ใครรออยู่รออีกนิดนึงครับจะได้รับรถเร็วกว่าเดิม หลังจากที่อีซูซุ เปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ ออล นิว ดีแมคซ์ ที่เคลมว่า เป็นรถปิกอัพสำหรับคนทั้งโลก เมื่อปี 2554 ได้ไม่นาน ก็ได้คำสั่งจากลูกค้ามาอย่างล้นหลาม ประกอบกับได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ซัพพลายสินค้าให้ไม่ทัน ลูกค้าต้องรอรถนานหลายเดือน ซึ่งปัญหานี้ "ฮิโรชิ นาคางาวะ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์อีซูซุในไทย ยืนยันว่า กำลังแก้ไขระบบการผลิตเพื่อส่งมอบให้เร็วที่สุด
- การตอบรับอีซูซุ ออล นิว ดีแมคซ์
อีซูซุ เปิดตัว ออล นิว ดีแมคซ์ มาได้ครบ 1 ปี ได้การตอบรับจากลูกค้าชาวไทยอย่างดีมาก ด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งจากความนิยมรถปิกอัพที่สูงขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เช่นกลุ่มผู้ใช้รถเก๋ง ก็หันมาให้ความสนใจออล นิว ดีแมคซ์ ส่งผลให้มียอดจองสูงถึง 1.5 หมื่นคัน ภายในเวลาแค่ 3 วัน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ รอรับรถนาน ด้วยสถิติยอดจำหน่ายและยอดค้างส่งมากกว่า 2 แสนคันภายใน 1 ปี
ปัจจุบัน อีซูซุ ดีแมคซ์ มียอดค้างส่งรถให้ลูกค้านานประมาณ 3-4 เดือน แล้วทั้งละรุ่น สี และเครื่องยนต์ แม้ว่า ขณะนี้ บริษัทสามารถผลิตจำหน่ายได้เดือนละ 1.5 หมื่นคัน แต่ยังมียอดค้างส่งมอบอีก 6 หมื่นคัน
- การแก้ไขระบบการผลิต
ปัจจุบัน อีซูซุดีแมคซ์ ผลิตที่โรงงานอีซูซุ มอเตอร์(ประเทศไทย) จังหวัดสมุทรปราการ กำลังผลิตปีละ 2 แสนคัน วันละ 2 กะ แต่ภายในเดือนตุลาคม 2555 นี้ บริษัทจะเดินเครื่องการผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ในนิคมอุตสากรรมเกตเวย์ ฉะเชิงเทรา ที่ใช้เงินลงทุน 6.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนคัน เพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งขณะนี้มีความต้องการสูงมาก โดยแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 70% และส่งออก 30% ทำให้คาดว่า ดีแมคซ์ จะมีกำลังการผลิตรวมปีละ 3 แสนคัน ตอนนี้ จึงขอโทษลูกค้าที่จองรถไว้ โดยบริษัทยืนยันว่า จะเร่งผลิตและส่งมอบรถให้ลูกค้าอย่างเร็วที่สุด และขอบคุณลูกค้าที่ยังให้ความไว้วางใจ และยินดีรอรถไม่หันไปซื้อรถจากค่ายอื่น
- ปรับแผนผลิตรับเออีซี
จากการที่ไทยจะเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 อีซูซุเล็งเห็นว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการเชื่อมโยงระบบคมนาคมการขนส่งสินค้าระหว่างกัน สินค้าจากสิงคโปร์จะถูกขนส่งด้วยระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพไปยังไทย ลาว จนถึงจีน ซึ่งระบบโลจิสติกส์ของไทยจะทวีความสำคัญมากขึ้น และขยายธุรกิจไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนมากยิ่งขึ้น ความต้องการใช้รถปิกอัพ รถบรรทุก รถหัวลากขนาดใหญ่ จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงขยายสายการผลิตรถบรรทุกภายในโรงงานเกตเวย์ เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 3 หมื่นคัน เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ลูกค้ารถบรรทุกก็ต้องรอรับรถนานเช่นกัน
- ผลกระทบวิกฤติยุโรป-น้ำท่วม
แม้ว่าจะมีความเป็นห่วงว่า วิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปจะกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ แต่ปัจจุบัน บริษัทยังได้รับคำสั่งซื้อ ออล นิว ดีแมคซ์ จากผู้จัดจำหน่ายอีซูซุในยุโรปอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนเยอะมาก ส่วนการเตรียมรับมือน้ำท่วมนั้น ในปี 2554 ที่ผ่านมา โรงงานของอีซูซุ แม้ว่าไม่ได้รับผลจากน้ำท่วมโดยตรง แต่ต้องหยุดผลิตไป 2 เดือน เนื่องจากผู้ผลิตชิ้นส่วนไม่สามารถเดินเครื่องได้ ซึ่งในปีนี้ อีซูซุ ได้หารือกับซัพพลายเออร์ถึงวิธีการแก้ไขหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมขึ้นมาอีก คงต้องใช้วิธีนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศมาทดแทน แม้วิธีนี้ จะทำให้ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่บริษัทจะไม่ผลักภาระให้ลูกค้า โดยอีซูซุ และซัพพลายเออร์จะรับผิดชอบร่วมกัน
Link ที่มา
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=145807:-3&catid=134:than-auto-&Itemid=452