บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุในประเทศไทยและได้รับให้ดูแลเรื่องกาตลาดรถอีซูซุทั่วโลกครับ
บริษัทแม่ของตรีเพชรอีซูซุเซลส์ คือ mitsubishi corporation
เหตุผล เพราะสมัตก่อนนั้นทาง mitsubishi เองได้มาทำการค้าข้าวกับประเทศไทยแต่สมัยนั้นทาง
mitsubishi ยังไม่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อที่จะขนขนข้าว เลยติดต่อไปที่ ISUZU ซึ่งมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ผลิตเพื่อการค้าแล้ว mitsubishi เลยนำรถบรรทุกของ isuzu มาขายในไทยและขายดีมาก
mitsubishi เลยเป็นตัวแทนขายรถ isuzu ในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้
ตรีเพชรอีซูซุเซลส์
มีบริษัทในเครือทั้งหมด 25 บริษัท
ศูนย์บริการของตรีเพชรเองมีอยู่หลัก ๆ 2 ที่ครับ ที่ศูนย์วิภาวดีและที่พุทธมณฑลสาย 5 ซึ่งเป็นบริษัทในเครือตรีเพชร คือ ตรีเพชรอีซูซุบริการ ทำงาน จ-ส ครับ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์จำกัด
บริษัทฯ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2517 เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ อะไหล่และอุปกรณ์ภายใต้เครื่องหมายการ
ค้าอีซูซุ ในประเทศไทย และยังมีการให้บริการหลังการขายผ่านบริษัทย่อยด้วย (บริษัท ตรีเพชรอีซูซุบริการ จำกัด) ปัจจุบันบริษัทฯมีทุน
จดทะเบียน 3,000 ล้านบาท โดยมี MC (mitsubishi corporation) ซึ่งเป็นบริษัทการค้าสารพัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในอัตรา
ส่วนร้อยละ 89 ผู้ถือหุ้นคนไทยและผู้ถือหุ้นรายอื่นอีกร้อยละ 11 โดยบริษัทฯมีพัฒนาการที่สำคัญดังนี้
พ.ศ. 2500 บริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้ารถอีซูซุคันแรกมาจำหน่ายในประเทศไทย และได้ แต่งตั้งผู้จำหน่ายอีซูซุ(Dealer) รายแรกด้วย
พ.ศ. 2502 สำนักงานขายรถยนต์อีซูซุได้ก่อตั้งขึ้น โดยในขณะนั้นรถบรรทุกอีซูซุขนาดใหญ่ รุ่น TXD และ TWD เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และได้ชื่อว่า “เจ้าถนน” ในยุคนั้น
พ.ศ. 2503 รถบรรทุกขนาดกลาง อีซูซุ เอลฟ์ ได้เริ่มจำหน่ายในประเทศไทย และครองความเป็นผู้นำตลาดรถบรรทุกขนาดกลางนับตั้งแต่นั้นมา
พ.ศ. 2506 ความนิยมในรถอีซูซุได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้บริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด ตัดสินใจก่อตั้งโรงงานประกอบรถยนต์อีซูซุในประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนทางด้านเทคนิคจากบริษัท อีซูซุมอเตอร์ประเทศญี่ปุ่น
พ.ศ. 2517 ธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์อีซูซุได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยสำนักงานขายและศูนย์บริการอีซูซุได้แยกเป็นบริษัทอิสระภายใต้ชื่อบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
พ.ศ. 2530 กลุ่มอีซูซุได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้ก่อตั้งบริษัท อีซูซุเอ็นยิ่น แมนูแฟคเจอริ่ง(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผลิตเครื่องยนต์ดีเซลในประเทศไทย และบริษัท ไทยอินเตอร์เนชั่นแนลไดเมคกิ้ง จำกัดเพื่อเป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์และชิ้นส่วนรถยนต์สำหรับการส่งออกและจำหน่ายในประเทศไทย
พ.ศ. 2545 บริษัทฯเป็นผู้นำในการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ ให้กับวงการรถยนต์มาโดยตลอด โดยบริษัทฯได้เริ่มจำหน่ายรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของบริษัทฯ โดยบริษัทฯสามารถจำหน่ายรถกระบะอีซูซุดีแมคซ์ ได้มากกว่า 100,000 คันในปีแรกที่เริ่มจำหน่าย
พ.ศ. 2546 บริษัทฯครองแชมป์รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เป็นปีที่ 22 ติดต่อกัน
พ.ศ. 2547 ในช่วงกลางปี 2547 บริษัทฯได้ทำการออกหุ้นกู้มูลค่า 3,500 ล้าน บาท นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ทำการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์จากระบบเดิมเป็น เครื่องยนต์ซูปเปอร์คอมมอนเรล ขนาด 3,000 ซีซี ในรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์และ ยังนำรถยนต์รุ่น มิว 7 ออกจำหน่ายด้วย
พ.ศ. 2548 ในต้นปี 2548 บริษัทฯได้แนะนำเครื่องยนต์ซูปเปอร์คอมมอนเรล ขนาด 2,500 ซีซี สำหรับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยบริษัทฯครองแชมป์รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เป็นปีที่ 23 ติดต่อกัน และในช่วงกลางปี บริษัทฯได้ทำการออกหุ้นกู้มูลค่า 1,000 ล้านบาท
อนึ่งธุรกิจหลักของบริษัทฯ บริษัทย่อย และบริษัทร่วม คือ การประกอบชิ้นส่วน จำหน่าย และให้บริการหลังการขายรถยนต์อีซูซุตลอดจนธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์อีซูซุ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

โดยบริษัทย่อยและบริษัทร่วมมีลักษณะการประกอบธุรกิจโดยสรุปดังต่อไปนี้

ในปี 2547 บริษัทฯได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในการผลิตรถยนต์เนื่องจากมีการปรับปรุงโครงสร้างของบริษัทในเครือโดยมีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท อีซูซุ (ไทยแลนด์) จำกัด กับบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าด้วยกัน เป็นบริษัทอีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้การสั่งซื้อและการผลิตเปลี่ยนไปจากเดิม โดยแยกประเภทการสั่งซื้อและการผลิตออกตามขนาดของรถยนต์ออกเป็นสองส่วนคือ รถกระบะขนาด 1 ตัน และ รถยนต์ขนาดใหญ่กว่า 1 ตัน โดยรถขนาด 1 ตัน บริษัท อีซูซุมอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด จะเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนต่างๆ จากทั้งภายในและภายนอกประเทศ มาประกอบแล้วขายให้กับบริษัทฯในรูปของรถยนต์สำเร็จรูป ส่วนในขนาดใหญ่กว่า 1 ตัน บริษัทฯ จะเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนและโครงรถยนต์ และจัดจ้างให้บริษัท อีซูซุมอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตเหมือนเดิม