พอดีเพิ่งไปยื่นมาเมื่อวันที่ 1 สค. ครับ สำหรับกรณีของผมเอกสารส่วนใหญ่เซลล์จะเตรียมให้ครับ...ดังนี้
ส่วนที่เซลล์สมควรจะเตรียมให้...
1.แบบคำขอคืนภาษี ...เซลล์จะกรอกข้อมูลให้บางส่วนครับ
2.สำเนาคู่มือการจดทะเบียนรถ...อันนี้จะได้เมื่อรถจดทะเบียนเรียบร้อย
3.หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี...เซลล์จะเตรียมให้ แล้วเราต้องกรอกให้ครบถ้วนเสร็จแล้วนำไปให้บริษัทไฟแนนท์ที่เราทำสัญญาเช่าซื้อประทับตรารับรองพร้อมเซนต์ในช่องพยาน
....สำหรับขั้นตอนการไปขอให้บริษัทไฟแนนท์รับรองนั้นทางไฟแนนท์จะให้มาพร้อมกับหลักฐานการจดทะเบียนของบริษัทด้วย 1 ชุด สำหรับของผมไปยื่นวันนึงอีกวันต่อมาไปรับได้เลย....
เอกสารที่เราต้องเตรียมเอง...
1.สำเนาบัตรประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.สำเนาหนังซื้อเช่าซื้อ...อันนี้ทางไฟแนนท์จะให้เรามา 1 ชุดเป็นคู่ฉบับกับที่ทางไฟแนนท์เก็บไว้
4.หลักฐานการซื้อรถยนต์...อันนี้หลายอย่างหน่อยดังนี้...
4.1 สำเนาใบจอง พร้อมใบเสร็จ...แน่นอนครับเราจะได้ตั้งแต่วันจอง
4.2 สำเนาใบรับมอบรถ...ได้วันรับรถ
4.3 สำเนาใบเสร็จเงินดาวส์และใบเสร็จภาษี...ซึ่งโดยปกติทางไฟแนนท์จะให้วันที่เราวางเงินดาวส์และจะรวมกันเป็นใบเดียวทั้งสองรายการ
5. สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารออมทรัพย์...เป็นบัญชีที่เค้าจะโอนตังค์ให้เราน่ะครับ
หมายเหตุ
-เอกสารทุกอย่างแนะนำถ่ายสำเนาเป็น 2 ชุด พร้อมเซ็น "สำเนาถูกต้อง"ทุกหน้า เน้นทุกหน้าน่ะครับ
-ณ ตอนนี้ชื่อในใบจองต้องตรงกับชื่อผู้ทำสัญญา....อันนี้กำลังเป็นปัญหาอยู่สำหรับบางคนที่ซื้อใบจอง แต่ผมคิดว่าสุดท้ายทางรัฐบาลน่าจะมีทางออกให้น่ะ...
-เมื่อเรียบร้อยเราจะได้เอกสารทั้งหมดมา 1 ชุด พร้อมกับใบเสร็จยืนยันการยื่นของเรา
-ทางกรมสรรพสามิตจะใช้เวลา 7 วัน ยืนยันการได้รับคืนภาษีและผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนภายหลัง 1 ปี นับจากวันที่ซื้อ
-ไปยื่นที่ไหนเขตไหนก็ได้ครับ...
-หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เวปกรมสรรพสามิตครับ...
http://www.excise.go.th/จากกรณีของผมน่ะครับ...ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ...
