ยุคสินค้าราคาแพง น้ำมันขึ้นราคา ทำเอาทุกคนลำบากกันถ้วนหน้า... นับตั้งแต่ เกษตรกร คนงาน เจ้าของโรงงาน เจ้าของร้านค้า เจ้าของกิจการก่อสร้าง เจ้าของกิจการขนส่ง รวมทั้งข้าราชการไม่เว้นแม้กระทั่งผู้บริหารราชการแผ่นดินบางคนไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกไปโรงเรียน บางคนไม่มีปัญญาจะจ่ายค่าเช่า บางคนไม่มีเงินจะจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้ ที่นับวันจะบานปลายสุดท้าย บางคนก็ก่อปัญหาคิดสั้น ฆ่าทั้งครอบครัว ของตนเองในยุคที่เงินเฟ้อสูง เมื่อหลายคนหาทางออกไม่ได้คนที่ไม่เคยคิดจะขโมย บางคนก็ตัดสินใจทำ ...ยิ่งขโมยมืออาชีพ ก็ยิ่งจะระดมขโมยมากยิ่งขึ้นคงจะเคยได้ยินข่าว ขโมยถอดน๊อตเสาไฟฟ้าแรงสูง ขโมยตัดสายโทรศัพท์ ขโมยถอดเหล็กราวสะพาน ขโมยแม้กระทั่งป้ายโลหะจราจรริมถนนหลวงนี่ถ้าตู้ไปรษณีย์ ยกกันไหว ก็คงจะขโมยตู้ไปรษณีย์ไปด้วยการป้องกันรักษาทรัพย์สินของท่าน อย่าให้ขโมยเอาไป ..โจรขโมยรถยนต์ของท่านได้อย่างไร?อย่างแรก โจรจะหาวิธีเข้าไปในรถยนต์ของท่านให้ได้
1. กุญแจปลอม ถ้าคนร้ายมีกุญแจเหมือนกับของท่าน ก็เปรียบเหมือนกับเขาเป็นเจ้าของรถของท่านนั่นเอง วิธีการที่โจรจะได้กุญแจปลอมนั้น ได้แก่ แอบปั๊มกุญแจตอนที่ท่านนำรถไปจอดซ่อม ล้างอัดฉีด หรือท่านซื้อรถจากเต็นท์ขายรถมือสองจากเจ้าของรถเก่าที่เล่นไม่ซื่อ หรือที่นิยมกันในยุคนี้ คือ ซื้อรถมือสองจากทางอินเตอร์เน็ต แล้วโจรซึ่งคือเจ้าของรถเดิม จะติดตามท่านมาถึงบ้านหรือที่จอดรถประจำของท่าน เพื่อจะเปิดเข้าไปในรถยนต์
2. เหล็กแข็งแทนกุญแจ โจรจะใช้เหล็กแข็งขนาดเท่ากุญแจรถ ส่วนมากจะดัดแปลงมาจากประแจหกเหลี่ยมมุมฉากสแตนเลสที่มีความแข็ง ตีเข้าที่รูกุญแจ แล้วใช้แรงบิดจนชุดฟันเฟืองเสียหาย และหมุนจนตัวล๊อคเปิดออก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่โจรชอบใช้
3. ใช้ลวดแข็งเกี่ยวตัวล็อคประตู ..ถ้าใครเคยลืมกุญแจไว้ในรถ แล้วเรียกช่างมาปลดล็อคกุญแจ จะเคยเห็นว่าช่างจะใช้ลวดยาวๆ เบอร์แข็งๆ ดัดทำเป็นตัวยู งัดยางรีดน้ำที่ประตูขึ้นแล้วใช้ลวดที่ว่า แยงเข้าไปให้ตะขอเกี่ยวกับปุ่มกดล็อคให้เด้งขึ้น เสมือนมีคนอยู่ในรถแล้วดึงปุ่มเปิดประตูรถ หรือใช้ลวดแยงทางมือเปิดประตูเพื่อดันตัวกดล็อก ให้เด้งขึ้น วิธีนี้ถ้าช่างมีความชำนาญ จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
4. งัดประตูหูช้าง ..พวกรถกระบะแค๊บ ที่มีประตูหูช้าง โจรจะใช้ลวดแข็งมากๆ งอเป็นตัวยู สอดเข้าไประหว่างกระจกแค๊บแล้วงัดแรงๆ กระจกจะเปิดออก แล้วจะงัดตัวล็อคให้หัก แล้วใช้มือเอื้อมมาเปิดประตู บางคนคิดว่ากระจกบานนี้น่าจะแข็งแรง แต่ถ้าท่านลองงัดดูเอง จะต้องเปลี่ยนใจว่ามันไม่ยากอย่างที่คิด
5. ใช้น้ำกรด โจร จะใช้น้ำกรดชนิดเข้มข้นใส่เข็มฉีดยา หยดเข้าไปตามรูกุญแจเพื่อทำลายชุดฟันเฟือง และสปริงเล็กๆ ในแม่กุญแจ แบบนี้ยังสามารถนำไปใช้กับภายในรถ พวกล็อคพวงมาลัย ล็อคเกียร์ และล็อคครัช ได้อีกด้วย
6. ทุบกระจกประตู หรือกระจกหูช้าง โจร จะใช้เหล็กแหลมคมๆค่อยๆกระเทาะกระจกจนเกิดรอยร้าว ใช้ผ้าปิดป้องกันเสียง จนกระทั่งกระจกแตกออกทั้งบาน แล้วเปิดตัวล็อค เปิดประตูรถได้
7. ช็อตวงจรไฟฟ้า บางท่านคิดว่า เมื่อใช้กุญแจรีโมตแล้ว คงจะปลอดภัยแน่ แต่จริงๆแล้วกลับง่ายต่อการต่อลัดวงจรไฟฟ้า เช่นวงจรไฟเลี้ยวในชุดรีโมตแบบธรรมดา ทำให้ตัวล๊อคคลายออก
8. จูนสัญญาณจากรีโมต เวลา จอดรถตามห้างสรรพสินค้า พอเรากดรีโมตล็อครถ คนร้ายก็จะมีเครื่องมือคอยจับความถี่สัญญาณ แล้วจะหาวิธีก็อปปี้ความถี่ มาใช้ยิงเปิดประตูรถ
9. ลากรถทั้งคันไป แบบนี้อย่าคิดว่าขำนะครับ เป็นวิธีที่โจรบางพวกใช้ เมื่อลากรถไปถึงที่เหมาะๆแล้ว ก็จะหาหนทางเปิดประตูรถแบบที่โจรถนัด
10. จี้.... อย่าง ที่เคยได้ยินกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ เช่น การวางเรือใบ จอดรถขวางไม่ให้รถของท่านผ่าน เมื่อท่านลงไปดูรถท่านหรือลงไปถาม ก็จะถูกจี้ ...หรือล่อลวงด้วยวิธีต่างๆเพื่อหวังให้ท่านเปิดประตูรถออกมา แล้วจี้ท่าน หรือหลอกลวงจะซื้อรถผ่านทางอินเตอร์เน็ต แล้วขอให้ท่านนำรถไปให้ดูในที่เปลี่ยว แล้วจี้
ที่มา thaiwebber.com
-----
การป้องกันรถยนต์ไม่ให้ถูกโจรกรรม ปัจจุบันมีด้วยกันหลายวิธี เช่น
1. ติดกุญแจรีโมทป้องกัน หรือแจ้งเตือนด้วยสัญญาณไซเรน แท้จริงแล้วการป้องกันรถยนต์ด้วยระบบกันขโมยที่ควบคุมด้วยรีโมท และส่งสัญญาณเสียงเตือนผู้บุกรุกนั้น กลไกการทำงานของระบบนี้ ต้องใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ภายในรถยนต์ หรือบางบริษัทจะอ้างว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทตน ใช้ไฟหล่อเลี้ยงจากแบตเตอรี่สำรองในตัวเครื่องเอง แต่ความจริงนักโจรกรรมรถยนต์จะใช้วิธีแกะไฟแก้มเลี้ยว งัดกระจกหูข้าง หรือหาจุดขั้วไฟฟ้าภายนอกบริเวณอื่น แล้วทำการช็อตขั้วไฟสายตรงจุดนั้นๆ เพื่อให้ระบบไฟฟ้า และสัญญาณเตือนภัยในวงจรแปรปรวน และหยุดทำงานลง เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้เหล็กใบเลื่อย แทง หรืองัดประตูรถเข้าไปเชื่อมต่อสวัตท์สายตรงกับขั้วกุญแจ แล้วขับหนีออกไปได้แล้ว วิธีการทำให้ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ซ็อต จึงง่ายต่อการให้นักโจรกรรมกระทำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีระบบไฟฟ้า ระบบคอมพิวเตอร์สมองกล หรือทันสมัยล้ำหน้า กว่าอนาคตเพียงใด ระบบกันขโมยแบบนี้ก็ง่ายต่อการจัดการ หรือโจมตีซอฟแวร์ เพราะระบบคอมพิวเตอร์มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง การที่จะเรียนรู้วิธีการหาจุดอ่อน หรือแฮกข้อมูลเข้าไปปลดล็อคก็ทำได้ง่ายมาก
2. ระบบป้องกันด้วยอุปกรณ์ล็อคเบรค และคลัชสำเร็จรูป เป็นอุปกรณ์ป้องกันที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป อุปกรณ์ดังกล่าวดูผิวเผินทั่วไป เจ้าของรถยนต์ก็จะเข้าใจว่าจะป้องกันได้จริง เพราะดูจากรูปลักษณะภายนอก และกลไกมีการล็อคหลายจังหวะหลายระดับ อย่างน้อยก็เชื่อบริษัทผู้ผลิตโฆษณาว่าล็อคได้ 2-3 ระดับจริง แค่นี้รถยนต์เราก็น่าจะป้องกันเพียงพอ แต่ความจริง เจ้าของรถยนต์ลืมคิดไปว่า ชุดอุปกรณ์ล็อครถยนต์ และระบบกลไกของตัวล็อคนั้นมีขายโดยทั่วไปและตัวล็อคทุกตัวเหมือนกันหมด เพียงแต่กุญแจที่ปลดล็อคไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง การติดตั้งเจ้ารถยนต์เองไม่มีความรู้และไม่มีความชำนาญในการติดตั้ง ต้องอาศัยให้ช่างที่มีความรู้ หรือพอมีความรู้เล็กน้อย อ่านคู่มือประกอบเพิ่มเติมก็สามารถติดตั้งได้แล้ว การติดตั้งก็ใช้ประแจสำหรับขันติดตั้งขนาดเบอร์ น๊อตทุกจุดขนาดเดียวกัน กรณีดังกล่าวนี้เองที่ทำให้เป็นจุดบกพร่องของระบบตัวล็อคสำเร็จรูปชนิดนี้ เพราะมีนักโจรกรรมรถยนต์จำนวนไม่น้อยที่เคยติดตั้ง และรู้กลไกระบบ ผันอาชีพมาเป็นนักโจรกรรมรถยนต์เสียเอง เพราะรู้การปลดล็อคอุปกรณ์ชนิดนี้ดี จึงอาศัยความชำนาญสามารถที่จะเข้าไปปลดล็อคได้ง่าย และรวดเร็ว อีกอย่างหากแม้ไม่ใช่ผู้เคยมีความชำนาญในการติดตั้ง อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัชสำเร็จรูปชนิดนี้ก็ตาม นักโจรกรรมรถยนต์ทั่วไปก็สามารถที่จะซื้อหามาศึกษาระบบกลไก ในการปลดล็อคต่างๆ เองได้ที่บ้าน
3. ระบบป้องกันรถยนต์สูญหายโดยการติดตั้งอุปกรณ์ติดตาม หรือหาพิกัดดาวเทียม จีพีเอส เป็นระบบติดตามหาพิกัดผ่านระบบดาวเทียม หรือที่เราเรียกกันว่า GPS Tracking ระบบนี้ทำงานโดยการที่เจ้าของรถยนต์ต้องไปซื้อ หรือเช่าตัวรับ-ส่งสัญญาญผ่านดาวเทียมจากบริษัทผู้ให้บริการในราคา ราวๆหลายพัน ถึงหลายหมื่นบาท โดยมีการให้บริการจ่ายรายเดือน เป็นค่าบริการอีก ตกประมาณเดือนล่ะ 400-500 บาท แล้วแต่เงื่อนไข และข้อตกลงของแต่ละบริษัทผู้ให้เช่า การติดตั้งอุปกรณ์ชนิดนี้จะต้องพ่วงกับไฟรถยนต์ หรืออาจมีกล่องสำรองไฟกรณีดับเครื่องยนต์ หรือจอดนานๆ ตัวรับ-ส่งสัญญาณก็จะเก็บซ่อนไว้ภายในตัวรถยนต์ ซึ่งหากรถยนต์บางคันมีการติดตั้งฟิล์มกรองแสงค่อนข้างทึบ หรือ จอดรถยนต์ไว้ใต้ตึก หรืออุโมงค์ หรืออยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ ระบบการรับ-ส่งสัญญาณก็จะมีประสิทธิภาพในการแจ้งพิกัดน้อยลง หรือไม่ก็ไม่มีสัญญาณใดๆตอบรับเลย การเดินสายไฟ และการเก็บกล่องควบคุม ตัวรับ-ส่งสัญญาณมักจะถูกเก็บ หรือติดตั้งไว้ในจุดเดิมๆทั่วไปของการติดอุปกรณ์ชนิดนี้ จะว่าไปแล้วอุปกรณ์ดังกล่าวชนิดนี้ไม่ควรถูกเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ได้อย่างแท้จริง เพราะเป็นการหาวิธีเมื่อรถยนต์ที่จอดไว้หายไปแล้วต่างหาก เมื่อถึงขั้นตอนที่ต้องไปค้นหาพิกัดดาวเทียมผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ณ เวลานั้นรถยนต์ก็ไปไกลสุดแล้ว เจ้าของรถยนต์ที่ติดอุปกรณ์ชนิดนี้ ท่านอย่าได้คิดเลยว่ารถยนต์ท่านจะยังอยู่ในสภาพครบถ้วน หรือได้รถยนต์คืนกลับมาแน่นอน เพราะปัจจุบันนี้ มีอุปกรณ์ใช้ตัดสัญญาณจีพีเอ็ส ราคาไม่ถึง 300 บาท ซึ่งมีขายทั่วไปที่ตลาดคลองถม ตลาดวรจักร หรือตลาดบ้านหม้อ หรือแม้แต่อุปกรณ์แปลงสัญญาณวิทยุ เป็นสัญญาณเพลง MP 3 จากแฟลต์ไดร์ ไม่สามารถรับ-ส่งสัญญาณวิทยุ หรือสัญญาณดาวเทียมชนิดใดได้เลย อุปกรณ์ชนิดนี้พึงพาสัญญาณผ่านระบบดาวเทียมเป็นหลัก โดยมีกล่องควบคุมในการรับ-ส่งสัญญาณ ดังนั้นนอกจากจะถูกบุกรุก รื้อทำลาย หรือใช้ตัวตัดสัญญาณจากการโจรกรรมแล้ว ระบบก็จะไม่ทำงาน หรือก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆได้ทั้งสิ้น ดังนั้นการติดตั้งอุปกรณ์ชนิดนี้จึงเหมาะสมกับบริษัทใหญ่ๆที่ต้องการควบคุม และจำกัดความเร็ว ในภาคขนส่งเท่านั้น
4.การล็อคล้อรถยนต์จากภายนอก หรือล็อคแบบตำรวจจราจร อุปกรณ์ล็อคล้อชนิดนี้ มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากกว่าอุปกรณ์ล็อครถชนิดอื่นๆ ลักษณะการล็อคก็เพียงเอาอุปกรณ์ไปล็อคเข้ากับล้อรถข้างใด ข้างหนึ่ง จากนั้นก็เอาลูกกุญแจไปคล้อง ดูๆเหมือนการล็อครถยนต์ของผู้กระทำผิดกฏจราจร จากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกประการ แตกต่างเพียงรูปทรง และมีขนาดใหญ่กว่าเท่านั้น กุญแจที่ล็อคก็เป็นกุญแจทั่วไป หาซื้อได้เองเช่นกัน แต่การล็อครถยนต์วิธีนี้มีข้อเสีย อยู่หลายประการ เช่น พื้นที่การจัดเก็บตัวล็อคในรถ, ตัวล็อคมีน้ำหนักมาก, เวลาล็อคเขี้ยวกุญแจทั้งสองด้านโผล่ออกมาข้างนอก และหมุนได้รอบ ทำให้ง่ายต่อการใช้กุญแจผีปลดล็อค หรือจะใช้คีมตัดเหล็กก็สามารถทำได้ง่ายดาย , หรือเวลานำไปประกอบในการล็อคล้อ อาจเกิดอุบัติเหตุโดยรถคันอื่นเฉี่ยวชนเราได้ง่าย และหากเจ้าของรถลืมปลดล็อค แล้วเคลื่อนรถขับออกไป อาจเกิดอันตราย หรือรถยนต์เสียหายบริเวณจุดล็อคได้
5.การล็อคพ่วงมาลัย วิธีนี้คล้ายๆกับการล็อคล้อรถยนต์ อุปกรณ์ก็มีขายทั่วไป เป็นตัวล็อคแบบสำเร็จรูป มีหลากหลายยี่ห้อราคาไม่แพง แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันแทบไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย เพราะกลไกกุญแจอยู่ด้านนอก และภายในรูกุญแจเองผลิตจากทองเหลือง ซึ่งเห็นโลหะที่ไม่เกิดสนิม แต่โลหะชนิดนี้อ่อนตัว และนิ่มง่ายต่อการใช้ของแข็งเจาะ หรือกระแทกแรงๆ เพียงออกแรงงัดก็พร้อมที่จะหลุดได้ทันที หรือจะใช้ใบเลื่อยเปล่าๆเลื่อยพวงมาลัยให้ขาดด้านใด ด้านหนึ่ง แล้วงัดตัวล็อคออกก็สามารถทำได้เช่นกัน สรุปแล้ว การล็อคสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไป รูกุญแจจะอยู่ภายนอก สะดวกต่อการจะให้นักโจรกรรมใช้เหล็กแหลม แทง หรือหยอดน้ำกรดได้ง่าย ที่กล่าวมาจึงเป็นเหตุผลที่ช่วยสนับสนุน เหตุผลที่ว่า เหตุใดล็อคทุกอย่างดี และแน่นหนาแล้วรถยนต์ยังถูกโจรกรรมไปจากเราอีก
http://www.youtube.com/watch?v=9KAOjsu_VjAhttp://www.youtube.com/watch?v=bJAFsS3gS5Eที่มา :
www.manuallock.com080-007-9765