0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
การดูแลไม่ให้เกิดกลิ่นอับในห้องโดยสาร ทุกครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ ควรที่จะปิดแอร์ (ปุ่ม AC) ภายในรถยนต์เสียก่อน ที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ต ในกรณีที่จอดรถตากแดดเป็นเวลานานควรที่เปิดประตูทิ้งไว้ซัก 2-3 นาที เพื่อระบายความร้อนออกจากห้องโดยสาร “ความร้อนของแสงแดดที่สาดส่องลงมาเป็นเวลานานทำให้สารเคมีที่เป็นส่วนผสมของ พลาสติกต่างๆ ภายในห้องโดยสารนั้นระเหยออกมา เมื่อเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสารในทันที ร่างกายก็จะสูดรับเอาสารเคมีนั้นเข้าไปด้วยซึ่งเป็นโทษต่อร่างกายในระยะยาว” เมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วควรที่จะเปิดพัดลมแอร์ทิ้งไว้ซัก 1 นาที เพื่อไล่ความร้อนที่สะสมอยู่ในตู้แอร์ แล้วค่อยกดเปิดแอร์ ( ปุ่ม AC) ให้คอมเพรสเซอร์ทำงานสร้างความเย็นภายในห้องโดยสาร ปรับสวิตช์ที่ใช้ปรับระดับความเย็นไปที่ตำแหน่งเย็นสุด แล้วจึงปรับสวิตช์ควบคุมความเร็วของพัดลม และสวิตช์ควบคุมระดับความเย็น ลงสู่ตำแหน่งที่สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามต้องการ ในส่วนของการเลิกใช้งาน ก่อนถึงบ้านประมาณซัก 2-3 กม. ให้กดปุ่มปิดการทำงานของคอมเพรสเวอร์(ปุ่ม AC) เพื่อหยุดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และปรับสวิตซ์พัดลมแอร์ให้มีความแรงเพิ่มขึ้น เพื่อให้พัดลมเป่าไล่ความชื้นออกจากตู้แอร์ จะทำการปิดสวิตซ์พัดลมแอร์เมื่อวอร์มดาว “ปิดพัดลมแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์” ซึ่งการทำอย่างนี้เป็นประจำนั้นช่วย ลดความอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ห้องโดยสารมีกลิ่นเหม็นอับ รวมทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้แอร์ให้ผุกร่อนช้าลงกว่าเดิม