"เข้าให้ช้า ออกให้เร็ว"
ทุกครั้งที่ขับรถใกล้ถึงทางโค้ง ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วของรถด้วยการผ่อนคันเร่งลง เหตุผลที่เราต้องลดความเร็วก่อนเข้าโค้งก็เพราะว่าหากเราไปลดความเร็วในโค้งจะทำให้รถสูญเสียการทรงตัวได้ เพราะในขณะที่รถเข้าโค้งการรับน้ำหนักของล้อแต่ละล้อจะไม่เท่ากันทำให้มีแรงเสียดทานของล้อด้านหน้าและด้านหลังไม่เท่ากัน หากวิ่งด้วยความเร็วสูงโอกาสที่จะเสียหลักจึงมีมากกว่าการขับบนถนนที่เป็นทางตรงหลายเท่าซึ่งบนถนนที่มีทางโค้งจะมีป้ายเตือนให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังอยู่ริมทางก่อนถึง ทางโค้งเมื่อผู้ขับขี่เห็นป้ายเตือนดังกล่าวควรลดความเร็วของรถลงทันที เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่าทางโค้งข้างหน้าที่จะขับผ่านไปนั้นเป็นทางโค้งรัศมีแคบหรือรัศมีกว้างเท่าใดหรือมีความยาวของทางโค้งมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญทั้งก่อนจะเข้าโค้งและขณะที่อยู่ในโค้งสายตาของผู้ขับขี่จะต้องมองตรงไปด้านหน้าเพื่อกะระยะในการเข้าโค้งโดยต้องบังคับพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งให้ความเร็วรถเหมาะสมกับสภาพของทางโค้งด้วยหากมีป้ายเตือนให้จำกัดความเร็วก่อนเข้าโค้งก็ควรปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัย และขอให้จดจำเป็นข้อเตือนใจไว้เลยครับว่าก่อนจะเข้าโค้งนั้น ยิ่งเร็วยิ่งเสี่ยง ช้าไว้ก่อนเป็นดีเพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นจะได้แก้ไขสถานการณ์ได้ทัน โดยเฉพาะทางโค้งที่มีต้นไม้หรือภูเขาบดบังทัศนวิสัยยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น สำหรับเทคนิคการขับรถเข้าโค้งบนถนนที่มีช่องจราจรมากกว่า 1 ช่องถ้าจะเข้าโค้งไปทางด้านขวาให้ผู้ขับขี่ขับรถชิดเลนซ้ายไว้ และถ้าจะเข้าโค้งซ้ายก็ให้ขับรถชิดเลนขวาเพราะจะทำให้สามารถมองเห็นรถที่ขับสวนทางมาได้ดีขึ้น และเมื่อผู้ขับขี่ขับรถผ่านโค้งและมองเห็นทางข้างหน้าเป็นทางตรงแล้วจึงค่อยๆเร่งความเร็วของรถขึ้นเพื่อขับในสภาวะปกติต่อไปตามหลักเข้าให้ช้า ออกให้เร็ว นั่นเองครับข้อห้ามเมื่อขับรถเข้าโค้ง!!ห้ามเหยียบคลัตช์แช่ไว้ หรือเปลี่ยนเกียร์ขณะอยู่ในโค้ง
สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติคงไม่มีปัญหา แต่หากเป็นรถเกียร์ธรรมดาไม่ควรเหยียบคลัตช์แช่ไว้หรือเปลี่ยนเกียร์ขณะเข้าโค้งเพราะการเหยียบคลัตช์แช่ไว้ล้อรถจะเป็นอิสระจากการควบคุมของระบบเกียร์ ส่งผลให้ล้อรถไม่เกาะถนน จนอาจเกิดการไถลหรือหลุดโค้งได้ง่าย นอกจากนี้ ขณะเปลี่ยนเกียร์ ผู้ขับขี่จะต้องปล่อยมือจากพวงมาลัยมาจับคันเกียร์ทำให้บังคับรถได้ยากขึ้นและหากเปลี่ยนเกียร์ไม่นุ่มนวลอาจทำให้รถเกิดการกระชากจนเสียการทรงตัวและหลุดโค้งได้เช่นกัน[/size][/color]
ห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรง
หากไม่จำเป็นจริงๆไม่ควรใช้เบรกขณะเข้าโค้ง เหตุผลก็เนื่องจากการรับน้ำหนักของรถและแรงเสียดทานที่ล้อไม่เท่ากันขณะเข้าโค้งอย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นนั่นแหละครับยิ่งหากเราไม่ชำนาญการใช้เบรกเพื่อลดความเร็วในโค้งก็ยิ่งอันตราย เพราะเบรกรถนั้นออกแบบมาให้รับภาระจากการเบรกด้านหน้ารถมากกว่าด้านหลัง เมื่อเราเบรกในโค้งล้อรถซึ่งมีความเสียดทานกับถนนไม่เท่ากันทุกล้ออยู่แล้วก็จะเป็นการเพิ่ม อาการเสียการทรงตัวในโค้งมากขึ้นไปอีก แต่หากขับมาเร็วมากและจำเป็นต้องใช้เบรกจริงๆก็ควรค่อยๆ แตะเบรกครับ ห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรงขณะเข้าโค้งเด็ดขาด เนื่องจากการเบรกอย่างรุนแรงจะทำให้รถเกิดแรงเหวี่ยงและเสียการทรงตัวจนอาจไถลออกนอกถนนได้ ซึ่งก็สัมพันธ์กับหลักการเข้าโค้ง อย่างปลอดภัยที่ให้เข้าโค้งให้ช้าไว้ก่อนนั่นเอง เพราะเมื่อผู้ขับขี่ขับรถเข้าโค้งช้าแล้วโอกาสที่จะ เหยียบเบรกอย่างรุนแรงจนท้ายรถปัดหรือเสียการทรงตัวแทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลยห้ามแซงทางโค้ง
ข้อนี้สำคัญมากเพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันหรือขับหลุดโค้งจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วจำนวนมาก เนื่องจากบริเวณทางโค้งผู้ขับขี่จะมองไม่เห็นถนนที่อยู่ไกลออกไปซึ่งการถูกจำกัดในการมองเห็นดังกล่าว หากมีรถขับสวนทางมาก็อาจทำให้เกิดการชนในลักษณะประสานงา หรือหักหลบจนตกถนนได้ นอกจากนี้ ในการแซงผู้ขับขี่ต้องเร่งความเร็วรถขึ้นซึ่งโอกาสเสี่ยงที่รถจะหลุดโค้งจะมีสูงการใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัย ผู้ขับขี่จะต้องใส่ใจปัจจัยที่มีผลต่อการขับขี่ ทั้งสภาพตัวรถ สภาพถนน และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆอย่างช่วงนี้ฝนตกถนนลื่น ก็ควรตรวจเช็กยางรถยนต์ดูดอกยางว่าหมดสภาพหรือยัง ถ้าเสื่อมสภาพแล้วต้องเปลี่ยนใหม่ทันทีอย่าไปเสียดาย เพราะยางรถยนต์นี่แหละครับมีผลต่อการขับขี่และความปลอดภัยในชีวิตของผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก ที่สำคัญเมื่อถึงทางโค้งต้องชะลอความเร็วทุกครั้งอย่าชะล่าใจว่าโค้งนี้เคยขับเร็วไม่มีปัญหา เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่นอาจทำให้รถเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะพวกเนื้อหุ้มเหล็กอย่าง สิงห์มอเตอร์ไซค์อย่าได้คึกคะนองตอนเข้าโค้งเพราะคิดว่าเป็นสนามแข่งเชียวนะครับ พลาดพลั้งมา อาจไม่มีโอกาสแก้ตัว
ข้อมูล :
www.lancer-club.net
www.peugeot-owner-thailand.com
www.fordfocusclub.com
เรียบเรียงโดย : จักรพันธ์ ห้องสวัสดิ์