การเปิดไฟสูงอาจมีไว้ใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่การที่เราเปิดไฟสูงในวันธรรมดา ถือว่าเป็นการรบกวนผู้อื่นโดยใช่เหตุ ไฟสูง ใช้ตอนไหนไม่รบกวนคนอื่น
แน่นอนว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ต้องมาคู่กับความปลอดภัย แนะนำทำประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ดีที่สุด OOHOO.io แหล่งรวม
ประกันรถยนต์จากหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดฮิต เทียบเบี้ยหลายตัวเลือก เช็กราคาได้ฟรีที่หน้าเว็บไซต์ ตลอด 24 ชั่วโมง
1.ควรใช้ไฟสูงเมื่อขับรถตอนกลางคืน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า หรือเส้นทางปลอดรถอย่าง เส้นนอกเมือง ที่ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน เพื่อให้เห็นป้ายบอกทาง หรือเส้นทางข้างหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น แต่มีข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่แสดงให้เห็นว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืนสูงเป็น 3 เท่าของตอนกลางวัน เพราะเป็นช่วงที่สายตาของเรากําลังปรับระดับให้เคยชินและให้เข้ากับความมืด ถ้ารู้สึกว่ามองเห็นไม่ชัดให้เปิดไฟหน้ารถโดยไม่ต้องรอให้มืดก่อน นอกจากจะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นแล้ว และยังง่ายต่อผู้ขับรถคันอื่นที่สามารถสังเกตเห็นรถของเราได้ง่าย
2.ควรใช้ไฟสูงเมื่อขับรถฝ่าหมอก เพื่อส่งสัญญาณให้รถคันอื่นทราบ และควรหมั่นตรวจสอบไฟหน้าและไฟท้าย (ไฟสูง-ต่ำ) ให้อยู่ในสภาพดี พร้อมที่จะใช้งานได้ หรือ ใช้ไฟตัดหมอก (Fog Lamp) จะช่วยในการส่องสว่างมากขึ้น เมื่อมีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟตัดหมอกเพื่อให้รถที่วิ่งสวนมาหรือวิ่งตามหลังเห็นได้ชัดในระยะไกลมากขึ้น และ ควรปิดไฟตัดหมอกทันทีที่รถสวนมาในระยะที่มองเห็นไฟหน้าของรถที่สวนมาได้อย่างชัดเจนเพราะจะทําให้คนขับรถที่สวนทางมาแสบตาหรือตาพร่ามัวชั่วขณะ ซึ่งทําให้เกิดอุบัติเหตุได้
3.ควรใช้ไฟสูงกระพริบเตือนรถยนต์คันที่ขับสวนมาว่าอย่าพึ่งกลับรถ เพราะยังไม่ปลอดภัยที่จะกลับรถ เนื่องจากเรากำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง ดังนั้นหากเห็นรถกำลังจะกลับรถเปิดไฟสูง ควรรีบชะลอเพื่อความปลอดภัย หรืออีกบริบทเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ที่กำลังข้ามถนนให้เดินข้ามได้ เพราะเราชะลอรถให้แล้ว
มารยาทการใช้ไฟสูง 1. ในกรณีที่ไม่มีรถคันอื่นอยู่ด้านหน้าหรือวิ่งสวนมา การเปิดไฟสูงจะช่วยให้เรามองเห็นได้ไกลและชัดเจน แต่ถ้าเริ่มมองเห็นรถคันหน้าหรือไฟจากรถที่กําลังสวนมาต้องเปลี่ยนเป็นไฟต่ำทันที เพราะลําแสงของไฟสูงจะไปแยงตาและรบกวนการมองเห็นของรถคันอื่น
2.หากมีรถยนต์เลนตรงข้ามขับสวนมาแล้วใช้ไฟสูงจนเรามองไม่เห็นทาง ให้เปลี่ยนมามองที่ขอบถนนด้านซ้ายแทนและใช้เป็นที่นําทางสักพัก จนรถคันนั้นพ้นไประหว่างขับรถให้พยายามเบนสายตาจากแสงไฟของรถคันอื่น เพราะแสงไฟที่จะตกกระทบยังกระจกมองข้างหรือแม้แต่กระจกมองหลังจะทําให้ตาพร่าไปชั่วขณะให้มองไปที่เส้นทางข้างหน้าหรือเส้นแบ่งช่องจราจรเป็นหลัก เพื่อทําให้สามารถประคองรถ อยู่ในช่องทางได้ตลอดเวลา
