด้วยกัน (ถ้าโทนัลบาล๊านซ์ หรือ สมดุลย์ทุ้มกลางแหลมจูนมาค่อนข้างเพียงพอใช้ได้ขึ้นไป)

เพราะอะไรครับ ก็เพราะว่าการจูนให้ลำโพงตอบสนองดังข้างต้นที่เอ่ยถึงไปจะเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด ที่จะชี้ว่าลำโพงคู่นี้จะเป็นหมู่หรือเป็นจ่า หรือ ไฮเอ็นด์หรือไม่

ขั้นต่อไป พิจารณาที่สมดุลทุ้มกลางแหลม อันนี้ ถ้าสมดุลเป็นกลางมากที่สุดก็ดีที่สุด แต่ ประเด็นนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเซ็ทอัพมากเช่นกัน (ว่าเซ็ทอัพมาดีให้สมดุลเสียงดี หรือ เซ็ทอัพมาให้ดีที่สุดของลำโพงคู่นั้นแล้ว-หรือไม่) ต้องเลือกให้ดีที่สุดและต้องพิจารณาห้องฟังที่จะนำลำโพงคู่นั้นไปใช้งานด้วยครับ เพราะว่า ถ้าห้องมีขนาดใหญ่มากก็ไม่เหมาะกับลำโพงไซส์เล็กๆมิดเบสบางๆเบสลึกแผ่วๆ หรือ ห้องเล็กๆก็ไม่เหมาะกับลำโพงตั้งพื้นคู่เบ้อเริ่ม หรือ ลำโพงที่มิดเบสหนักๆ เบสลึกๆมาเต็มๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวแน่ๆ

จะเห็นว่า ผมไม่ได้กล่าวถึงความเป็นธรรมชาติถูกต้องเหมือนจริงของเสียงเลย ผมไม่ได้ลืมหรอกครับ เพราะ เสียงผ่านลำโพงที่คุณได้ยินนั้น มันก็คล้ายที่ผมอธิบายให้คุณฟังเรื่องเสียงของเพื่อนคุณนั่นแหละ ถ้าลำโพงคู่ไหนคุณฟังว่าเสียงไม่เป็นธรรมชาติ มันก็ไม่ใช่สำหรับคุณ

การที่ลำโพงจะให้เนื้อเสียงเป็นธรรมชาติหรือไม่นั้น (timbre ของเสียง) มันขึ้นอยู่กับความสามารถของลำโพงคู่นั้นๆในการถ่ายทอดฮาร์โมนิคของเสียงที่มีความถูกต้องเป็นธรรมชาติ (และความเพี้ยนของฮาร์โมนิคน้อยๆ) และความสามารถในการถ่ายทอดสมดุลเสียงที่ดี และ เรื่องของเฟส สามสิ่งนี้ถ้าดีเลิศทั้งสามอย่างนี้ก็สุดยอดแน่ๆในเรื่องน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติครับ (มีข้อสังเกตุว่า ถ้าฮาร์นิคคี่เด่นกว่าฮาร์โมนิคคู่ก็จบละครับเรื่องความเป็นธรรมชาติของน้ำเสียง เพราะบางคนไม่เข้าใจว่าเสียงที่บางๆ ผอมบางนั้นเกิดจากอะไร มัวแต่ไปดูที่ผลตอบสนองความถี่ว่าย่านแหลมมากไปหรือเปล่า แต่ที่แท้ไม่ใช่ เป็นผลของฮาร์โมนิคลำดับคี่นี่เองที่จิ๊ดขึ้นมา)


พี่พร /ลำโพงไฮเอ็นด์  0851423903

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้วันพระ
 
สวัสดีครับ

ถ้าสนใจท่อไอเสีย VCE ก็ติดต่อ 0851423903 ครับ

สำหรับติดตั้งเพิ่มแถวก่อนเข้าพักกลาง ช่วยเพิ่มแรงบิดช่วงรอบต่ำและรอบกลางโดยรอบสูงไม่ด้อยลงจากเดิม

ทำได้เพราะท่อ VCE มีลิ้นอยู่ข้างในที่ปรับหรี่ขนาดรูท่อไอเสียได้ตามรอบเครื่องยนต์ (ทำงานด้วยแรงดันไอเสีย)  ทำงานตั้งแต่รอบเดินเบา (หรี่ขนาดรูท่อลงเล็กสุด/เล็กจนได้แรงบิดเต็มที่แต่ไม่เล็กจนเกินไป/) เมื่อเร่งรอบออกตัวลิ้นเปิดกว้างขึ้นจะได้แรงบิดเพิ่มจากเดิมด้วย ทำงานได้ดีตั้งแต่ปล่อยเบรคให้รถเลื่อนออกตัวไปจนถึงรอบกลางๆ (มีแรงบิดเพิ่มจากเดิมคล้ายขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นราวๆ 20%)


พูดถึงลำโพงไฮเอ็นด์ต่อครับ

ที่ผมเคยแนะนำว่าให้ใช้เพลงที่บรรเลง (อาจจะมีเสียงขับร้องเดี่ยว หรือคอรัสอยู่ด้วย) โดยวงซิมโฟนี่ออร์เคสตร้าวงใหญ่ (เป็นวงเครื่องเป่าหรือเครื่องสายก็ได้) เพราะ วงดนตรีขนาดใหญ่จะมีเครื่องดนตรีหลายชิ้น ดังนั้น เวลาบรรเลงก็จะแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้มากกว่าวงดนตรีขนาดเล็กๆ ที่ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น นอกจากนั้น จากการที่ใช้เครื่องดนตรีหลายชิ้น สิ่งที่ได้ตามมาก็คือ จะแสดงไดนามิคเรจน์ได้เป็นช่วงกว้างมากๆ และจะฟ้องว่าเสียงที่ออกมามีรายละเอียดมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งแสดงรายละเอียดทางด้านไดนามิค ไดนามิคคอนทราสต์ และพวกไมโครไดนามิคได้อย่างล้นเหลือ นอกจากนั้นยังจะแสดงขนาดเวทีเสียงที่กว้างและลึกได้เต็มที่ (เครื่องดนตรีหลายชิ้น หมู่คอรัสหลายคนก็ต้องใช้ขอบเขตเวทีที่ขนาดใหญ่มากเป็นเงาตามตัว )

ซึ่งเมื่อเราฟังเพลงแบบนี้ผ่านลำโพง เราก็จะประเมินรายละเอียดต่างๆได้อย่างง่ายดาย

เช่น ถ้าลำโพงนั้นปรับจูนมาไม่ดี เราก็จะได้ยินเสียงที่ทึบ เครื่องดนตรีหลายๆชิ้นก็จะไม่สามารถแสดงรายละเอียดชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ (จะฟังดูเป็นกลุ่มก้อนและจะเบลอร์ๆ) จับทิศทางไม่ได้ (เช่นฟังไม่ชัดเจนว่าเสียงกลองทิมปะนีอยู่ตรงไหน/ทั้งๆที่ตามตำแหน่งจริงมันจะอยู่ด้านหลังเกือบสุดเวทีแถบทางขวามือ ดังนี้เป็นต้น) และ จะแสดงตำแหน่งแห่งที่ผิดพลาดไป คล้ายๆ ที่กล่าวถึงกลองทิมปะนี แต่คราวนี้ยกตัวอย่างเสียงฉาบ (ส่วนมากวงประเภทนี้จะใช้ฉาบขนาดใหญ่สองใบที่ใช้สองมือแต่ละข้างประกบด้านหลังฉาบ/ให้นึกถึงฉาบในวงโยธยาทิตเอาก็แล้วกันครับ) ปกติตำแหน่งนี้จะอยู่แถวๆกลองทิมปะนี (พบในบางแทรคอาจจะยืนอยู่ใกล้แถวกลางเวทีก็มีครับนานๆเจอที) ดังนั้นถ้าจูนลำโพงมาไม่ดี ตำแหน่งเสียงนี้ก็จะคลาดเคลื่อนไป (อาจจะฟังไม่ชัดว่าอยู่ตรงไหน หรือดีขึ้นก็เป็นเสียงที่มีขนาดกลุ่มก้อนใหญ่ๆ ที่แสดงรายละเอียดเสียงได้จำกัด ถ้าเลวร้ายกว่านั้นก็คล้ายๆไปอยู่ด้านข้างเวที/ที่เรียกกันว่าเสียงไม่หลุดจากตู้ลำโพงนั่นเองครับ/)

ถ้าลำโพงจูนมาไม่ดีนอกจากจะให้เสียงที่ทึบไม่โปร่งใสแล้ว ถ้าเป็นเพลงแจสเพลงร็อคเพลงป๊อบ (หรืออะไรก็ตามที่ใช้เครื่องดนตรีไม่มากชิ้น) มันจะแสดงอิมเมจที่เป็นกลุ่มๆ คือ มีเฉพาะตำแหน่งตรงกลางเวทีถ้าเป็นเสียงร้อง และก็กลุ่มข้างๆ เวทีสองข้าง จะไม่สามารถแสดงรายละเอียดบริเวณระหว่างด้านข้างกับตรงกลางเวทีได้ชัดเจนพอ (เครื่องดนตรีในตำแหน่งที่ว่าจะเบลอร์หรือหายไป /ไปรวมกลุ่ม/ทับซ้อนกัน/กับแถบด้านข้างเวทีหรือ ไปรวมกลุ่มกับนักร้องตรงกลาง แล้วแต่ว่า มันอยู่ใกล้ตำแหน่งไหน)

ถ้าโจทย์เป็นเพลงจากวงซิมโฟนี่ขนาดใหญ่ รูปวงเวทีจะไม่ได้ความลึกที่เป็นชั้นๆ และจะไม่สามารถแสดงเวทีที่กว้างใหญ่และลึกมากได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นหลัง ด้านความลึกของเวทีที่ลึกมาก ) มันจะได้รูปวงที่กว้างมากและลึกพอประมาณ (ความลึกจะจำกัด สัมพันธ์กับ จะให้บรรยากาศความลึกของเครื่องดนตรีต่างๆได้จำกัด) จะแสดงรูปเวทีที่มีชั้นของเวทีระหว่างด้านหน้ากับแถวกลางที่ชิดกันมาก แถวหลังก็แยกห่างจากแถวชั้นกลางจำกัด (เสียงบรรยากาศที่จะแสดงความลึกของแต่ละเครื่องดนตรีจะน้อย)

 ที่สำคัญ จะไม่สามารถแสดงรายละเอียดเครื่องดนตรีแถวหลังที่เป็นหมู่เครื่องสายเครื่องเป่าที่นั่งเป็นแนวลดหลั่นกันไปได้ เสียงเหล่านี้จะเบลอร์ครับ จะไม่สามารถแสดงรายละเอียดยิบย่อยระหว่างเครื่องดนตรีเหล่านั้นได้ครับ (ดีหน่อยก็ได้ลางๆหยาบๆ)


ขออธิบายเพิ่มเติมเรื่อง บรรยากาศที่จะแสดงความลึกของแต่ละเครื่องดนตรี ว่าเป็นเช่นไร ขอยกตัวอย่าง ท่านกำลังอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ มีคนยืนเบื้องหน้าท่าน สมมุติว่า 3 คน คนแรกยืนห่างท่านออกไป 1 เมตร คนที่ 2 ยืนห่างจากท่านออกไป 5 เมตร และคนที่ 3 ยืนห่างจากท่านไป 15 เมตร ทุกคนหันหน้ามาทางท่านและต่างก็ร้องเรียกชื่อท่านไล่ๆกัน คนที่ 1 , 2 และ 3 ตามลำดับ (คนอยู่ไกลสุดก็จะออกเสียงดังหน่อย คนที่อยู่ใกล้ท่านมากอาจจะเพียงกระชิบเบาๆก็ได้) ซึ่งท่านจะได้ยินรายละเอียดของเสียงแต่ละคนเหล่านั้น (สมองของท่านก็จะมีหน้าที่ประมวลผล) เป็นเสียงที่มีความเด่นชัดเป็นตัวตนและมีแอมเบียนซ์และ มีบรรยากาศความลึกลดหลั่นกันลงไปอย่างชัดเจน รู้ว่า คนแรกใกล้มาก คนที่สองลึกไปทางด้านหลังของคนแรกอีกพอสมควร และคนที่สามอยู่ลึกสุดไกลสุด นี่คือเสียงบรรยากาศความลึกครับ เสียงเพลงก็เช่นกัน ถ้าฟังผ่านลำโพงไฮเอ็นด์จริงก็จะสามารถแสดงรายละเอียดด้านบรรยากาศต่างๆ ทั้งความลึกของอิมเมจ เวที และแอมเบี๊ยนซ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องสมจริงครับ / พี่พร ลำโพงไฮเอ็นด์ 0851423903

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้วันพระ
 





ท่อ VCE สนใจติดต่อที่ โทร 0851423903



เรื่องลำโพงไฮ-เอ็นด์ต่อครับ


ช่วงนี้เป็นหน้าทุเรียน บางคนก็ไม่ชอบทานทุเรียน สำหรับผมพอทานได้ไม่ถึงกับชอบ

ทีนี้จะพูดถึงเฉพาะคนที่ทานทุเรียน จากการมองดูคนใกล้ๆตัวผม ผมว่าคนส่วนใหญ่ชอบทานทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ซึ่งก็สอดคล้องกับการตลาดที่แทบทั้งหมดจะมีแต่พันธุ์หมอนทองขาย พันธุ์อื่นจะมีน้อยมาก ผมถามคนที่ใกล้ชิดว่าทำไมชอบพันธุ์หมอนทอง เขาตอบว่าเนื้อมันเยอะหวานมัน (สำหรับผมกลับมีความเห็นตรงข้าม) ผมเห็นว่าพันธุ์หมอนทองเนื้อเยอะก็จริงแต่เนื้อมันจะค่อนข้างหยาบ และสำหรับรสชาดจะหวานออกเลี่ยนไปหน่อยสำหรับผม เมื่อก่อนผมเห็นมีพันธุ์ชะนีจะมาขายคู่กับหมอนทอง แต่คนจะชอบพันธุ์ชะนีมีน้อยกว่า เนื้อจะน้อยกว่าเมล็ดจะใหญ่กว่าหมอนทองและจะหวานคนละแบบกับหมอนทอง มันจะหวานเจือขมนิดๆ (ไม่ถูกปากคนส่วนใหญ่) แต่สำหรับผม ถ้ามีให้เลือกระหว่างสองพันธุ์นี้ผมจะเลือกชะนี (ไม่ถึงกับชอบพันธุ์นี้แต่ก็เห็นว่ามันเข้าท่ากว่าหมอนทอง)

ทุเรียนพันธุ์ที่ผมเคยทานแล้วรู้สึกว่าชอบน่าจะเป็นพันธุ์ พวงมณี/ศรีสุวรรณ (ไม่แน่ใจว่าพันธ์อะไรแน่ ) เนื้อจะละเอียดสีจะเหลืองเข้มขนาดหยุมจะไม่ใหญ่เมล็ดเล็กสีเข้มมากและขนาดผลลูกทุเรียนพันธุ์นี้ก็ไม่ใหญ่ (ต่างจากหมอนทองที่สีเนื้อจะออกเหลืองอ่อนๆ/อย่างน้อยๆก็ออกโทนอ่อนกว่า/และสีเมล็ดจะออกเข้มน้อยกว่าชัดเจน) อีกพันธุ์หนึ่งที่ผมน่าจะชอบ คือ หลงลับแล มีปลูกไว้หนึ่งต้นเพิ่งเริ่มให้ลูกเป็นปีที่สองแต่ยังไม่มีโอกาสได้ทานทั้งสองปี


หากดูคนส่วนใหญ่ที่ทานทุเรียนทั้งผู้ที่ทานมานานแล้ว และทั้งผู้ที่เริ่มทาน (เริ่มเข้ามาในวงการ) จะเห็นได้ว่า คนส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่พันธุ์หมอนทองเป็นหลัก มีส่วนน้อยที่จะมุ่งไปที่พันธุ์อื่นๆ เปรียบเสมือนคนที่เล่นเครื่องเสียงฟังเพลงที่มีแยกอย่างหยาบๆเป็นสองกลุ่ม (ขอกล่าวรายละเอียดนี้อีกครั้ง) คือ กลุ่มมิวสิคเลิพเวอร์ และกลุ่มออดิโอไฟล์ ทั้งสองกลุ่มนี้มีความชอบที่เหมือนกันคือฟังเพลง เพียงแต่กลุ่มมิวสิคเลิพเวอร์จะสนใจฟังเพลงเป็นหลัก เพลงจะเพราะไม่เพราะไม่ได้อยู่ที่การบันทึกที่ดีเลิศหรืออะไรที่ไม่ใช่ทำนองหรือเนื้อร้องที่ไพเราะ สมดุลทุ้มแหลมอาจจะเกี่ยวแต่ไม่ได้ซีเรียสมาก แต่ สำหรับกลุ่มออดิโอไฟล์แล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เขาให้ความสนใจในรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆด้วย และค่อนข้างจะใส่ใจ เช่น ความอิ่มเต็มของเสียงต่างๆ ความเนียนใส บรรยากาศ แอมเบี๊ยนซ์ ความเป็นมิติ ความเป็นเชิงชั้นของเวที ความลึก ความตึงแน่นกระชับ ความผ่อนคลาย ไดนามิค หรือความนุ่มนวล ซึ่งนั่นจะเห็นได้ว่าเขามีความพิถีพิถันในเสียงเพลงที่ออกมา 


ถ้าให้คนที่ชอบทางออดิโอไฟล์เป็นคนเลือกเครื่องเคราต่างๆมาใช้งานในระบบเครื่องเสียง เขาก็จะเลือกเครื่องที่จะตอบสนองรายละเอียดต่างๆดังที่กล่าวไปแล้วได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มาใช้งาน กลับกัน ถ้าให้คนในกลุ่มมิวสิคเลิพเวอร์เลือกเครื่องต่างๆมาใช้ในระบบเขาก็จะไม่ใส่ใจในรายละเอียดเหล่านั้นมากนัก สองแนวทางนี้ไม่มีใครถูกและไม่มีใครผิด จะให้แต่ละกลุ่มเปลี่ยนแนวทางที่ตนชอบก็ไม่ได้และไม่ควรทำเพราะเท่ากับว่าไปบังคับให้เขาเปลี่ยนความชอบ เปรียบเหมือนคนที่ชอบทานทุเรียนพันธุ์หมอนทองแต่เราจะเปลี่ยนให้เขาไปชอบพันธุ์พวงมณี หรือกลับกัน ก็ไม่ได้และไม่มีประโยชน์/ พี่พร ลำโพงไฮ-เอ็นด์ 0851423903

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้วันพระ


ท่อ VCE สนใจติดต่อที่ โทร 0851423903


เรื่องลำโพงไฮ-เอ็นด์ต่อ

ขอกล่าวเฉพาะ ออดิโอไฟล์ก็แล้วกัน เพราะจะค่อนข้างพิถีพิถันในการเลือกเครื่องเสียงมาใช้งาน
ออดิโอไฟล์จะทราบดีว่าเครื่องเสียงแต่ละเครื่องจะให้เสียงแตกต่างกัน และในเครื่องต่างๆเหล่านั้นจะมีทั้งเครื่องที่เขาชอบและไม่ชอบ เครื่องที่เขาชอบเขาก็มีเหตุผลส่วนตัวของเขาว่าชอบเพราะอะไร

ลำโพงเป็นหนึ่งในเครื่องเสียงที่อยู่ในระบบ และ ลำโพงเป็นตัวแปรที่สำคัญอย่างมาก (ถึงมากที่สุด) เนื่องด้วยเหตุผลหลายๆ จากตัวของมันเอง

หากเราดูกันที่ผลตอบสนองความถี่ ลำโพงจะเป็นตัวที่ใช้สเป็คอ้างอิงค่อนข้างหยาบกว่าเครื่องเสียงชิ้นอื่นๆ ค่อนข้างมาก (ความเที่ยงตรงอ้างถึงระดับความแตกต่างสูงถึง +/-3DB กันเลยทีเดียว หรืออย่างละเอียดหน่อยก็ +/-2DB ซึ่งจะแตกต่างกับเครื่องเสียงชิ้นอื่นๆ ที่จะระบุสเป็คด้านนี้อ้างที่ความแตกต่างน้อยกว่านั้นมากๆ เพราะจะว่ากันที่ +/-0.5DB หรือต่ำกว่านั้น) ทำให้ ผลตอบสนองความถี่ของลำโพงแต่ละคู่จะแตกต่างจากคู่อื่นๆได้มาก (และบางทีหลายๆคู่เหล่านั้นก็ได้รับการยอมรับว่าอยู่ในเกรดเดียวกันเสียด้วยครับ)

และหากเราจะดูกันที่ความเพี้ยนของเสียง เครื่องเสียงชิ้นอื่นๆ จะให้ความเพี้ยนต่ำกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเพี้ยนที่ความถี่ต่ำๆ (คร่าวๆ ว่าราวๆ 50Hz ลงมา) และ ในขณะที่เครื่องเสียงชิ้นอื่นๆ จะให้ความเพี้ยนที่ความถี่ต่างๆค่อนข้างไล่ๆกัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องประเภทโซลเตสเตท) แต่ลำโพงจะไม่เป็นอย่างนั้น ลำโพง จะให้ความเพี้ยนต่ำเฉพาะช่วงความถี่กลางไปจนถึงแหลมต้นๆ แหลมสูงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แหลมปลายๆ จะให้ความเพี้ยนสูงกว่า ส่วนย่านเบสจะมีความเพี้ยนสูงในย่านความถี่ที่ต่ำมากๆ (เช่นช่วงความถี่ 20-40Hz) ยกเว้นลำโพงหลายๆทางบางคู่ (ส่วนมากต้องระดับไฮ-เอ็นด์เท่านั้น)

พูดถึงความเพี้ยน มันมีทั้งในแง่ THD HD และ IMD (ความจริงมีความเพี้ยนอื่นๆอีก)

ถ้ากล่าวถึงรายละเอียดของ THD (หรือที่เรียกว่าความเพี้ยนรวมทางฮาร์โมนิค) ออดิโอไฟล์ที่มีประสบการณ์ จะมองดูตัวเลขนี้พร้อมกับครุ่นคิดไปด้วย ถ้าเป็นเครื่องเสียงอื่นๆที่ไม่ใช่ลำโพง ค่าตัวเลขนี้ทำได้ต่ำถึงระดับ 0.001% มาหลายปีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเครื่องเสียงเครื่องนั้นๆที่ให้สเป็คค่า THD ต่ำมากถึงระดับนั้นจะให้คุณภาพเสียงที่ดี ที่ถูกต้อง ที่สมจริง หรือ เป็นที่น่าพอใจ

เรื่องของเรื่องก็เพราะว่า มันมีอะไรที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตัวเลขสวยหรูเหล่านั้นครับ นั่นก็คือ เมื่อเรามาพิจารณาที่ HD ค่าต่างๆ ที่แยกย่อยเป็น ลำดับคู่ (ลำดับที่ 2, 4, 6ฯลฯ ของความถี่หลัก) ลำดับคี่ (ลำดับที่ 3, 5, 7 ฯลฯของความถี่หลัก) ซึ่งหูมนุษย์เราจะรู้สึกดีกว่าต่อความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคู่ แต่จะรู้สึกไม่ดีต่อความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคี่ (ความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคู่ จะรับรู้เป็นเส้นเสียงที่หนาอิ่ม ฉ่ำ ซึ่งถ้าไม่มากจนเกินไปหูก็จะยอมรับได้มากกว่า แต่ความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคี่ แค่ต่ำกว่าความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคู่ 4-5DB หูก็จะยอมรับไม่ค่อยได้แล้ว ยิ่งความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคี่สูงกว่าความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคู่ก็จะยิ่งฟังแทบไม่ได้ ความเพี้ยนของฮาร์โมนิคลำดับคี่มีผลให้ฟังว่าเสียงแห้งบางแข็งไม่มีน้ำไม่มีนวลไม่ฉ่ำหวาน)


ทีนี้ จากตัวเลขความเพี้ยนที่ว่า ต่ำมากถึง 0.001% แต่ถ้าหากให้ค่าความเพี้ยนลำดับคี่ไม่ดี (เช่น ต่ำกว่าความเพี้ยนลำดับคู่ 3DB และที่แย่กว่านั้นมาก คือ ค่าตัวเลขความเพี้ยนลำดับคี่มีค่าสูงกว่าค่าตัวเลขความเพี้ยนลำดับคู่/อย่างนี้เรียกว่าจบเกมส์เลยทีเดียว) ก็จะฟังไม่ดี ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่สบายหู

(เรื่องความเพี้ยน THD HD ในส่วนของลำโพง และความเพี้ยน IMD จะกล่าวต่อในโอกาสหน้าครับ) พี่พร 0851423903

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
[/url]



วันนี้ตรงกับวัน อาสาฬหบูชา
พรุ่งนี้ตรงกับวันเข้าพรรษา



ท่อไอเสีย VCE ติดต่อที่ 0851423903



////////__



ลำโพงจะให้คุณภาพเสียงดีที่สุดอยู่ที่คนออกแบบและปรับจูนลำโพงครับ ซึ่งจะเป็นจุดที่สำคัญที่สุด

ลำโพงคู่หนึ่งๆ จะให้คุณสมบัติด้านความใส (clarity) ได้มากที่สุดจะขึ้นอยู่กับความสามารถของคนจูนมากกว่าขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ต่างๆในเน็ตเวิร์ค ( ไม่ว่า capacitor, coil, resistor) หรือแม้แต่ตัวไดร์เวอร์เอง (woofer, midrange, tweeter)

แน่นอนครับว่า เมื่อคุณอัพเกรดไปใช้อุปกรณ์ในเน็ตเวิร์คให้มีคุณภาพสูงขึ้น คุณจะได้ความใสของเสียงที่ดีขึ้น ได้ความเพี้ยนของเสียง (distortion) และได้ผลตอบสนองความถี่ และอื่นๆ เช่นรายละเอียดของเสียง , ไดนามิค ฯลฯ ที่ดีขึ้น แต่ มันก็จะจำกัดอยู่ที่ความสามารถของคนจูนอยู่ดีครับ (ยกตัวอย่างเช่น ถ้าจุดตัดครอสส์ไม่ลงตัว แม้ว่าจะเปลี่ยน capacitor ไปใช้ที่คุณภาพสูงขึ้นแล้วได้เสียงที่ใสขึ้นจริง แต่  ความชัดเจนและเป็นสามมิติของอิมเมจก็จะถูกจำกัดด้วยจุดตัดที่ยังไม่ลงตัวนั้น ทำให้ความใสกระจ่างนั้นไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้เต็มที่อยู่นั่นเองครับ)

และเช่นกัน ถ้าคุณใช้ไดร์เวอร์ที่คุณภาพสูงๆ หลายสิ่งหลายอย่างจะดีตามคุณภาพของตัวไดร์เวอร์นั้น ไม่ว่าเรื่องความสะอาดของเสียง, ความใสของเสียง, ไดนามิค, รายละเอียดเสียง, ผลตอบสนองความถี่ ฯลฯ แต่ก็จะจำกัดอยู่ที่คนปรับจูนเช่นกัน ว่าจะสามารถปรับจูนให้ผลตอบสนองความถี่ออกมาได้ดีมากขนาดไหน และเสียงมีความใสกระจ่างมากแค่ไหน (รวมทั้งคุณสมบัติในเรื่องอื่นๆ)

/ พี่พร 0851423903




ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้วันพระ


ท่อไอเสีย VCE แตกต่างจากท่อไอเสีย /และหม้อพักต่างๆโดยสิ้นเชิง/ สนใจ ติดต่อที่ โทร 0851423903 หรือค้นไลน์ด้วยเบอร์โทรพิมพ์ 851423903


//////


พูดถึงลำโพงไฮเอ็นด์ต่อ


คำว่าความใสกระจ่าง โปร่งใส ทะลุทะลวง (clarity , transparent) เข้าไปถึงชิ้นดนตรี มันมีอยู่ และทำได้ในลำโพงคุณภาพระดับไฮเอ็นด์ (และรวมทั้งเครื่องเสียงอื่นๆ ด้วย ไม่ว่า เครื่องเล่นซีดี , ปรีแอมป์, เพาเวอร์แอมป์, สายเชื่อมต่อต่างๆ ฯลฯ)

และเป็นความสามารถที่ต่างกันไประหว่างลำโพงคู่หนึ่งกับอีกคู่หนึ่ง หรือ เครื่องเสียงชิ้นหนึ่งกับอีกชิ้นหนึ่ง เปรียบเหมือนนิ้วมือบนฝ่ามือคุณที่แต่ละนิ้วจะสั้นยาวไม่เท่ากัน

เรื่องเหล่านี้เหล่านักเล่นออดิโอไฟล์จะทราบกันดีและต่างก็พยายามจะหาเครื่องเสียงที่มีคุณสมบัติดังกล่าวที่ดีๆมาไว้ในครอบครอง (ตามกำลังความสามารถของตน) แต่ในมุมมองของมิวสิคเลิพเวอร์เขาจะไม่คิดถึงเรื่องเหล่านี้มากนัก นั่นเป็นเรื่องปกติของแต่ละคนที่มีจุดมุ่งหมายในการเสพดนตรีไม่เหมือนกัน

เหล่านักเล่นออดิโอไฟล์ เขาก็จะมีความคิดเห็นว่า เขาควรจะเลือกลำโพงหรือเครื่องเสียงที่ดีที่สุด (ในราคาที่เขาซื้อได้) เพื่อใช้ฟังเพลง แต่ มิวสิคเลิพเวอร์เขาจะมีความเห็นว่า เขาจะฟังเพลงไม่ได้ฟังเครื่อง (ทั้งๆ ที่เสียงเพลงที่เขาฟังนั้นฟังผ่านเครื่องเสียงออกมา และคุณภาพเสียงที่ออกมาจากแต่ละเครื่องก็มีคุณภาพเสียงที่ต่างกัน) เขามีความเห็นว่า ใช้เวลาส่วนใหญ่มาฟังเพลงดีกว่าการมาเสียเวลาเสาะแสวงหาเครื่องเสียงที่ดีๆ ที่ดีจริงๆที่เหมาะสำหรับเขา เขามีความสุขแล้วโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องเสียงที่ต้องถึงระดับดีมากๆ (ทั้งๆที่เครื่องเสียงที่ดีกว่า ก็เพื่อให้มันสามารถถ่ายทอดเสียงที่ดีกว่านั้นออกมา)

ครับ ความพอใจของมิวสิคเลิพเวอร์อยู่ที่เพลงเพราะเสียงดี แต่สำหรับออดิโอไฟล์ ต้องเสียงดีมากๆถึงมากที่สุดครับ





ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
 วันนี้วันพระ


ท่อไอเสีย VCE/ สนใจ ติดต่อที่ โทร 0851423903 หรือค้นไลน์ด้วยเบอร์โทรพิมพ์ 851423903

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
[/url]


/////


ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้า ท่อไอเสีย VCE



/////




ว่าด้วยลำโพงไฮเอ็นด์ต่อ

แผ่นซีดี ที่เหมาะสำหรับใช้ทดสอบประเมินคุณภาพของเครื่องเสียง ก็คือ แผ่นซีดีที่คุณมีความคุ้นเคยกับเสียงของมันมากที่สุดครับ

เพราะ แผ่นที่คุณฟังอยู่บ่อยๆ หากมีเสียงอะไรที่แตกต่างออกไป (ทั้งในทางบวกและในทางลบ) คุณจะรับรู้ข้อมูลเหล่านั้นได้ง่าย เร็ว และค่อนข้างมั่นใจได้ว่าหูไม่ได้ฝาดไปครับ

แต่ถ้าให้ผมแนะนำ แผ่นที่ผมแนะนำ ก็ควรจะมีทั้งแผ่นประเภทเพลงบรรเลง (หรือ มีร้องประกอบด้วย) จากวงซิมโฟออร์เคสตร้า เหตุผล เพราะทำให้ประเมินคุณภาพเสียงในหลายๆด้านได้ง่ายมากครับ


แผ่นต่อไปก็เป็นเพลงร้อง (ไทยก็ได้เทศก็ดี/ แต่ส่วนมากถ้าเอาให้ครอบคลุมทุกด้านก็คงจะเป็นเพลงจากต่างประเทศเป็นส่วนมาก) จากนักร้องชาย และหญิง (เลือกแผ่นที่นักร้องมีเสียงลูกคออิ่มชัดเจน และมีรายละเอียดเสียงลูกคอสั่นกระเพื่อมเยอะๆ /แนะนำ Janis ian/) เหตุผลที่เน้นเสียงมีลูกคออิ่มๆ เพราะเครื่องเสียงที่ดีจะมีเสียงในย่านนี้ที่อิ่มและมีรายละเอียดชัดเจนมาก (เครื่องส่วนใหญ่มักจะบกพร่องส่วนนี้ไปครับ มากน้อยลดหลั่นกันไป) และยิ่งเป็นแผ่นที่บันทึกมาดีเก็บรายละเอียดพวกแอมเบี๊ยน (เสียงสะท้อนด้านหลังเวที/อันนี้เป็นเสียงโดยอ้อม หากสงสัยว่าทำไมจึงเรียกว่าเสียงโดยอ้อม ถ้าท่านอ่านข้อความถัดไปท่านก็จะทราบเองครับ) รายละเอียดพวกประกายเสียง (เสียงที่เปล่งประกายออกมาจากชิ้นดนตรีต่างๆโดยตรง) ได้ครบถ้วนก็จะยิ่งดี


ชุดที่ให้เสียงได้ลงตัว (คุณภาพเครื่องรวมทั้งการจัดเซ็ทอัพ) เสียงโดยตรงและเสียงโดยอ้อมจะบาล๊านซ์กันครับ


อ้อ เกือบลืม และลืมไม่ได้เลยคือ เพลงไทยลูกทุ่งครับ เน้นเพลงลูกทุ่งเก่าๆที่นักร้องมีลีลาการร้องที่เสียงพลิ้วไหวเยอะๆ และใช้เครื่องดนตรีที่ให้เสียงพลิ้วไหวมากๆ (เช่นหีบเพลงแอคคอเดี้ยน/ไม่แน่ใจว่าเรียกถูกหรือเปล่า ให้เสียงพลิ้วหวานมากๆ) และมีการใช้เครื่องดนตรีที่ปัจจุบันไม่เห็นมีใครใช้กันแต่ให้สีสันที่จะแสดงรายละเอียดต่างๆได้มาก (เช่นเครื่องเป่าประเภททรัมเปทแต่มีการใช้อุปกรณ์บางอย่างที่มาปิดเปิดแง้มๆบริเวณปากแตรของมัน/ผมเรียกไม่ถูกเช่นกันว่าอะไร/ ) ซึ่งการที่นักดนตรีทำแบบนั้นจะทำให้ได้ยินรายละเอียดเสียงที่ออดอ้อนพลิ้วไหวมากครับ

เพลงไทยลูกทุ่งดังกล่าวก็ใช้ในการประเมินรายละเอียดในเสียงย่านกลางทั้งหมดไปจนจรดปลายเสียงสูงสุดได้เลยครับ ว่ามีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน อิ่มชัด ชุ่มฉ่ำ หรือว่าเบลอ บาง ทื่อ หรือพลิ้วหวานหยดย้อยมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ฯลฯ

นอกจากนั้นก็คงเป็นเพลงประเภท rock อาจจะไม่ต้องหนักมากๆก็ได้ แนะนำมาร์ค นอฟเฟลอร์ (จะได้ฟังเสียงกีตาร์ไฟฟ้า ที่ตาคนนี้มักจะเลือกใช้ดิสทอร์ตที่ผสมลงไปอย่างเหมาะสม ใช้ทดสอบน้ำเสียงในเสียงกลางด้านสูงต่อกับแหลมด้านล่างได้ดี ประกอบกับเสียงร้องของแกที่มีเสียงย่านกลางที่ดีด้วยครับ). /พี่พร 0851423903









ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
[/url]



//////

สนใจท่อ VCE ติดต่อ โทร 0851423903

 emo1

/////


เรื่องลำโพง ไฮเอ็นด์ต่อครับ



เครื่องเสียงไฮไฟ ลำโพงไฮไฟ คุณภาพเสียงก็ระดับหนึ่ง

เครื่องเสียงไฮเอ็นด์ ลำโพงไฮเอ็นด์ก็จะให้คุณภาพเสียงดีขึ้นมาอีกระดับ

แต่ ใช่ว่าเครื่องเสียงไฮเอ็นด์ทุกเครื่อง ลำโพงไฮเอ็นด์ทุกคู่ จะให้เสียงถึงระดับไฮเอ็นด์ได้เสมอไปนะครับ คุณต้องพิจารณาให้ดีๆ ครับ

ซึ่ง สิ่งที่ใช้ประเมินคุณภาพของมัน อยู่ที่คุณภาพเสียงครับ หาใช่รูปร่างหน้าตาภายนอกไม่ แต่เครื่องเสียงไฮเอ็นด์ (รวมทั้งลำโพงไฮเอ็นด์) ก็ควรจะมีรูปโฉมภายนอกที่ดูดีพอสมควรครับ


สิ่งที่ใช้ประเมินคุณภาพเสียง ก็แผ่น CD ที่ดีๆ (หรือแหล่งข้อมูลเสียงอื่นๆ ตามแต่จะประสงค์ครับ)
เลือกแผ่นที่บันทึกมาดีและคุณคุ้นเคยเสียงของมันครับ

เหตุที่เลือกแผ่นที่บันทึกมาดีก็เพราะ มันเหมาะที่จะใช้ฟังประเมินคุณภาพเสียง เครื่องเสียงไฮเอ็นด์ (หรือ ลำโพงไฮเอ็นด์) นั้นๆ ครับ คล้ายๆ คุณจะทดสอบความสามารถทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยม ถ้าคุณใช้ข้อสอบบวกลบเลขพื้นๆ คุณก็จะไม่สามารถวัดรายละเอียดลงลึกได้ แต่ถ้าใช้ข้อสอบที่ยากกว่านั้น เช่นเลขสมการหรืออะไรที่ยากๆกว่านั้น คุณก็จะสามารถวัดความสามารถของแต่ละคนได้ดีกว่า

เช่นเดียวกัน ในการทดสอบเครื่องเสียง ถ้าคุณจะวัดความสามารถที่ต้องการเฟ้นหาเครื่องที่เหนือกว่าธรรมดามากๆ คุณก็ต้องเลือกแผ่น CD ที่บันทึกเก็บข้อมูลมาได้ละเอียดซับซ้อนมากที่สุด ซึ่งในที่นี้ ไม่ใช่รายละเอียดจำนวนบิทเรทหรืออะไร แต่คือ รายละเอียดเสียงที่มีความซับซ้อนมากๆตัวอย่างเช่น แผ่น CD ที่บรรเลงโดยวงซิมโฟนี่วงใหญ่ใช้เครื่องดนตรีหลายชิ้น ซึ่ง อย่างที่ทราบกันดี วงประเภทนี้ใช้เครื่องดนตรีหลายชิ้นมาก และตำแหน่งนั่งของนักดนตรีแต่ละคนก็กระจัดกระจายกันไปบนเวที ทั้งกว้างใหญ่และลึกเป็นชั้นๆ เสียงที่ได้จากการบรรเลง อุดมไปด้วยเสียงโดยตรงและเสียงสะท้อน ทั้งเสียงจากเครื่องดนตรีหลายๆชิ้นเหล่านั้น ทั้งลีลาการเล่นที่มีพลิ้วไหว แผ่วเบาและโหมกระพือ รวมทั้ง เสียงบรรยากาศความกว้างความโอ่อ่ากว้างใหญ่ของเวทีเสียง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความลึก ระหว่างแต่ละแถวแต่ละแนวของกลุ่มเครื่องดนตรีที่กระจัดกระจายกันอยู่เป็นแถวเป็นแนว และลดหลั่นความลึกถัดๆเข้าไปเป็นลำดับชั้นในเวทีเสียงเหล่านั้น ซึ่ง มันง่ายมากที่จะคัดเครื่องที่ให้เสียงคลุมเครือกว่า เบลอกว่า โปร่งใสน้อยกว่า ให้บรรยากาศความกว้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความลึกเป็นชั้นๆ ยิบย่อย น้อยกว่า ออกไป และ ในขณะเดียวกัน เครื่องที่เหนือชั้นจริงๆ ก็จะแสดงตัวออกมาอย่างแจ่มชัดเลยทีเดียวครับ

และ อย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว แผ่น CD ที่ควรจะใช้ (น่าจะเรียกว่าขาดไม่ได้มากกว่า) คือแผ่นเพลงร้องเพลงลูกทุ่งของไทยเรานี่แหละครับ (ท่านอาจจะใช้เพลง Blue ก็ได้ครับ) เหตุที่ใช้เพลงลูกทุ่ง ก็เพราะโดยพื้นฐานเพลงลูกทุ่ง (ลูกทุ่งดั้งเดิมนะครับไม่ใช่ลูกทุ่งสมัยใหม่ที่หลายๆเพลงจะคลายความพลิ้วลงไปอย่างมากแล้ว) ลีลาการร้องของนักร้องลูกทุ่งจะใช้วิธีการร้องที่พลิ้วไหวเต็มที่ (ในขณะที่ลีลาแบบลูกกรุงจะออกไปทางเสียงเรียบๆมากกว่า /บางท่านไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร ก็ขอยกตัวอย่างก็แล้วกัน เช่น ให้นักร้องลูกกรุงมาร้องเพลงของศรคีรี ศรีประจวบอย่างนี้ หรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ซึ่งเสียงพลิ้วไหวมากๆ จะเป็นเช่นไร มันก็จะออกมาค่อนข้างเรียบๆไม่พลิ้วไหวเท่าที่ควรใช่ไหมครับ/)

ซึ่งเสียงที่พลิ้วไหวมากๆ นี้ (ทั้งจากเสียงร้อง และอาจจะรวมเสียงของเครื่องดนตรีด้วย บางอัลบั้มจะใช้เครื่องดนตรีที่ให้เสียงพลิ้วไหวมากๆ ให้เข้ากับเสียงร้อง เราก็จะได้ยินรายละเอียดเสียงที่พลิ้วไหวนั้นจากความพลิ้วของนิ้วที่นักดนตรีบรรเลง) ที่ทำให้เราแยกความสามารถของเครื่องเสียงไฮเอ็นด์แต่ละเครื่อง /หรือ ลำโพงไฮเอ็นด์แต่ละคู่/ ออกง่ายดายมากๆ เช่นกันครับ )/ พี่พร ลำโพง ไฮเอ็นด์ 0851423903









ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
[/url]

/

12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ

ทรงพระเจริญ ยิ่ง ยืนนาน

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
วันนี้วันพระ


///

ในระบบเสียงไฮไฟ (และไฮเอ็นด์) แหล่งต้นทาง โบร่ำโบราณที่สุดคือเครื่องเล่นแผ่นเสียง (โบร่ำโบราณกว่านั้นอีกคือ เครื่องเล่นโอเพ่นรีล) นำสมัยขึ้นมาคือเครื่องเล่นซีดี และล้ำสมัยที่สุดก็จะเป็นพวกไฟล์เสียง

ถัดจากแหล่งต้นทางคือ ปรีแอมป์และแอมป์ โบราณที่สุดคือเครื่องหลอด นำสมัยขึ้นมาคือ โซลิตสเตท (ทรานซิสเตอร์และมอสเฟตตามลำดับ)


เอาแค่สองอย่างข้างต้น แหล่งต้นทาง กับภาคปรีแอมป์และแอมป์ ถ้าคัดเอาเฉพาะเครื่องสุดยอดก็จะพอๆกันกินกันไม่ลงระหว่างของโบราณกับของล้ำสมัย แต่ถ้าว่ากันโดยพื้นๆทั่วไป ของโบราณอย่างเครื่องเล่นแผ่นเสียงกับเครื่องหลอดก็จะมีภาษีดีกว่าเครื่องเล่นซีดีและเครื่องประเภทโซลิตสเตทโดยมากครับ

เสียงมันฟังดูมีน้ำหนัก อิ่ม และเป็นธรรมชาติกว่ามีบรรยากาศมากกว่า  ลื่นไหล และพลิ้วดีกว่าค่อนข้างชัดเจนครับ (ยกเว้นจุดดีของเบส ไดนามิค และ เสียงรบกวน)


ข้างบนนั่นว่าด้วยเรื่องเครื่องเสียง


วันนี้นั่งดูลูกนกบนรังนกใกล้ๆบ้าน ลูกนกแรกเกิดยังไม่ลืมตายังบินไม่ได้ ต่อมาก็จะค่อยๆหัดบินจนปีกกล้าขาแข็งบินได้ในที่สุด
มาดูลูกคนเด็กทารกบ้าง แรกเกิดยังลุกนั่งเองก็ยังไม่ได้ก่อนจะหัดนั่งหัดเดินในลำดับถัดๆมา ยังไม่เคยเห็นเด็กคนไหนผิดไปจากนี้ (ยกเว้นพระพุทธเจ้า)

ที่เป็นเช่นนี้ทำให้เรารู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างควรจะค่อยๆดำเนินไปอย่างมีขั้นมีตอนหาใช่ก้าวข้ามขั้นตอนแต่อย่างใดไม่


/// ขอให้คิดดี ทำดี และพูดดีต่อไปเรื่อยๆนะครับ อยู่ห่างๆ การคิดชั่ว ทำชั่วพูดชั่ว (ประเภทเหยียดหยามเย้ยหยันดูแคลน ขอให้ท่านห่างๆไว้ อย่ากระทำเช่นนั้นนะครับ)