ขอถามหน่อย ครับ ทำไม z prestige ถึงไม่มีเกียร์ ธรรมดา อะครับ

[โต้ง มีนบุรี (NDC.๔๒๘)]

อยากใด้ตัวนี้อะครับ แต่มันไม่มีเกียร์ ธรรมดา หรือว่ามี ถ้าไม่มีเพราะอะไรอะครับ
ช่วยตอบที่

ไม่ได้ครับน้าเดี๋ยวไม่มีมุขในรุ่น 2,3,4,5 ครับ ก็จะคล้ายๆ D-Max รุ่นก่อนครับ

[sapporo20]

2.5 MT จบแค่ Z DVD

ถ้าทำ 2.5 MT Z-Prestige เค้าเกรงว่า 3.0 MT Z-Prestige จะขายยาก ส่วน 2.5 AT Z-Prestige จะขายยากลงอีก เพราะมีหลายคนที่อยากได้ Z-Prestige เลยต้องเอา 2.5 AT หรือไม่ก็ 3.0 ไปเลย เป็นการบังคับไปในตัว

ผมยังอยากได้เลย 2.5 MT Z-Prestige เนี่ย ในเมื่อไม่มี ก็ไม่เอาก็ได้

+1 ครับ

[NöôMòn Y@-@Y 573]

2.5 MT จบแค่ Z DVD

ถ้าทำ 2.5 MT Z-Prestige เค้าเกรงว่า 3.0 MT Z-Prestige จะขายยาก ส่วน 2.5 AT Z-Prestige จะขายยากลงอีก เพราะมีหลายคนที่อยากได้ Z-Prestige เลยต้องเอา 2.5 AT หรือไม่ก็ 3.0 ไปเลย เป็นการบังคับไปในตัว

ผมยังอยากได้เลย 2.5 MT Z-Prestige เนี่ย ในเมื่อไม่มี ก็ไม่เอาก็ได้

+1 ค่ะ

[sukkawatt@๕๙๔]

ผมว่า ออโต้ก็สบาย นะ  แล้วก็ไม่สิ้นเปลืองเท่าไหร  แต่รอบต่อไป มีแน่ 2.5 TOP MT

[teeratoto]

ผมก็อยากได้ครับ แต่บังเอิญว่า มันไม่มีน่ะ

[Maliken NDC.872]

คงต้องจำยอมแค่ z dvd เพราะชอบเกียร์ธรรมดา ตัว 3.0 พ่อไม่อนุมัติ  รถคันแรกแค่นี้ก็สุดยอดแล้ว

แรกๆผมก็ งง แบบ ท่านอ่ะครับมันเป็น เทคนิคการขายของเค้า คนส่วนใหญ่ติดกับความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า 2.5 ประหยัดกว่า 3.0 มันก็จริงครับเครื่องคนละขนาด อัตตราการสิ้นเปลืองก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว แต่ ปัจจุบัน เทคโนโลยีการผลิตมันล้ำหน้าไปมากแล้วครับเค้า เน้น อนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม บริษัทรถก็แข่งกันผลิตรถที่ประหยัดน้ำมัน ขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนแรกผมก็อยากได้ 2.5 และแม่ก็ไม่อนุมัติ เครื่อง 3.0 แต่ผมก็อธิบายให้แกเข้าใจ

ที่ผมอธิบายให้แกเข้าใจนะ จะเอาคำพูดผมไปอธิบายให้พ่อแก่ฟังก็ได้
2.5 - 3.0 อยู่ที่ พฤติกรรมการขับรถของแต่ละคน ผมเป็นคนขับรถ ล๊อกคันเร่งไม่เหยียบปรู๊ดปร๊าดด ต้องดูด้วยว่าบ้าน ท่านอยู่ ชาญเมืองหรือในเมือง ถ้าในเมือง  2.5 AT ย่อมประหยัดกว่าอยู่แล้วครับ ส่วนไอ้เรื่องที่ท่านอยากได้ Z-perstige นั้น ถ้าเป็นคนไม่เปลี่ยนรถบ่อยซื้อครั้งเดียวใช้ยาวยันลูกหลานไม่คิดแต่งไรมากก็จัดไปเลยครับคุ้มกว่า ทั้งระบบรักษาความปลอดภัย และเครื่องอำนวยความสะดวกภายในก็โอเคเลยครับ
มาว่ากันต่อที่เครื่อง 3.0 MT  ดียังไงถ้าเทียบกับ 2.5 AT ในความคิดผมนะ ถ้าอย่างบ้านผมต้องบางครั้งต้อง บรรทุกปุ๋ย 10-20 กระสอบ  เครื่อง 3.0 กำลังมันเหลือพออยู่แล้วครับเลยไม่กินน้ำมันมากเท่ากับ 2.5 AT เพราะต้องเหยียบเยอะ บ้านผมอยู่รังสิต-ธัญญะ-นครนายก-คลองหลวง ระแวกนี้ ถ้าขับรถเป็นเวลาชำนาญพื้นที่ จะรู้ว่าเวลาไหนรถติดรถไม่ติด ขับเส้นไหนรถติดน้อยทางลัด แม่ผมก็เลยโอเคกับเครื่อง 3.0 ตามความคิดของผม

สรุป ท่านลองทำความเข้าใจกับทางบ้านดู เพื่อได้เปลี่ยน เพราะใจผมอยากได้ V-Cross เหมือนกันแต่ผมไม่ได้ ลุย หรือ ขึ้นเขา ทางวิบากไรมากมายเลยไม่เอามา เอาแค่ HR Z-perstige 3.0 พอ อยู่ที่พฤติกรรมการใช้รถครับ และสภาพแวดล้อม ที่ท่านอยู่ เน้นประหยัดเงินในกระเป๋าเป็นหลักครับ

[ppounk NDC]

2.5 MT จบแค่ Z DVD

ถ้าทำ 2.5 MT Z-Prestige เค้าเกรงว่า 3.0 MT Z-Prestige จะขายยาก ส่วน 2.5 AT Z-Prestige จะขายยากลงอีก เพราะมีหลายคนที่อยากได้ Z-Prestige เลยต้องเอา 2.5 AT หรือไม่ก็ 3.0 ไปเลย เป็นการบังคับไปในตัว

ผมยังอยากได้เลย 2.5 MT Z-Prestige เนี่ย ในเมื่อไม่มี ก็ไม่เอาก็ได้

+1 ครับ

ผมก้อเป็นคนที่ชอบ Z-Prestige ใน 2.5 แต่ไม่ชอบ A/Tครับ

[allnewtop]

คงต้องจำยอมแค่ z dvd เพราะชอบเกียร์ธรรมดา ตัว 3.0 พ่อไม่อนุมัติ  รถคันแรกแค่นี้ก็สุดยอดแล้ว

แรกๆผมก็ งง แบบ ท่านอ่ะครับมันเป็น เทคนิคการขายของเค้า คนส่วนใหญ่ติดกับความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า 2.5 ประหยัดกว่า 3.0 มันก็จริงครับเครื่องคนละขนาด อัตตราการสิ้นเปลืองก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว แต่ ปัจจุบัน เทคโนโลยีการผลิตมันล้ำหน้าไปมากแล้วครับเค้า เน้น อนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม บริษัทรถก็แข่งกันผลิตรถที่ประหยัดน้ำมัน ขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนแรกผมก็อยากได้ 2.5 และแม่ก็ไม่อนุมัติ เครื่อง 3.0 แต่ผมก็อธิบายให้แกเข้าใจ

ที่ผมอธิบายให้แกเข้าใจนะ จะเอาคำพูดผมไปอธิบายให้พ่อแก่ฟังก็ได้
2.5 - 3.0 อยู่ที่ พฤติกรรมการขับรถของแต่ละคน ผมเป็นคนขับรถ ล๊อกคันเร่งไม่เหยียบปรู๊ดปร๊าดด ต้องดูด้วยว่าบ้าน ท่านอยู่ ชาญเมืองหรือในเมือง ถ้าในเมือง  2.5 AT ย่อมประหยัดกว่าอยู่แล้วครับ ส่วนไอ้เรื่องที่ท่านอยากได้ Z-perstige นั้น ถ้าเป็นคนไม่เปลี่ยนรถบ่อยซื้อครั้งเดียวใช้ยาวยันลูกหลานไม่คิดแต่งไรมากก็จัดไปเลยครับคุ้มกว่า ทั้งระบบรักษาความปลอดภัย และเครื่องอำนวยความสะดวกภายในก็โอเคเลยครับ
มาว่ากันต่อที่เครื่อง 3.0 MT  ดียังไงถ้าเทียบกับ 2.5 AT ในความคิดผมนะ ถ้าอย่างบ้านผมต้องบางครั้งต้อง บรรทุกปุ๋ย 10-20 กระสอบ  เครื่อง 3.0 กำลังมันเหลือพออยู่แล้วครับเลยไม่กินน้ำมันมากเท่ากับ 2.5 AT เพราะต้องเหยียบเยอะ บ้านผมอยู่รังสิต-ธัญญะ-นครนายก-คลองหลวง ระแวกนี้ ถ้าขับรถเป็นเวลาชำนาญพื้นที่ จะรู้ว่าเวลาไหนรถติดรถไม่ติด ขับเส้นไหนรถติดน้อยทางลัด แม่ผมก็เลยโอเคกับเครื่อง 3.0 ตามความคิดของผม

สรุป ท่านลองทำความเข้าใจกับทางบ้านดู เพื่อได้เปลี่ยน เพราะใจผมอยากได้ V-Cross เหมือนกันแต่ผมไม่ได้ ลุย หรือ ขึ้นเขา ทางวิบากไรมากมายเลยไม่เอามา เอาแค่ HR Z-perstige 3.0 พอ อยู่ที่พฤติกรรมการใช้รถครับ และสภาพแวดล้อม ที่ท่านอยู่ เน้นประหยัดเงินในกระเป๋าเป็นหลักครับ

จะลองดูครับ แต่บ้านผมอยู่พระประแดง เลิกงาน 5  ต้องขับรถไปเรียนต่อ ที บางนา แล้วเวลา 5 โมงรถติดมากแถวนี้ ขึ้นทางด่วนอุตสหกรรม มาลงปู่เจ้าเจอรถติดอีก มันจะกินน้ำมันต่างกันมากหรือป่าวครับ แต่รถซื้อแล้วคงไม่เปลียนง่ายๆคงเป็น สิบๆ ปีกว่าจะเปลียน รถคันเก่าก็ยังอยู่อายุก็ 13 ปีใด้แล้วก็ยังใช้อยู่แต่เป็นของพ่อผม
13 ปี ไอแก่พาไปทั่วแล้วยกเว้นภาคไต้ มันรู้สึกผูกพัน ถึงเราไม่ใด้ขับ ก็ยังรักเหมือนรถมีชีวิต ตัดใจขายไม่ลง ไม่รู้ว่าพ่อจะยอมหรือป่าว

[Maliken NDC.872]

คงต้องจำยอมแค่ z dvd เพราะชอบเกียร์ธรรมดา ตัว 3.0 พ่อไม่อนุมัติ  รถคันแรกแค่นี้ก็สุดยอดแล้ว

แรกๆผมก็ งง แบบ ท่านอ่ะครับมันเป็น เทคนิคการขายของเค้า คนส่วนใหญ่ติดกับความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า 2.5 ประหยัดกว่า 3.0 มันก็จริงครับเครื่องคนละขนาด อัตตราการสิ้นเปลืองก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว แต่ ปัจจุบัน เทคโนโลยีการผลิตมันล้ำหน้าไปมากแล้วครับเค้า เน้น อนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม บริษัทรถก็แข่งกันผลิตรถที่ประหยัดน้ำมัน ขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนแรกผมก็อยากได้ 2.5 และแม่ก็ไม่อนุมัติ เครื่อง 3.0 แต่ผมก็อธิบายให้แกเข้าใจ

ที่ผมอธิบายให้แกเข้าใจนะ จะเอาคำพูดผมไปอธิบายให้พ่อแก่ฟังก็ได้
2.5 - 3.0 อยู่ที่ พฤติกรรมการขับรถของแต่ละคน ผมเป็นคนขับรถ ล๊อกคันเร่งไม่เหยียบปรู๊ดปร๊าดด ต้องดูด้วยว่าบ้าน ท่านอยู่ ชาญเมืองหรือในเมือง ถ้าในเมือง  2.5 AT ย่อมประหยัดกว่าอยู่แล้วครับ ส่วนไอ้เรื่องที่ท่านอยากได้ Z-perstige นั้น ถ้าเป็นคนไม่เปลี่ยนรถบ่อยซื้อครั้งเดียวใช้ยาวยันลูกหลานไม่คิดแต่งไรมากก็จัดไปเลยครับคุ้มกว่า ทั้งระบบรักษาความปลอดภัย และเครื่องอำนวยความสะดวกภายในก็โอเคเลยครับ
มาว่ากันต่อที่เครื่อง 3.0 MT  ดียังไงถ้าเทียบกับ 2.5 AT ในความคิดผมนะ ถ้าอย่างบ้านผมต้องบางครั้งต้อง บรรทุกปุ๋ย 10-20 กระสอบ  เครื่อง 3.0 กำลังมันเหลือพออยู่แล้วครับเลยไม่กินน้ำมันมากเท่ากับ 2.5 AT เพราะต้องเหยียบเยอะ บ้านผมอยู่รังสิต-ธัญญะ-นครนายก-คลองหลวง ระแวกนี้ ถ้าขับรถเป็นเวลาชำนาญพื้นที่ จะรู้ว่าเวลาไหนรถติดรถไม่ติด ขับเส้นไหนรถติดน้อยทางลัด แม่ผมก็เลยโอเคกับเครื่อง 3.0 ตามความคิดของผม

สรุป ท่านลองทำความเข้าใจกับทางบ้านดู เพื่อได้เปลี่ยน เพราะใจผมอยากได้ V-Cross เหมือนกันแต่ผมไม่ได้ ลุย หรือ ขึ้นเขา ทางวิบากไรมากมายเลยไม่เอามา เอาแค่ HR Z-perstige 3.0 พอ อยู่ที่พฤติกรรมการใช้รถครับ และสภาพแวดล้อม ที่ท่านอยู่ เน้นประหยัดเงินในกระเป๋าเป็นหลักครับ

จะลองดูครับ แต่บ้านผมอยู่พระประแดง เลิกงาน 5  ต้องขับรถไปเรียนต่อ ที บางนา แล้วเวลา 5 โมงรถติดมากแถวนี้ ขึ้นทางด่วนอุตสหกรรม มาลงปู่เจ้าเจอรถติดอีก มันจะกินน้ำมันต่างกันมากหรือป่าวครับ แต่รถซื้อแล้วคงไม่เปลียนง่ายๆคงเป็น สิบๆ ปีกว่าจะเปลียน รถคันเก่าก็ยังอยู่อายุก็ 13 ปีใด้แล้วก็ยังใช้อยู่แต่เป็นของพ่อผม
13 ปี ไอแก่พาไปทั่วแล้วยกเว้นภาคไต้ มันรู้สึกผูกพัน ถึงเราไม่ใด้ขับ ก็ยังรักเหมือนรถมีชีวิต ตัดใจขายไม่ลง ไม่รู้ว่าพ่อจะยอมหรือป่าว

รถผมก็มี คันเก่า Isuzu TFR อายุมันเท่าผมเลย 27 ปีแล้ว ครับ ถ้าเป็นผมเป็นท่านคิดว่าไม่เปลี่ยนรถบ่อยผมจัด 2.5 Z-perstrige A/T ไปเลยครับทำใจรับกับเกียร์ Auto สักหน่อยคิดว่า ยอมไม่มันส์ แต่แรกกับความสบาย + ความหรูของรุ่น Z-Perstige ไปเลยก็โอเคนะ ส่วนตัวผมไม่ชอบ Z ธรรมดาถ้าไม่คิดเอามาแต่งเองนะ
ผมไม่ชอบแต่งรถชอบรักษารถให้คงเดิมมากว่า เน้นแต่งของที่มันอำนวยความสะดวก ถ้าคิดคล้ายๆกับผมก็จัด ตามนั้นไปเลยครับ 2.5 Z-Perstige AT ไปเลยท่าน

[นายช่าง]