ที่มา + เครดิต
http://www.dailynews.co.th/crime/183766วันนี้ (10 ก.พ.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย และ นายตำรวจในสังกัด ร่วมกัน แถลงจับกุมตัว นายหนึ่ง หรือแจ๊ค สิทธิ์น้อย อายุ 24 ปี พร้อมกับพวกซึ่งเป็นเยาวชนอีก 3 คน ซึ่งผู้ต้องหาก่อเหตุทุบรถน.ส.สุจิรา หรือนุ้ย อรุณพิพัฒน์ อดีตนางสาวไทย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 128/2556 ลงวันที่ 7 ก.พ.56 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นที่คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าถือแบบหญิง สีดำยี่ห้อชาแนล รุ่น GST CAVALAR SHW จำนวน 1 ใบ หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีขาว กระจกสีชมพู ยี่ห้ออินเด็กซ์ จำนวน 1 ใบ และเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีแดง ยี่ห้อ GILDAN ที่ใช้ในวันก่อเหตุ สามารถจับกุมได้บริเวณโกลด์อพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทอง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 12.20 น. นางสาวสุจิรา หรือนุ้ย ได้ขับรถยี่ห้อเบนซ์ สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ธ-9764 กรุงเทพมหานคร มาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านตัวเอง เลขที่ 60/9 ถนนเสนานิคมซอย 117 แยก 3 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จากนั้นเวลาประมาณ 12.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายสองคน คือ นายหนึ่ง หรือแจ๊ค ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฟีโน่ สีม่วงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีนายธนาวุฒิ หรือน๊อต แชสังข์ ได้ลงจากรถ จยย. แล้วมาที่รถยนต์ของน.ส.สุจิรา ส่องหาทรัพย์สินภายในรถยนต์
เมื่อพบว่าผู้เสียหายได้วางกระเป๋าสะพายทิ้งไว้ที่เบาะด้านหลังรถ นายธนาวุฒิได้ใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ด้านหลังขวาคนขับ จากนั้นได้ล้วงเข้าไปเอาทรัพย์สินแล้วรีบขึ้นรถ จยย. หลบหนีไปใช้เวลาก่อเหตุเพียง 10 วินาที ซึ่งนายธนาวุฒิ ทางศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติออกหมายจับที่ 139/2556 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวน นายหนึ่งให้การรับสารภาพว่า ได้รู้จักกับนายธนาวุฒิ หรือน๊อต เพราะอยู่ชุมชนเดียวกัน และเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้เพียง 3 เดือนพร้อมกับนายน๊อต แล้วก็มาลงมือก่อเหตุทุบรถอดีตนางสาวไทยโดยไม่ทราบมาก่อนด้วยซ้ำว่าเป็นรถของ น.ส.สุจิรา ทีแรกเลือกจะก่อเหตุเอาบ้านข้างหน้าเพราะวนรถมาดูก่อนแล้ว แต่เห็นมีรถมาจอดใหม่เมื่อส่องดูแล้วพบกระเป๋าในรถต้องมีทรัพย์สินแน่นอนจึงบอกนายน๊อตนำไขควงมางัด เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วรีบวนรถออกไปทันที ซึ่งเวลาก่อเหตุนั้นเลือกไม่ได้อยู่ที่เห็นของกลางจะลงมือทันที
เบื้องต้นทำมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปเสพยา ยังรับอีกว่าตนได้ก่อเหตุและมีคดีติตตัวมา 5 ครั้ง ในคดีพกพาอาวุธปืน คดียาเสพติด คดีร่วมกันชิงทรพัย์ ท้องที่ สน.หัวหมาก สน.มักกะสัน และล่าสุด สน.โชคชัย
ด้าน น.ส.สุจิรา หรือนุ้ย กล่าวว่า ในส่วนของทรัพย์สินนั้นยังได้ไม่ครบยังขาด กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อชาแนล โทรศัพท์ไอโฟน 4 สมุดบัญชีธนาคาร แหวนเพชร และพระเครื่อง รวมมูลค่ากว่าแสนบาท ซึ่งคิดว่าคนร้ายนำไปขายหมดแล้ว แต่ได้รับความดูแลอย่างดีจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผกก.สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ที่ทำงานกันแบบไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งตนเองก็พอใจ ณ ตอนนี้ ที่ได้ของคืนมาบางส่วนเป็นกระเป๋าสะพายจำนวน 1 ใบ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ถ้าไม่ประมาทก็ไม่ตกเป็นเหยื่อ
อยากฝากให้เยาวชนเหล่านี้กลับตัวกลับใจ หากเราไม่เจอแก๊งนี้ก็คิดว่าจะต้องเจอแก๊งอื่น เพราะจากที่ถามคนรู้จักมาคนโน้นก็โดนคนนี้ก็โดน ซึ่งเหตุเกิดรายวันเลย แสดงให้เห็นว่ายังมีกลุ่มแบบนี้อีกเยอะ ไม่อย่างนั้นเราอยู่บ้านเราก็ต้องระแวงอยู่เรื่อยๆ จะมีวิธีการอะไรบ้างที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว น.ส.สุจิรา ได้นำกระเช้าขนมมอบให้ทาง พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 เป็นการขอบคุณที่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้