ผู้เขียน หัวข้อ: ท่อสูตรVCEลิ้นแปรผันเร่งไวขึ้นจากเดินเบาลากเกียร์ได้ยาวกว่า/Dyno1,2(ลากเกียร์),3  (อ่าน 102890 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ดูผลทดสอบเมื่อติดตั้งท่อสูตร VCE (ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ) กับรถระบบไอเสียเดิมโรงงานที่หน้า 1
และดูผลการลากเกียร์ที่ลากได้ยาวขึ้นบนไดโน่ที่หน้า 3 และดูผลการลากเกียร์ได้แรงม้าเพิ่ม 40 แรงม้า หน้า 13

ดูผลความประหยัด หน้า 12 แมสเซสส่งมาทางโทรศัพท์
รออัพภาพใหม่ครับ (ยังหาภาพในสต็อกไม่เจอ)

ดูกราฟไดโนรถทำโล่งมา หน้า 30



ผมว่ายากที่คุณจะได้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาจากพ่อค้าท่อไอเสีย แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะด่วนสรุปไปก่อนว่าทุกคนจะเป็นเช่นนั้นหมดนะครับ

ผมลองเข้าไปที่เวปไซต์ร้านท่อบางที่เขาก็ให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาพอสมควร เช่น ท่อแต่งแบบลงหน้าเพลาของรถปิ๊คอัพ เขาก็จะบอกว่า ของเขานะ ถ้าท่อขนาด 3 นิ้วทั้งเส้นนะจะได้ช่วงรอบกลางและรอบสูง แต่ถ้าท่อขนาด 2 นิ้วทั้งเส้นจะได้ช่วงรอบต้น (ที่ดีกว่า) ทั้งคู่เป็นท่อแบบลงหน้าเพลาไม่มีหม้อพัก

อืม อย่างนี้ค่อยเป็นธรรมกับผู้บริโภคหน่อย ไม่ใช่อะไรก็ต้นดีกลางได้ปลายดี คือ สรุปดีหมด (ทั้งๆ ที่ขัดกับหลักการทางวิศวกรรมยานยนต์อย่างชัดเจน) 

ท่อไอเสีย VCE หรือ ท่อสูตร VCE แตกต่างจากหม้อพักไอเสียทุกชนิด

เรื่องท่อไอเสียเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ครับ ถ้าคุณทำให้รอบต้นดีรูท่อมันต้องเล็กๆ แต่รูท่อเล็ก รอบกลางขึ้นไปก็ไม่ดีเท่าท่อรูใหญ่ ในขณะที่รูท่อขนาดใหญ่รอบต้นก็ไม่ดีไม่มีแรง แรงขึ้นช่วงรอบกลาง รอบปลายสุดก็ไม่ดีอีก

 ระบบไอเสียรถยนต์ไม่ใช่ใช้วิธีทำให้อั้นแต่เพียงอย่างเดียวหรือทำโล่งไปเลย ระบบไอเสียจากโรงงานจึงออกแบบมาให้ดีทั้งต้น กลางและปลาย (แต่ไม่ใช่ดีหมดทุกช่วง) เขาจะใช้วิธีเฉลี่ย ซึ่งเป็นวิธีเฉลี่ยสำหรับทั้งช่วงรอบสูงและรอบต่ำ (ซึ่งเป็นแค่วิธีคร่าวๆ ที่ก็ให้ผลคร่าวๆ ไม่ได้ดีที่สุดไปทั้งหมดทุกช่วงรอบเครื่อง) 

ดังนั้นคุณสามารถดัดแปลงระบบไอเสียจากของโรงงานให้ดีขึ้นได้
โดยวิธี ถ้าคุณทำให้ระบบไอเสียโล่งขึ้น คุณจะได้ช่วงรอบต่ำที่แย่ลงแต่ตั้งแต่รอบกลางขึ้นไปดีขึ้น ถ้าคุณทำให้โล่งขึ้นอีกโล่งมากๆ กลางขึ้นไปทางสูงดีขึ้นอีก (และช่วงรอบต่ำแย่ลงอีก) แต่ปลายสุดจะแย่ลง

กลับกัน ถ้าคุณทำให้ระบบไอเสียอั้นกว่าของเดิมโรงงาน ช่วงรอบต่ำจะดีขึ้นจากของเดิมโรงงาน แต่ตั้งแต่กลางขึ้นไปจะแย่ลง ปลายจะลดลง


รถยนต์ที่เน้นสมรรถนะสูงๆ เขาจึงต้องใช้วิธีปรับขนาดรูท่อให้เหมาะสมกับรอบเครื่อง

ท่อสูตร VCE มาในลักษณะนี้ ใช้วิธีปรับขนาดรูท่อไอเสียตามรอบเครื่อง โดย ภายในจะมีลิ้น (คล้ายลิ้นปีกผีเสื้อ) ใช้ทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนขนาดรูท่อได้ ในขณะที่หม้อพักต่างๆ จะไม่มีลิ้นดังกล่าว


ในขณะที่ท่อหม้อพักต่างๆ จะมีใยแก้วข้างในและจะมีท่อข้างในเพื่อให้ไอเสียไหลผ่านและมีรูรอบๆ ท่อไอเสียดังกล่าวแต่ท่อไอเสีย VCE ข้างในจะไม่มีรูพลุนและจะไม่มีใยแก้วเพื่อดูดซับเสียง แต่ภายในท่อไอเสีย VCE มีเฉพาะลิ้นเท่านั้น (คล้ายๆ ลิ้นปีกผีเสื้อแต่ขณะเปิดสุดจะไม่ขวางทางเดินไอเสีย) ลิ้นนี้ยึดติดกับบานพับสแตนเลสขนาดใหญ่ (ใช้แบบเหล็กไม่ได้จะเป็นสนิมและติดขัด) โดยห้อยแขวนอยู่ทีด้านบนสุดภายในท่อ ขณะเปิดกว้างสุดสามารถเปิดได้กว้างถึงเกือบ 3 นิ้ว


ท่อสูตร VCE มีความยาวเบ็ดเสร็จประมาณ 8 นิ้ว ทางเข้า/ออก (มีทั้งแบบเป็นเหล็กภายในเคลือบกัลวาไนซ์ป้องกันสนิม และแบบที่ทางเข้า/ออกเป็นสแตนเลส)

ทางเข้าออกยาวประมาณ 1.5 นิ้ว หน้าตัดกว้าง 2.5 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว ตรงป่องกลางเป็นสแตนเลสซึ่งภายในมีลิ้นเปิดและหรี่ได้จะมีหน้าตัดกว้าง 3 นิ้ว


การทำงานของท่อสูตร  VCE ช่วงรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ลิ้นดังกล่าวจะหรี่รูท่อลงมาให้เหลือขนาดเล็ก เพื่อให้ไอเสียที่ไหลเอื่อยๆ ในรอบเครื่องต่ำๆ ไหลเร็วขึ้น เมื่อไอเสียไหลเร็วขึ้น การประจุทางได้ไอดีก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ก็จะได้แรงบิดสูงขึ้นและมาที่รอบเครื่องต่ำกว่าเดิมมาก


เมื่อเรากดคันเร่งรอบเครื่องสูงขึ้น แรงดันไอเสียที่สูงขึ้นจะเอาชนะแรงดึงของลิ้นที่ถูกดึงเอาไว้ในรอบเดินเบา (ลิ้นจะถูกแรงดึงดูดจากแม่เหล็กแรงสูง Neo Dymium ซึ่งอยู่ด้านนอกท่อดึงไว้/ไม่ใช้สปริงเพราะจะทำงานไม่คงเส้นคงวา) แรงดันไอเสียทีสูงขึ้นก็จะดันให้ลิ้นเปิดอ้าขึ้นไปได้เรื่อยๆ ตามรอบเครื่องที่สูงขึ้น การไหลของไอเสียซึ่งมีขนาดพอดีกับรอบเครื่องเหล่านั้นก็จะไหลได้เร็วกว่าเดิมพุ่งไวกว่ารูท่อไอเสียที่มีขนาดคงที่


ไหลได้ไวกว่ารูท่อไอเสียที่ออกแบบมาจากโรงงาน (คิดรวมถึงระบบท่อไอเสียทั้งหมดแต่เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ขอระบุเฉพาะขนาดรูท่อไอเสีย) ไหลได้ไวกว่ารูท่อไอเสียที่ถูกทำให้โล่งมากๆ เพราะถ้ารูท่อใหญ่ไปที่รอบต่ำไอเสียก็จะยิ่งไหลเอื่อยๆ มากขึ้น ในรอบสูงสุดก็เช่นกันถ้าระบบโล่งมากๆ ไอเสียที่ไหลได้ปริมาณพอแล้วก็จะไม่มีแรงดันให้ไหลได้พุ่งมากขึ้นปลายก็ตกได้

ระบบไอเสียของรถเขาจะออกแบบมาโดยเฉลี่ยระหว่างช่วงรอบเครื่องสูงสุดกับรอบเครื่องตั้งแต่เดินเบาขึ้นไป (ซึ่งหยาบเกินไปจึงให้ผลไม่ดีเต็มที่)



จากทฤษฎี ที่ว่า รูท่อขนาดใหญ่จำกัดกำลังในช่วงรอบต่ำแต่ให้กำลังได้เต็มที่ในช่วงรอบสูง และกลับกัน รูท่อขนาดเล็กจะเพิ่มกำลังในช่วงรอบต่ำแต่จำกัดกำลังในช่วงรอบสูง

จากหัวข้อ High Performance
and road car exhaust theory

จากลิงค์ http://www.formula1-dictionary.net/exhaust_road_perf.html


High performance
and road car exhaust theory
…….Longer pipes tend to increase power below the engine’s torque peak and shorter pipes tend to increase power above the torque peak.

…….Large diameter pipes tend to limit low-range power and increase high range power.
Small diameter pipes tend to increase low-range power and to some degree limit high-range power.

"Balance" or "equalizer" chambers between the exhaust pipes tend to flatten the torque peak(s) and widen the power band.


และให้ดูความแตกต่างระหว่างท่อที่ขนาดรูท่อเล็กกับท่อที่มีขนาดรูท่อใหญ่ว่าจะให้แรงบิด (Torque) และแรงม้า (Horse Power) แตกต่างกันอย่างไร




จากลิงค์ http://forums.pelicanparts.com/porsche-911-technical-forum/397077-value-back-pressure-exhaust.html


The value of back pressure in exhaust
Here you can see a couple of dyno runs comparing some different exhausts, you can see the effects on a V8 but a flat 6 will be similarly affected / Bill Verburg



ซึ่งวิศวกรที่ออกแบบท่อไอเสียของโรงงาน (รวมทั้งหม้อพักและแคทซึ่งรวมๆ กันเป็นระบบท่อไอเสีย) ซึ่งติดตั้งมากับรถยนต์แต่ละรู่น ก็จำเป็นจะต้องใช้ค่าเฉลี่ยเพื่อให้ช่วงรอบสูงดี (แต่ไม่ใช่ดีที่สุด) และช่วงรอบต่ำมารอบกลางที่ดี (แต่ก็ไม่ใช่ดีที่สุดอีกเช่นกัน) นั่นคือเป็นค่าเฉลี่ยกลางๆ

ทีนี้ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ก็ชอบที่จะให้แรงบิดดีๆ (แรงบิด หรือ Torque คือแรงกระชากที่มีผลต่ออัตราเร่ง) ก็เฉพาะตั้งแต่รอบกลางๆ ไปทางสูงกันเป็นส่วนใหญ่

สังเกตจากรถที่เริ่มมีกำลังพุ่ง ประมาณรอบเครื่องทื่ 1600 รอบขึ้นไป หรือตั้งแต่ 1800 รอบ หรือ มากกว่า 2000 รอบก็มี มีน้อยที่เริ่มพุ่งตั้งแต่ 1300 รอบหรือต่ำกว่านี้


ดังนั้น เมื่อท่อสูตร VCE ซึ่งเพียงแค่ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ เท่านั้น ด้วยลิ้นภายในที่หรี่ลงมาในรอบเดินเบา (แม้ขณะหรี่ก็มีช่องด้านข้างๆ ลิ้นให้ไอเสียออกได้) และเริ่มเปิดนิดๆ เมื่อเริ่มออกตัวด้วยรอบเครื่องต่ำๆ ซึ่งด้วยขนาดรูท่อที่เล็กลงไอเสียก็จะไหลได้เร็วกว่าประจุไอดีได้เร็วและมากกว่าจึงได้แรงบิดเพิ่มขึ้น แรงบิดเพิ่มกำลังเพิ่มรถก็พุ่งขึ้นมากกว่า (ตั้งแต่รอบเครื่องเดินเบาขึ้นไปถึงรอบเครื่องกลางๆ ) รอบก็ขึ้นเร็วกว่าสัมพันธ์กับความเร็วที่ขึ้นเร็วกว่า (เครื่องที่มีวัดรอบจะเห็นเข็มความเร็วขึ้นเร็วใกล้เคียงกับเข็มวัดรอบมากขึ้น /จากเดิมที่จะเห็นเข็มวัดรอบล่วงหน้าไปก่อนมากๆ ก่อนเข็มความเร็วจะค่อยๆ ไล่ไปได้)


ผลที่ได้แบบนี้ จากแรงบิดที่เพิ่มขึ้นในรอบเครื่องที่ต่ำลง ทำให้ขับรถในช่วงความเร็วต่ำๆ และความเร็วกลางๆ ได้คล่องตัวมากขึ้น มีเรี่ยวแรงให้ใช้งานในช่วงความเร็วเหล่านี้มากขึ้น ยังมีผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น เพราะการรอรอบน้อยลง (จากแรงบิดเพิ่ม) เหยียบคันเร่งน้อยลงแต่รถมีแรงมากกว่าก็ไม่ต้องกดลึกเพื่อคิีกดาวน์ก็ได้เวลาจะเร่งแซง


นอกจากนั้นช่วงที่เราถอนคันเร่ง ลิ้นที่ค่อยๆ ตกลงมาตามรอบเครื่องที่ค่อยๆ ลดลง ไอเสียที่กำลังไหลผ่านขนาดรูท่อที่ค่อยๆ เล็กลงมาก็จะมี Back Pressure สูงขึ้นตามรอบเครื่องที่ต่ำลง ตอบสนองตามความต้องการของเครื่องยนต์อย่างแท้จริง รถก็จะยังคงลอยตัวไม่ลดความเร็วลงอย่างฮวบงาบ ไม่วูบ


นั่นคือ ให้ผลดีกว่าทั้งในช่วงเหยียบคันเร่งและถอนคันเร่ง


จากการที่ลิ้นสามารถเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ ในช่วงรอบกลางและรอบสูง ระบบท่อไอเสียของรถบางช่วงที่แรงบิดตกลงไป (เช่นในรอบสูงๆ บางช่วงและรอบเครื่องที่ค่อนข้างสูง) ลิ้นในท่อไอเสีย VCE ที่จัดการกับขนาดรูท่อได้เหมาะสมที่สุด ในเกียร์ MT จะสามารถลากรอบได้สูงกว่าเดิม (ก่อนที่กำลังจะตก) ช่วงนี้จะได้แรงบิดและแรงม้าเพิ่มด้วย (แม้จะไม่มากแต่ก็มีผลมาก ดูจากตัวเลขการลากรอบที่มากกว่าเดิมไม่น้อยกว่า 1000-2000 รอบเครื่อง)

ซึ่งเกียร์ AT ก็จะมีผลแบบเดียวกัน แรงบิดเพิ่มก็เปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้น เช่นเดิมเปลี่ยนเกียร์ที่ 2500 รอบก็ลดมาเป็น 2000 รอบ ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แถวๆ 1000 รอบจากเดิมที่เหยียบคันเร่งเยอะคันเร่งจมๆ ก็จะหนักแน่นขึ้น ไม่โหวงๆ กดคันเร่งลงไปรถก็จะตอบสนองทันทีจากของเดิมจะตอบสนองก็ต่อเมื่อคันเร่งต้องจมลงไปอีกและไม่สามารถตอบสนองได้ทันที


รูปท่อไม่สวยงามครับ (โชว์เอาสวยงามไม่ได้) ขัดแย้งกับคุณภาพที่มันให้ได้ในจุดซึ่งของเจ้าอื่นไม่สามารถทำได้แบบนี้หรือเทียบเท่าได้ด้วยข้อจำกัดที่เป็นระบบรูท่อคงที่ทั้งหมด


สนใจติดต่อสั่งซื้อไปให้ร้านท่อไอเสียใกล้บ้านท่านติดตั้งให้ก็ได้ครับ (มีคู่มือบอกและที่ตัวท่อจะเขียนบอกทางเข้า-ออกและด้านล่างไว้พร้อมรูปประกอบ)

โดย แบบทางเข้า/ออกเป็นเหล็ก (ภายในเคลือบกัลวาไนซ์) ป่องกลางเป็นสแตนเลส ราคา 3600 บาท

แบบทางเข้า/ออกเป็นสแตนเลส (เหมาะสำหรับท่านที่เดินท่อสแตนเลส) ราคา 4300 บาท

ถ้าให้ติดตั้งให้ด้วย เพิ่ม 300 บาทครับ ติดต่อล่วงหน้าที่พี่พร 0851423903 (เท่านั้นครับ)

ร้านที่ติดตั้งกันประจำมีที่ ลำลูกกาคลอง 2 (นัดเจอที่โลตัสคลองสองลำลูกกา เข้าไปทางเส้นลำลูกกาจากปากทางธูปเตมีย์ประมาณ 3 กม.) พุทธมณฑลสาย 4 (เข้าไปทางเส้นบรมราชชนนีฯ ประมาณ 5 กม. นัดเจอที่ปั๊ม ปตท. NGV ฝั่งเดียวกัน ถ้าเข้าทางเพชรเกษมข้ามไฟแดงที่ 2 ก็กลับรถไปปั๊มปตท. NGV ฝั่งตรงกันข้ามร้านท่อจะอยู่ใกล้ๆ กัน) บรรทัดทอง และ สามเสน

 ติดต่อล่วงหน้าที่พี่พร 0851423903 (เท่านั้นครับ)


รูปท่อ VCE แบบทางเข้าออกเป็นเหล็กป่องกลางสแตนเลสจะแบบนี้ครับ (ตัวควบคุมด้านนอกท่อปัจจุบันพันด้วยผ้ากันความร้อนชนิดกันได้ 1200 องศา 4 ชั้นให้ความทนทานต่อแม่เหล็กแบบใหม่ (ทนความร้อนสูงกว่านีโอไดเมี่ยมที่ใช้อยู่เดิมสองเท่า)ที่อยู่ภายในได้ดีที่สุดจนไม่เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมาครับ)

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13ส.ค.2014, 16:17:46 โดย phorn »

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1



ทดสอบที่ L-Test car
ตัดมาดูใกล้ๆ



กราฟนี้เป็นของ Mazda 2 Sedan MT ทอสอบเปรียบเทียบระหว่างใช้งานท่อสูตร VCE  (เส้นสีแดงบางๆ) กับไม่ใช้งาน (เส้นสีแดงหนาๆ) ไม่ใช้งานหมายถึงใช้เฉพาะระบบท่อไอเสียเดิมโรงงานทั้งหมด มีแคท วิธีการตัดการใช้งานท่อสูตร VCE ทำโดยเปิดลิ้นในท่อสูตร VCE ขึ้นจนสุดแล้วสอดท่อเปล่าๆ ขนาด 2 นิ้วเข้าไปเพื่อให้ไอเสียไหลผ่านโดยตรง (แม้ครั้งนี้ไม่ได้วัดลงไปถึงรอบเครื่องต่ำๆ แต่ก็เห็นว่าปลายที่ลงไปทางต่ำมีการตวัดขึ้น นั่นหมายถึงแรงบิดและแรงม้าในช่วงที่ต่ำกว่า 1700 รอบเมื่อใช้งานท่อสูตร VCE

จากกราฟคาดว่าช่วงที่ต่ำกว่า 1700 รอบขณะใช้งานท่อสูตร VCE (เส้นบางๆ) ปลายมีการตวัดขึ้น ก็แสดงว่าจะให้แรงบิดและแรงม้าเพิ่มขึ้น

 ในกราฟ ช่วงรอบเครื่องจาก 2300 ถึง 2600 รอบ และจาก 3300-4800 รอบ และในช่วงปลายสุด 5600 รอบถึง 6300 รอบ เมื่อใช้งานท่อสูตร VCE (เส้นบางๆ) จะให้แรงบิดและแรงม้ามากขึ้น ลากเกียร์ได้ยาวขึ้น ได้ความเร็วปลายสุดเพิ่มขึ้นด้วย



[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]

Honda City idsi LPG AT หม้อพักเดิมแต่แคทโล่งไปแล้ว

คันนี้ได้ประสบการณ์เกี่ยวกับแคทที่โล่งๆ ว่ามีผลให้ความเร็วต่ำๆ อืดๆ มากขึ้น ถึงแม้ว่าความเร็วช่วงกลางจะดีขึ้นแต่ แรงบิดที่ลดลงในรอบเครื่องต่ำๆ ทำให้ขับความเร็วช้าๆ ไม่ดีเหมือนเก่า เพราะรถจะมีอาการรอรอบไม่มีแรง
 
ตอนนี้ตอบกลับมาว่าขับดีกว่าเก่าแล้วครับ จะแซงก็แซงได้ดีขึ้น ทันใจขึ้น พุ่งดีขึ้นครับ (เวลาอยู่ในช่วงความเร็วต่ำๆ ไม่ต้องคอยกะระยะเลี้ยงความเร็วไม่ต้องขยี้คันเร่งมากเวลาจะเร่งแซงอย่างตอนก่อนทำ ขึ้นเนินก็มีแรงขึ้น)

จากผลการหรี่รูท่อลงเล็กได้และเปิดกว้างขึ้นได้ตามรอบเครื่องของลิ้นในท่อสูตร VCE ครับ




[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]

( www.aethailand.com) อ้างจาก: anurakpan ที่ 08 ธันวาคม 2012, 17:43:59
“ขอถามหน่อยครับ พอดีผมใช้รถ honda city idsi 1,500 cc. ติดแก๊ส LPG ต่อมาไส้กรองของcat ไหม้จนมีเสียงดัง ผมจึงผ่าเอาเฉพาะเศษไส้กรองที่เหลือออก แต่ส่งผลทำให้รอบและกำลังเครื่องในช่วงออกตัวต่ำ หากผมจะท่อไอเสียVCEลิ้นแปรผันเพิ่มเข้าไปจะช่วยได้หรือไม่ ผมจะไปทำที่อู่ไหนดี เอาแถวใกล้นครปฐมคับ ช่วยตอบทีครับ”

ผมไปติดVCE มาแล้วติดที่เกือบปลายท่อไอเสีย ผลปรากฎว่าทั้งการใช้น้ำมันเบนซินหรือแก๊ส ในรอบต่ำรถมีกำลังมากขึ้นอัตราเร่งดีขึ้นกว่าเดิมชัดเจน ในรอบกลางถึงปลายอัตราเร่งดีขึ้นกว่าเดิม

แต่ทัง้นี้ในรอบปลายสูงๆ ยังไม่ได้ลองเหยียบ เนื่องจากภรรเมียเป็นคนใช้รถ ส่วนผมเป็นคนดูแล(ซ่อมให้) สำหรับรูปการติดตั้งผมไม่ได้ถ่ายไว้ แต่พี่พรถ่ายไว้เดี๋ยวพี่พรคงอัพรูปการติดตั้งให้ดูต่อไป/ anurakpan / www.aethailand.com จากลิงค์นี้ http://www.aethailand.com/forum/index.php?topic=19538.550
////////////////////
ขอบคุณครับคุณ anurakpan (City idsi คันข้างบนครับ)
จากพี่พร ท่อสูตร VCE 0851423903

[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]
Volvo 940 2300cc จะติดตั้งท่อสูตร VCE หน้าหม้อพักใบหลังสุดตามภาพครับ
 
 
ตอนนี้ตอบกลับมาว่าขับดีกว่าเก่ามากครับ สั้นๆ จากพี่แก “ดีกว่าเดิมเยอะครับ” จากของเดิมที่อืดๆ มากๆ ในช่วงความเร็วต่ำๆ จนคิดอยากจะเปลี่ยนเครื่อง (ถ้ามันไม่ได้ผลเขาว่างั้น) อยู่ระยองพอดีเข้ามาทำธุระกรุงเทพฯ เปิดเน็ตเจอก็ตัดสินใจทันที

 (นี่ถ้าลังเลอยู่ก็คงจะไม่ได้ติดตั้งหรอกครับ ท่อไอเสียท่อสูตรมันเยอะ และต่างก็บอกว่าดีทั้งนั้น ช่วยต้นได้และปลายก็ได้ทั้งๆ ที่เป็นระบบขนาดรูท่อคงที่ซึ่งผิดหลักวิศวกรรมชัดเจนคนก็ยังเชื่อ ผิดกับของผม ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมที่สุดแล้วในปัจจุบันและดีที่สุดแล้วเท่าที่จะทำได้ในเวลานี้ (เทคโนโลยี่มันสุดได้เท่านี้แล้วไม่มีดีกว่านี้) และมีใช้ในรถสูตรหนึ่งและในรถสปอร์ตสมรรถนะสูงคนก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ตกลงจะเชื่อความจริงหรือจะเชื่อที่อยากจะเชื่อกันแน่ผมก็เลยงงๆ / พี่พร)

ผมไปส่งให้แถวลำสาลี มืดแล้ว ต้องผ่านหน้าม.รามฯ พี่แกรออยู่ฝั่งม.รามฯ ใกล้ๆ บ. เป๊บซี่ และรถติดมากๆ (ช่วงหัวค่ำแถวนั้น) ขณะขับรถไปส่งก็เห็นใจพี่เขามากเลยครับ (เพราะพี่แกจะกลับระยองเลยหลังจากได้รับท่อแล้ว) แฟนผมซึ่งนั่งไปด้วยด่าผมไปตลอดทางเลยว่าทำไมไม่ส่งให้แกทางรถตู้เล่า เห็นใจแกที่ต้องรอมืดๆ ค่ำๆ แทนที่จะได้กลับไประยองตั้งแต่ยังไม่มืด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13ส.ค.2014, 16:04:24 โดย phorn »

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Nissan Cefiro VQ20 2000cc (A32) ระบบท่อไอเสียเดิม
 

Cefiro ช่วงรอบเครื่องต่ำ ๆจะค่อนข้างอืด ก่อนติดตั้ง ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ จะค่อนข้างรอรอบ
 
เวลาออกตัวหรือ ถ้ามีการลดความเร็ว และรอบเครื่องลดลงมาที่รอบเครื่องต่ำๆ แล้วเร่งเครื่องไปจากรอบดังกล่าวจะมีการรอรอบค่อนข้างมาก


 
ติดตั้งช่วงก่อนผ่านล้อหลังขวาครับ (ใช้แผ่นเหล็กบังๆ ถังน้ำมันไว้ระหว่างเชื่อม)



 เมื่อติดตั้งท่อ VCE ไปแล้ว จะสามารถเร่งขึ้นไปจากจุดหยุดนิ่งได้ดีกว่า ปรู๊ดปร๊าดขึ้น เร่งเครื่องไปจากรอบเครื่องต่ำๆ จะมีเรี่ยวแรงมากขึ้น การรอรอบจะน้อยกว่าเดิมชัดเจนครับ เจ้าของรถรายงานมา /พี่พร

มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นได้ตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย)

จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ซึ่งไม่มีใครทำได้

[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซนี้ครับ
http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
อย่าให้เป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ


โลกไม่แตกในวันสองวันนี้หรอกครับ อย่ากังวลหรือวิตกจริตมากเกินไปครับ

พระพุทธเจ้าตรัสว่าศาสนาพุทธยืนอยู่ได้ถึง 5000 ปีครับ เพราะฉะนั้นให้ใช้ชีวิตตามปกติครับ


]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

Honda CR-V G2 2000cc ระบบท่อไอเสียเดิมๆ แต่แคทโล่งไปแล้ว (ติดตั้งท่อ VCE เพิ่่มเข้าไปเฉยๆ หน้าหม้อพัก)


 CR-V G2 คันนี้ มีปัญหาช่วงระหว่างเปลี่ยนเกียร์จาก 1 ไป 2 ที่ไม่ค่อยราบรื่น เมื่อติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปหน้าหม้อพักใบหลังก็จะพุ่งเพิ่มขึ้น ช่วงระหว่างเปลี่ยนเกียร์จาก 1 ไป 2 มีความต่อเนื่องดีขึ้น ต่อเนื่องขึ้นไป ช่วงพันกว่าๆ ไปสองพันรอบเร่งได้ดีขึ้น เกินสองพันรอบขึ้นไปก็พุ่งเพิ่มจากเดิมก่อนทำ  และเวลาถอนคันเร่งความเร็วและรอบเครื่องจะตกช้าลง

  ส่วนใหญ่ เจ้าของรถจะคิดแต่เพียงว่าระบบไอเสียมันคงจะเริ่มอั้น ก็อยากไปทำให้โล่งๆ ผมก็แนะนำไปว่า ถ้าความเร็วสูงยังพุ่งดีไม่มีปัญหา เพียงอยากได้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ให้พุ่งมากขึ้นก็ให้ติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเท่านั้นครับ


มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย)

จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ซึ่งทำได้เพียงหนึ่งเดียว ท่อไอเสีย VCE เท่านั้นครับ

[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่หน้าเพจเฟซบุคนี้ครับ จาก link นี้ครับ

http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
เริ่มจากสั่งไปให้ตัวเองก่อนหลังจากนั้นไม่นานก็สั่งไปให้ญาติๆ กันได้ติดตั้งกันคันสองคัน ตอนนี้ก็ให้เป็นตัวแทนท่อสูตร VCE ในย่านจันทบุรีและตราดครับ ใครสนใจก็ไปลองได้กับรถเขา (Mazda BT-50) ลองโทรไปคุยกับเขาก่อนก็ได้ครับ เป็นกันเองดีมากครับ เบอร์โทรเขา 0818621910 คุณไพจิตรครับ paichit@samridphol.com

 (น้องเขาหลักๆ จะทำร้านเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ครับเผื่อท่านใดจะซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์อะไรก็ลองแวะไปดูครับ)

 
ร้านของเขาครับ อยู่อำเภอเขาคิชกูฏ จังหวัด จันทบุรี
 
บรรยากาศภายในร้าน


ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ท่อสูตร  VCE ที่หน้าเพจเฟซบุคนี้ครับ จาก link นี้ครับ

http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
คลิป วีดิโอ กล่องไฟ MAX Volt Fusion กับ ท่อ Fusion (ท่อสูตร VCE ของพี่พร /ไหงคุณไพจิตรเรียกว่าท่อฟิ๊วชั่นละครับ) ขึ้นสันเขื่อนพลวง จังหวัด จันทบุรี
https://www.facebook.com/photo.php?v=4827736448298

ผมส่งไปให้คุณไพจิตร BT-50 อันแรกท่อสูตร VCE

และนี่ครั้งหลังคุณไพจิตรมาทำธุระกรุงเทพฯพอดีก็เลยรับท่อสูตร VCE ไปด้วยเลย


 

ครั้งหลังสุดส่งทางไปรษณีย์ (นับไปนับมาคุณไพจิตรสั่งไปหลายอันแล้วนะครับนี่)
 
 
(เดี๋ยววันสองวันจะลงรูปรถรุ่นต่างๆ ที่คุณไพจิตรสั่งไปครับ รอรูปอยู่)


]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[

Hyundai H1 ระบบไอเสียเดิมๆ ช่วงรอบต้นจะไม่ค่อยพุ่ง จะรอรอบ แต่ช่วงความเร็วกลางและช่วงความเร็วสูงจะพุ่งดี มาติดตั้งท่อสูตร VCE หน้าหม้อพัก
 

หลังจากติดตั้งท่อไอเสีย VCE แล้วช่วงรอบต้น (รอบเครื่องต่ำกว่า 2000 รอบ) จะมีแรงบิดเพิ่มขึ้นมา ก็จะพุ่งเร็วขึ้น โดยจะเริ่มพุ่งที่รอบเครื่องต่ำกว่าเดิม จะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเครื่องต่ำกว่าเดิม ใช้เวลาระหว่างเกียร์สั้นลง และระหว่างเกียร์จะพุ่งต่อเนื่อง ในช่วงรอบกลางพุ่งเพิ่มขึ้นอีก (ช่วงที่ลิ้นในท่อสูตร VCE เปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) ในขณะที่ช่วงรอบสูงจะไม่ด้อยไปกว่าเดิม (เพราะลิ้นในท่อไอเสีย VCE ในช่วงรอบสูงสามารถเปิดได้กว้างอย่างอิสระมาก)

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
 emo20

ได้ภาพจากคุณไพจิตรมาแล้ว แต่ขอลัดคิวคันนี้ก่อนก็แล้วกันครับ

Isuzu All New ! D-Max 3.0 AT V-Cross (ขับเคลื่อนสองล้อ) หม้อพักเดิมแต่แคทโล่งไปแล้ว (มียิงแก๊สด้วย)
 
คันนี้ สมาชิก www.newdmax-club.com ได้ประสบการณ์เกี่ยวกับแคทที่โล่งไปแล้วว่ามีผลให้รอบเครื่องต่ำๆ มีอืดๆ บ้าง แลกกับความเร็วช่วงกลางที่พุ่งกว่า แรงบิดที่ลดลงในรอบเครื่องต่ำๆ จากที่ไม่มีแคทสำหรับคันนี้อาจจะไม่มีปัญหาเท่าไหร่  เพราะมีการยิงแก๊สช่วย

สำหรับคันนี้ ผมก็ค่อนข้างแปลกใจนิดหนึ่ง ที่น้องเขาสามารถฝ่าด่านอรหันต์ต่างๆ มาได้ ผมหละนับถือจริงๆ ครับ

ด่านอรหันต์ต่างๆ สำหรับท่อสูตร VCE ก็มี…..เช่น  เสียงติติงว่าไม่มีผลต่ออัตราเร่งใดๆ ทั้งสิ้น  ทำนองว่าทำไปก็เท่านั้นเหมือนเดิมเสียเงินฟรีๆ เหมือน…ซึ่งข้างในไม่มีอะไรเลย (ทั้งๆ ที่ระบบแบบนี้แหละครับทันสมัยล่าสุดตอนนี้ ลิ้นแปรผันมีใช้ใน Ferrari, Mclaren, BMW รุ่นล่าสุด, Benz รุ่นล่าสุด, Lamboghini….ซึ่งรถเหล่านี้ทำความเร็วดีขึ้นจากเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ใช้ระบบนี้ทั้งนั้น)

เสียงติติงว่า ของยี่ห้ออื่นที่ใช้ระบบเก่าเกลียวหมุนวนดีกว่าเห็นผลมากกว่า (ทำให้ผมนึกถึงตอนวีโก้ VN 2.5 ออกมาใหม่ๆ ก็มีคนติคล้ายๆ กันว่าระบบเก่าไม่ VN ดีกว่า) ระบบแบบที่เขาว่าซึ่งบีบหรือเกลียวหมุนวนซึ่งอั้นแบบคงที่นั้นดีกว่าระบบที่แปรผันได้จริงตามรอบเครื่อง (หรือให้เข้าใจว่า ระบบที่ใช้วิธีพยายามทำให้ท่อไอเสียแปรผันด้วยวิธีบีบ/บิดเกลียวหมุนวนนั้นดีกว่าระบบที่ท่อไอเสียแปรผันได้จริงๆ)
…….และ ............


ดีที่ว่าน้องเขาเป็นวิศวกรที่ทำงานเกี่ยวพันกับเครื่องยนต์ (ยิงแก๊สในดีเซล) และมีร้านแนะนำ จากที่ไปปรึกษาว่าถ้าจะทำท่อแซดได้ไหม ร้านก็แนะนำว่าถ้า AT ไม่ได้ ช่วงรอบต่ำแรงบิดหาย ต้องไปใช้ท่อแบบมีลิ้น น้องเขาก็เลยมาหาท่อสูตร VCE (ใน www.newdmax-club.com ซึ่งผมเพิ่งลงในหน้าซื้อขายไม่กี่วันก่อนเองครับ เพิ่งมีคนเข้าดูกระทู้ร้อยกว่าคนเองครับ/คงดูแบบงงๆ ว่าไม่เคยเห็นท่อสูตรไหนใช้…ท่ออะไร แล้วมันจะได้ผลรึดูไปดูมาผ่านมาสักขวบปีนึงถึงจะค่อยมีคนที่ต้องถือว่าลองเสี่ยงนะ มาติดตั้ง…แต่น้องเขาก็มาทันที)

ผลคร่าวๆ ….(จากเจ้าของรถน้องคนขับว่ามาผมก็ว่าไปตามนั้น) ถ้ายิงแก๊สด้วยจะรู้สึกไม่มาก จะรู้สึกเฉพาะช่วงต้นช่วงแรกที่ออกตัวว่าแรงขึ้น มาเร็วกว่าและแรงขึ้นเล็กน้อยที่ช่วงนั้น ช่วงกลางขึ้นมาจะเหมือนๆ เดิมไม่ค่อยแตกต่าง

แต่ถ้าไม่ยิงแก๊สน้ำมันเพียวๆ นี่รู้สึกเยอะหน่อย ใช่เลย ชัดเจน ดึงหนักขึ้น เวลาขับความเร็วคงที่ก็ไม่ต้องเติมคันเร่งอย่างเมื่อก่อน (ที่แรงบิดจะไม่สม่ำเสมอเดี๋ยวก็ต้องคอยเติมคันเร่งเข้าไปนิด) นี้ไม่ต้องกดเบาๆ คงที่ไม่ต้องเติมคันเร่งช่วย (ในบางช่วง) ก็ไหลๆ ไปได้เรื่อยๆ สม่ำเสมอฯลฯ

อีกอย่างจะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นไปที่รอบต่ำกว่าและเร็วขึ้นลื่นไหลขึ้น ทุกเกียร์ แค่นี้ก่อนยังไม่ได้ลองทางยาวๆ
(ผมก็กำชับไปว่าไม่ต้องลองก็ได้ความเร็วปลาย เพราะยังไงก็ได้ปลายเพิ่ม /เพราะทุกเกียร์ลากได้ยาวกว่าเดิม ซึ่งหมายถึงได้แรงม้าที่ปลายเกียร์เพิ่ม/ ทั้งบนไดโนและการใช้งานจริง ไม่มีถนนจะวิ่งเสี่ยงอันตรายเปล่าๆ ครับ )

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
 emo20

ในขณะที่ท่อสูตร ท่อไอเสียทุกแบบ (ไม่ว่าของในหรือของนอก) ต่างใช้เทคนิคแบบอั้นหรือโล่งที่คงที่ทั้งนั้น (การทำให้บีบ/บิด หรือให้อั้นกว่านั้นด้วยเกลียววน มีผลบ้างแต่ไม่มากเท่าระบบที่ทำให้แปรผันแบบต่อเนื่องให้อั้นมากในรอบต่ำและโล่งมากที่สุดในรอบสูงได้)

ผมไม่เคยเห็นข้อติติงแรงๆ ของท่อแต่งเหล่านั้น มีแต่ต้นได้ปลายเดินดีกันทั้งนั้น เหมือนกันไปหมด เพิ่มแรงบิดช่วงต้นได้ดีกว่าเดิมโดยปลายไม่อั้นแต่ดูทางเทคนิคที่ใช้ก็ยังเป็นระบบที่อั้นตลอดเวลาอยู่นั่นเอง …..แล้วปลายไม่อั้นได้อย่างไร หรือ ระบบท่อโล่งมากแล้วช่วงรอบต่ำจะดีได้อย่างไร (ไปดูกราฟก็สวยยกมาตั้งแต่รอบต่ำมากๆ /แต่เมื่อไปดูการวัดค่า จึงเห็นว่ามีการปรับจูนในกล่องทั้งก่อนและหลังการวัดร่วมด้วย อย่างนั้นก็เป็นช่องทางให้บิดเบือนได้ซิ…..) 

ช่างโชคร้ายนักท่อสูตร VCE ที่ยังเป็นเทคนิคที่ใหม่เกินไปสำหรับท่าน ท่านรับรู้แต่เทคนิคแบบเก่าที่ทั้งๆ ที่เป็นระบบอั้นคงที่ไม่มีชิ้นส่วนใดๆ เคลื่อนไหว ระบบแบบนั้นมีการอั้นเสริมให้มีการเร่งแรงอัดในช่วงต้นและกลางแต่ในรอบสูงที่ต้องการแรงบีบอัดน้อยลงหรือให้โล่งมากขึ้น ระบบไม่สามารถลดได้แต่กลับเพิ่มขึ้นก็จะเป็นการขีดขวางจำกัดปริมาณการไหลของไอเสีย ระบบแบบนี้จึงไม่มีการใช้ในรถยนต์สมรรถนะสูงเพราะจะทำให้แรงม้าลดลง อัตราเร่งตั้งแต่ช่วงกลางไปปลายลด

(และเครื่องต้องทำงานหนัก ความร้อนขึ้น …….น้องที่ขับ All New D-Max คันข้างบน /และหลายท่านที่มาตัดระบบแบบนั้นออกผมก็เลยมีโอกาสส่องดูภายใน/ เคยใช้ระบบนี้กับ Tiger คันเก่าเล่าให้ฟังว่าไปขึ้นเขาแล้วความร้อนขึ้น ผมเข้าใจว่ายิ่งเร่งเครื่องเพื่อจะเรียกแรงบิด แต่รอบสูงขึ้นมันยิ่งอั้นแรงบิดกลับลดลงและไอเสียที่ต้องการออกโล่งๆ ก็ออกไม่ทัน ก็เลยไปตัดออก)

แต่หลายท่านกลับเชื่อว่าระบบเกลียวหมุนวนแบบนั้นช่วงรอบปลายไอเสียน่าจะไหลได้ดีขึ้นเร็วขึ้นเพราะมีการหมุนวนช่วยเสริมความเร็ว โดยท่านลืมไปว่าเมื่อรอบเครื่องสูงขึ้นมาถึงช่วงหนึ่งที่มันต้องการให้โล่งมากขึ้น (เพราะแรงดันมีสูงมากขึ้นอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องการแรงส่งอีกแล้วแต่ต้องการโล่งแล้ว) แต่ระบบยังมีการบีบอัดอยู่กลับให้โล่งขึ้นไม่ได้

ซึ่งโดยหลักวิศวกรรมของระบบไอเสีย รอบเครื่องยิ่งสูงระบบยิ่งต้องมีการลด Back Pressure ลง แต่ระบบแบบเกลียวหมุนวนมันไม่ได้ลดลงมันกลับเพิ่มขึ้น ลองนึกถึงท่อยางประปา ถ้าน้ำไหลเอื่อยๆ เราบีบท่อน้ำก็จะยิ่งพุ่งตามแรงบีบ แต่ถ้าเราเพิ่มแรงดันให้น้ำมากขึ้นน้ำซึ่งพุ่งเร็วขึ้นด้วยแรงดันน้ำอยู่แล้วในภาวะเช่นนี้ถ้าเราไปบีบมันไว้อยู่อย่างนั้นมันก็จะกลับกลายเป็นการขีดขวางการไหลของน้ำไปในทันที ท่านเข้าใจแจ่มแจ้งไหมครับ

ยังดีที่มีข้อพิสูจน์บางอย่างชัดเจน สำหรับท่อสูตร VCE เช่น เวลาถอนคันเร่งรอบมันจะตกช้าลง (และรถยังไหลไปต่อ จากของเดิมที่จะวูบก่อนเร็วกว่า เร็วกว่ามาก ถึงมากๆ) การที่บูทติดเร็วกว่า และมามากกว่า การที่ความเร็วสูงบางช่วงที่เคยไหลช้าๆ กลับไหลเร็วขึ้น การที่ของเดิมเคยต้องกดลึกตอนนี้กดเบาๆ การที่สามารถลากรอบได้มากขึ้น 1000 ถึง 2000 รอบเครื่อง (เกียร์ต่ำกว่าจะลากรอบได้สูงกว่า)

อันที่จริงการมีแรงบิดเพิ่มจริงที่รอบต่ำมากๆ พิสูจน์ไม่ยากครับ (ถ้าผมรู้มาก่อนล่วงหน้า) เช่นปิ๊คอัพหรือรถเก๋ง MT ให้ลองออกตัวปล่อยไหล (ไม่ต้องเลียคลัชไม่ต้องเหยียบคันเร่ง) ที่รอบเดินเบาที่เกียร์ 3 ถ้ายังได้ให้เกียร์ 4 ถ้ายังได้อีกให้เกียร์ 5 (ไม่ใช่ประโยชน์ในการใช้งานจริงแต่เพื่อพิสูจน์ ของจริงต้องพิสูจน์ได้ไม่งั้นใครก็พูดได้ไม่ต้องรับผิดชอบใช่ไหมครับ เห็นๆ อยู่หลายกระทู้ที่พลิกขาวให้เป็นดำได้) จากที่ออกตัวไม่ได้ดับหรือกระตุก กลับออกตัวได้สบายๆ นั้นหมายความว่าอย่างไรครับ หรือ ถ้าเกียร์ AT ก็ให้ลองออกตัวทางลาดชันขึ้นจนขึ้นไม่ไหวที่จุดไหนเปรียบเทียบกัน

กลับไปดูคลิปท่อสูตร VCE (ข้างบน) ก็ได้อีกครั้งครับว่าน่าทึ่งแค่ไหนแรงบิดรอบต่ำท่อสูตรลิ้นแปรผันแบบนี้ (ถ้าไม่ใส่นะหรือครับ ผมให้ขึ้นได้ไม่ถึงครึ่งทางก็น่าจะสั่นรอบเครื่องไม่นิ่งและกระตุกดับในที่สุดเนื่องจากแรงบิดไม่พอ) 

]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[
 

All New Ford Ranger 2200cc ส่งไปให้คุณไพจิตรนานแล้ว ( โพสต์เมื่อ 31 ตุลาฯ นี้ ลองค้นหาดูครับ)

และภาพขณะติดตั้งที่คุณไพจิตรเพิ่งส่งมาให้ครับ (คำตอบสั้นๆ แรงบิดที่มาเร็วกว่าเดิมสี่ซ้าห้าร้อยรอบที่รอบต่ำและดึงหนักขึ้นและนานกว่า)
 
ออลนิวส์ ฟอร์ดเรนเจอร์ที่ส่งไปให้ทาง EMS กล่องนั้นครับ
 

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ภาพที่ส่งกลับมาจากคุณไพจิตร
Captiva 2000cc (Diesel Turbo)
 
จากกล่องไปรษณีย์นี้ครับ EMS

]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[
อย่างที่หลายคนทราบหม้อพักที่ติดตั้งมาจากโรงงานรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงปัจจุบันเป็นระบบกึ่งลิ้นแปรผัน หมายความว่ามีการผสมผสานระหว่างระบบอั้นให้ไอเสียมี Back Pressure ที่ใช้งานตั้งแต่รอบเดินเบาขึ้นไปถึงไม่เกินรอบกลาง (ก่อนหน้านี้จะกินไปถึงรอบกลางด้วย แต่เพื่อประสิทธิภาพในรอบต่ำให้สูงขึ้นอีกจึงบีบให้ทำงานแคบเข้า) แล้วให้ระบบลิ้นแปรผัน (ตามรอบเครื่อง) เปิดใช้งานรับช่วงต่อจากก่อนรอบกลางไปถึงปลายสุด

ช่วงที่แคบเข้า (การใช้งานจริงจากเดินเบาถึงประมาณ 2000 รอบโดยค่าเฉลี่ยจริงๆ ของระบบจะทำงานได้สูงกว่านั้น) อย่างไรก็ตาม จากเดินเบาไป 1500 รอบก็จะให้ผลไม่มากนัก แต่จาก 1500 รอบมา 2000 รอบน่าจะให้ผลได้ถึง 70-80%

ผมคิดจากที่ยังเป็นระบบเฉลี่ยอยู่แต่ในเมื่อทำงานให้แคบเข้าก็จะให้ผลดีขึ้นมาก ระบบแบบนี้ เบนซ์รุ่นที่ผมเคยนำมาให้ดูการใช้งานใช้อยู่ รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงหลายยี่ห้ออื่นๆ ก็น่าจะไม่แตกต่างไปจากนี้

แต่ ท่อสูตร VCE ให้ลิ้นแปรผัน (ตามรอบเครื่อง) ทำงานตั้งแต่รอบเดินเบาขึ้นไปจนจรดรอบเครื่องสูงสุด (ทำงานแปรผันโดยสมบูรณ์ทุกๆ รอบเครื่อง)

นั่นคือ ท่านมีโอกาสได้ใช้งานท่อไอเสียระบบที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในปัจจุบัน (ยกเว้นงานประกอบที่อาจจะดูบ้านๆ เมื่อดูจากภายนอก) ปรับปรุงให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาขึ้นมาถึงรอบกลาง (จากเดินเบาขึ้นมาถึง 2500 รอบถึง 3500 รอบ) และในช่วงรอบปลาย (จากราวๆ 4000 ถึง 4500 รอบขึ้นไป) มีแรงบิดและแรงม้าเพิ่มขึ้น
 
โดยแรงบิดที่เพิ่มทำให้รถพุ่งขึ้นเร่งแซงดีขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ในขณะที่แรงม้าเพิ่มเต็มที่ในรอบเครื่องสูงสุดทำให้ความเร็วสูงๆ ไหลพุ่งต่อเนื่องดีขึ้นและได้ความเร็วปลายเพิ่ม (ไม่ว่าติดตั้งกับรถที่ยังใช้ระบบไอเสียเดิมๆ โรงงานทุกอย่างหรือที่ทำโล่งมาแล้ว /แต่ผลที่ได้จะไม่เท่ากัน) 

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Vigo Prerunner 2500cc หม้อพักเดิมแต่ตัดแคทไปแล้ว (แทนที่ด้วยตัวแทนแคทเป็นเกลียวธรรมดา)
 
เมื่อแคทไม่มีแล้วและแทนที่ด้วยตัวแทนแคทมีเกลียวดังกล่าวก็มีผลให้รอบเครื่องต่ำๆ อืดๆ บ้าง (สังเกตว่าช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ต้องเหยียบคันเร่งลึกๆ ก็ไม่ค่อยตอบสนอง)

ก่อนติดตั้งท่อสูตร VCE เมื่อออกตัวด้วยเกียร์ 2 ไม่เหยียบคันเร่งถ้าไม่เลียคลัชเลยจะออกตัวไม่ค่อยราบรื่น อาจจะมีกระตุกดับบ้าง (ของเดิมโรงงานที่มีแคทอยู่อาจจะดีกว่านี้)
ก่อนมาทำได้ลองลากเกียร์ 2 ดู พบว่าลากได้ประมาณ 2500-2600 รอบก็ตื้อๆ แล้ว

สำหรับคันนี้ไม่ได้ฝ่าด่านอะไรมาเปิดเน็ตดูพอรู้ความก็มาติดตั้งเลยครับ
 
ผลการติดตั้งท่อสูตร VCE (ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ หลังตัวแทนแคท) ให้ลองออกตัวด้วยเกียร์ 2 เพื่อทดสอบเบื้องต้น ไม่เหยียบคันเร่งปล่อยคลัชเช่นเดิม ผลรถไหลพุ่งผิดกันเลยครับ (แรงขึ้นเห็นๆ)

และจากเจ้าของรถน้องคนขับว่ามา เห็นชัดมากกรณีเกียร์ 2 ไปเกียร์ 3  และจากเกียร์ 3 ไปเกียร์ 4 ซึ่งลากได้ยาวขึ้น อย่างเกียร์ 2 ตอนนี้ลากได้ 3 พันกว่ารอบถึงจะเริ่มตื้อ

 ]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[
ท่อสูตร VCE ลิ้นแปรผัน ใช้งานได้ผลทั้งรถที่พุ่งอยู่แล้วและที่ไม่ค่อยพุ่ง ทั้งรถเกียร์ MT และ AT
เหยียบคันเร่งไม่ต้องลึกอย่างเดิมก็พุ่งกว่า ไม่ใช่เหยียบคันเร่งเบาโหวงๆ ไปแต่เสียงแต่รถไม่ได้พุ่งตามอย่างท่อสูตรอื่น

ใครทำตัดหม้อพักลงใต้เพลามีปัญหา เช่น รอบเครื่องต่ำๆ ไม่มีแรง (เคยเห็นกับตา D4D ใต้เพลา สงสัยออกตัวเกียร์ 2 ไม่ได้เร่งรอบก่อนดับคาตาเลยครับ) หรือ ปลายที่เคยได้ 170-180 หลังทำตัดหม้อพักลงใต้เพลาไปได้แค่ 150 ก็เอื่อยๆ ไม่ค่อยไปแล้ว หรือ เดิมเกือบ 190 เหลือ 160-170 เวลาวิ่งขึ้นเนินทางยาวๆ เร่งไม่ค่อยพุ่ง ถ้าชะลอหรือเบรคกลางเนินต้องไล่เกียร์ไล่รอบกันใหม่ มาติดตั้งท่อสูตร VCE จะช่วยคุณได้อย่างเกินจากที่คุณคาดหมายไว้ครับ

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
ไปส่งให้คุณลูกค้าถึงที่ครับที่อาคารชาแลนเจอร์เมืองทองธานี (งาน OTOP ที่ผ่านไป)

Big M 2500cc
]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[

เมื่อกดคันเร่ง (ในการเร่งความเร็ว) ลึกน้อยลง ใช้เวลากดคันเร่งน้อยลง (ความเร็วก็ขึ้นถึงระดับที่ต้องการ) ยามถอนคันเร่งรถก็ยังไหลได้ดีกว่าเดิม จึงประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ทั้งการใช้งานในเมืองและในยามเดินทาง

ลองค้นข้อมูลเก่าๆ ถ้าทำความเร็วต่อเนื่องยาวๆ (ความเร็ว 110 ตลอด เร่ง 120-130 บ้างเวลาเร่งแซง) จะได้ 17-18 กม./ลิตร น้ำมัน E20 (Mazda 2 MT) ถ้าใช้ E85 จะได้น้อยกว่าราว 3 กม./ลิตร (ใช้วิธีเติมกลับให้เต็ม)

ถ้าความเร็ว 80-100 ยาวๆ (80 ราวๆ 60%) จะได้ 21-22 กม./ลิตร E20 ปตท. (ลองบางจากได้ 19 กว่าๆ ครั้งเดียวก็ไม่ลองอีก) Mazda 2 MT (ใช้วิธีเติมกลับให้เต็ม)

แล้วไปเฉลี่ยกับรถรุ่นเดียวกันเห็นว่าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 17 กม./ลิตร

ทุกครั้งจะขับเหมือนชาวบ้านอื่นๆ เขาครับ (ไม่ตั้งใจเลี้ยงคันเร่ง / ไม่ชอบเมื่อยข้อเท้า) ความเร็วจะอยู่ที่ 110 ยืนพื้นถ้าทางเรียบพอใช้ได้แล้วจะแซงที่ 120-130 แต่ถ้าใครมาเร็วๆ จี้ท้ายเราขวางเขาก็จะเร่ง 140-150 เพื่อหลบให้เมื่อมีจังหวะ (แป๊บๆ จะไม่ลากยาว) ถ้าทางเป็นหลุมหรือพื้นไม่เรียบก็ 80 (หรือฝนตกมองไม่เห็นทาง) จะไม่ขับความเร็วนี้ตลอดเพราะเป็นความเร็วที่ช้าไปครับ

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
Mercedes Benz E280 2800cc หม้อพักเดิมแต่แคทได้ดัดแปลงด้วยตัวแทนแคทที่เป็นเกลียวธรรมดา
 

แคทที่โล่งขึ้นมีผลให้รอบเครื่องต่ำๆ อืดๆ มากขึ้น (แคทเดิมๆ ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ก็อืดๆ อยู่แล้ว) เบนซ์รุ่นนี้จะเริ่มพุ่งดีเมื่อรอบเครื่องมากกว่า 2500 รอบขึ้นไป รอบเครื่องต่ำกว่านั้นจะค่อนข้างรอรอบ

 ก่อนมาทำได้ลองดูผลตอบสนองคันเร่ง พบว่าช่วงรอบเครื่องต่ำๆ (และก่อนถึงรอบกลาง) จะตอบสนองคันเร่งไม่ค่อยดี เข็มวัดรอบจะตกเร็วเวลาถอนคันเร่ง

ผลการติดตั้งท่อสูตร VCE (ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ หลังหม้อพักแบนๆ ตัวกลาง) ทดสอบเบื้องต้นการตอบสนองคันเร่งดีขึ้น จะตอบสนองทันทีที่กดคันเร่ง เข็มวัดรอบกวาดไปไกลกว่าและตกช้ากว่า (กระปรี้กระเปร่าขึ้นในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และกลาง)

และจากเจ้าของรถน้องคนขับว่ามา เห็นชัดในการเปลี่ยนกียร์จาก  1 ไป 2 และจาก 2 ไปเกียร์ 3….ที่รวดเร็วขึ้น ไปถึงความเร็วสูงๆ ได้ไวกว่าเดิม

 ]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[
ท่อสูตร VCE ลิ้นแปรผัน ใช้งานได้ผลทั้งรถที่พุ่งอยู่แล้วและที่ไม่ค่อยพุ่ง ทั้งรถเกียร์ MT และ AT
เหยียบคันเร่งไม่ต้องลึกอย่างเดิมก็พุ่งกว่า ไม่ใช่เหยียบคันเร่งเบาโหวงๆ ไปแต่เสียงแต่รถไม่ได้พุ่งตามอย่างท่อสูตรอื่น

ใครทำตัดหม้อพักลงใต้เพลามีปัญหา เช่น รอบเครื่องต่ำๆ ไม่มีแรง (เคยเห็นกับตา D4D ใต้เพลา สงสัยออกตัวเกียร์ 2 ไม่ได้เร่งรอบก่อนดับคาตาเลยครับ) หรือ ปลายที่เคยได้ 170-180 หลังทำตัดหม้อพักลงใต้เพลาไปได้แค่ 150 ก็เอื่อยๆ ไม่ค่อยไปแล้ว หรือ เดิมเกือบ 190 เหลือ 160-170 เวลาวิ่งขึ้นเนินทางยาวๆ เร่งไม่ค่อยพุ่ง ถ้าชะลอหรือเบรคกลางเนินต้องไล่เกียร์ไล่รอบกันใหม่ มาติดตั้งท่อสูตร VCE จะช่วยคุณได้อย่างเกินจากที่คุณคาดหมายไว้ครับ
 emo20

ออฟไลน์ Tus-siridech

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 835
  • คะแนน Like 38
  • ตัส เมืองขอน
มีสินค้าทดลองก่อนเปล่าครับ สนใจแต่ขอลองก่อนได้ไหมครับขอรายละเอียดด้วย
NDC.No.1768

HI 4 DOOR 2500 VGS M/T เงินอาร์คติก

ออฟไลน์ phorn

  • ไมล์ 1001-2000
  • *
  • กระทู้: 1142
  • คะแนน Like 1
เห็นใจคุณเมือนขอนเหมือนกัน ใจเขาใจเรา ผมก่อนมาพบประสบการณ์นี้ก็เคยใช้ท่อโล่งมาก่อน (เพราะคิดว่ามันต้องโล่งๆ แหละดีไม่รู้รายละเอียดปลีกย่อย)

ก่อนที่ผมไปวัดแรงม้า ผมก็มีท่อสำหรับทดลองเหมือนกัน แต่หลังจากไปวัดแรงม้ามาแล้วก็ไม่จำเป็นครับ (ตอนหลังผมเลยยกเลิกการลองไปครับ เพราะไม่มีเวลาด้วยและดูจะเสียเวลาทั้งสองฝ่าย เพราะเคยเจอประเภทที่ลองเฉยๆ ครับ)


ดูจากกราฟก็เห็นแล้วครับว่า ช่วงความเร็วสูงบางช่วงแรงบิดเพิ่มขึ้น และปลายแรงม้าเพิ่มด้วย (ได้ความเร็วสูงเพิ่ม) ทั้ังๆ ที่แค่ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ เท่านั้น

ผมยังหาคำอธิบายที่ชัดเจนไม่ได้ว่าทำไมจึงลากเกียร์ได้ยาวขึ้น เช่นถ้าของเดิม เกียร์ 2 ลากได้สองพันกว่ารอบก็ตื้อๆ ไม่ขึ้นแล้วรถไม่พุ่งต่อแล้ว จะลากได้ถึงสามพันกว่ารอบจึงจะเริ่มตื้อ จะลากขึ้นกว่าพุ่งกว่า ที่ปลายเกียร์นี่เบาๆ ไปเลย (ถ้าของเดิมลากได้สามพันนิดๆ ก็ไปได้ถึงสี่พันรอบเลยทีเดียวครับ) ซึ่งจะตรงข้ามกับของเจ้าอื่นที่พยายามทำให้แรงบิดช่วงรอบต่ำเพิ่มแต่ไปมีผลกับรอบกลางด้วย ยิ่งรอบสูงนี่เห็นว่าลากรอบได้ไม่เหมือนเดิมความเร็วปลายก็ลดไปตั้ง 20

สำหรับแรงบิดช่วงรอบต่ำๆ นี่อธิบายได้และ ใครๆ ก็รู้ว่าถ้ารูท่อเล็กลงแรงบิดช่วงรอบต่ำจะเพิ่มขึ้น ทีนี้ของโรงงานมันเฉลี่ย ตั้งแต่รอบกลางลงมามันยังไม่ได้แรงบิดเต็มที่ ยังโล่งอยู่ ท่อสูตร VCE จึงไปจัดการตรงนั้นครับ

คุณ new D-Max คันข้างบนถ้าผมจำไม่ผิดก็เป็นสมาชิกเว็ปนี้ครับ แต่ติดต่อเขาลำบากหน่อยครับ

]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

ท่อสูตร VCE ลิ้นแปรผัน ใช้งานได้ผลดีขึ้นกับรถทุกชนิดทุกยี่ห้อ และทุกรุ่นโดยไม่มีข้อยกเว้น ขอให้ตรวจสอบให้ดีว่าระบบไอเสียรถของท่านไม่มีจุดรั่ว (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง) ที่รั่วก่อนเข้าท่อสูตร VCE (เพราะลิ้นในท่อ VCE จะทำการควบคุมแรงดันไอเสียในรอบต่ำถึงรอบกลาง ถ้ามีจุดรั่วก่อน การทำงานก็จะผิดเพี้ยนไป ไม่เต็มที่) อย่าให้ร้านท่อไอเสียทำให้ท่านเข้าใจผิด เพราะส่วนใหญ่เขาจะไม่รู้จักหลักการทำงานของระบบไอเสียที่ทำงานได้สมบูรณ์แบบนี้

รู้จักแต่เพียงว่า ถ้ามีเทอร์โบต้องให้โล่งมากที่สุดแหละดี (ถึงแม้ว่าเมื่อทำเช่นนั้นเมื่อใช้งานจริงปรากฏว่าช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แรงบิดหายปลายสุดเอื่อยๆ ก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด) ถ้าเกียร์ MT ต้องไส้ตรง (ถึงแม้จะพบความจริงว่าช่วงต้นช่วงรอบเครื่องต่ำๆ จะแย่กว่าของเดิม) ให้ดีขึ้นต้องทำท่อให้ใหญ่ขึ้นหรือทะลวงแคท

ซึ่ง จริงๆ แล้วการทำเช่นนี้ ช่วงรอบกลางไปทางสูงจะดีขึ้นแน่ แต่ ช่วงกลางมาทางรอบเครื่องต่ำๆ จะแย่ลง แรงบิดจะลดลง (จะเห็นได้ชัดขึ้นกับรถที่แรงบิดช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว)

////////////////////\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
ส่งให้คุณ Hasun ปัตตานี ครับ


ไปทางรถไฟถึงในวันรุ่งขึ้น