ผู้เขียน หัวข้อ: ขอแชร์เรื่องระบบสื่อสารในรถดีแม็กขัดข้องครับ  (อ่าน 3539 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ หนุ่มน้อย

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 260
  • คะแนน Like 7
ผมใช้รถรุ่น all new dmax 4d hr 2.5 vgs at zp ครับ อายุการใช้งาน 2ปี 7เดือน
       เมือวานขับไปเติมน้ำมันเสร็จ หลังออกจากปั้มแล้วกำลัง เลี้ยวยูเทริน ได้เกิดอาการกระตุกของเกียร์ แล้วไฟโชว์ทั้งหมดพร้อมกัน ดังนี้. ไฟเกียร์โชว์ ไฟใส้กรองเชื้อเพลิงโชว์. ไฟระบบ esc โชว์. ไฟเครื่องยนต์โชว์ เข็มวัดรอบและเข็มความเร็วตกเป็น 0 ทั้งหมด มาตรวัดระยะทาง มาตรวัดความร้อนก็ไม่ขยับเลย ระบบเกียร์เข้าแมนนวลก็ไม่ได้ emo31
        ผมตกใจมากเลยลองค้นหาศูนย์บริการใน แผนที่ เลยพบว่าอยู่ใกล้ๆราว 3 กิโลเมตร เลยฝืนขับไปอย่างช้าๆจนถึงศูนย์บริการ ช่างได้ตรวจเช็ค ตรวจสอบสายไฟ ขั่วปลั๊กต่างๆ หลังจากไม่พบสิ่งผิดปกติ. เลยใส่กลับคืนทั้งหมด และเริ่มตรวจสอบระบบปัญหา พบว่า ระบบสื่อสาร CAN ขัดข้อง จนระบบอื่นที่เชื่อมต่อกันขัดข้องไปด้วย เมื่อหายแล้วผมเลยเอารถไปลองใช้ดูครับ
     ช่างบอกว่าเหตุการแบบนี้ไม่ค่อยเจอเหมือนกัน
    จากเคสนี้ช่างแนะนำว่าถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ ให้ขับรถออกจากบริเวณที่เกิด. ให้จอดรถดับเครื่อง ถอดขั่วแบตเตอรรี่ออกสักพัก เพื่อ รีเซ็ตระบบดูถ้าหายก็ให้ขับรถเข้าศุนย์บริการอีกครั้ง ถ้าไม่หายให้โทรติดต่อศูนย์บริการเพื่อให้ช่างแนะนำหรือช่วยเหลือครับ
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16ส.ค.2015, 21:35:31 โดย หนุ่มน้อย »

ออฟไลน์ หนุ่มน้อย

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 260
  • คะแนน Like 7
                                                            Controller Area Network  ( CAN – bus )


                                     รถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา ได้เริ่มนำระบบสื่อสารแบบ     CAN มาใช้ ซึ่งทำให้การ
สื่อสารระหว่างโมดูลต่างๆของระบบรถยนต์ เช่น Power train Control Module (     ระบบต้นกำลัง =
 เครื่องยนต์ ) , ระบบเบรก ABS , ระบบ SCS ( Stability Control System ) หรือ ESP (  Electronic
 Stability Program ) หรือ ระบบปรับสมดุลของช่วงล่างในสภาพถนนต่างๆ ,ระบบแอร์ แบค , ตลอดจน
ระบบเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งนับวันระบบ หรือ โมดูลต่างๆ ได้ถูกนำมาติดตั้งใช้งานในรถ   ยนต์กันมากขึ้น ดังนั้น
การติดต่อสื่อสารระหว่างโมดูลต่างๆ ต้องมีความรวดเร็วตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
ระบบ CAN เป็นคำตอบสำหรับสถาปัตยกรรมของรถยนต์สมัยใหม่ ด้วยการสื่อสารผ่าน Serial
Data Bus ของระบบสายไฟในรถยนต์
ด้วยคุณสมบัติที่ดีของ ระบบ CAN คือ ความเร็วในการสื่อสารของข้อมูล ดังนั้นจึง เหมาะที่ใช้ใน
รถยนต์ที่มีโมดูล ( ECU ) หลายๆกล่อง ได้แก่ Power train Control Module ( เครื่องยนต์ + เกียร์ ) ,
ABS ,AIR Bag , TPMS ( Tire Pressure Monitoring System ) , ESP (Electronic Stability Program )
CAN ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 1984 โดย Robert Bosch ในปี 1992 ได้นำไปใช้ในรถ Benz
หลายๆรุ่น ,ในปี 2008 เป็นต้นมา รถในสหรัฐได้ใช้ระบบ CAN เกือบทั้งหมดและนับจากนี้ไป CAN
Protocol ก็จะกลายโปรโตคอลที่สำคัญที่ใช้ในรถยนต์ทุกคัน
แม้ความเร็วในการสื่อสารของระบบ CAN จะสูง แต่สำรับระบบที่ไม่จำเป็นต้องการการ
ตอบสนองที่รวดเร็ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้โปรโตคอลนี้ ดังนั้นในรถยนต์คันหนึ่งก็มักพบว่ามีระดับความเร็ว
ในการสื่อสารหลายๆระดับอยู่ในคันเดียวกัน


Speed Class of Data Bus ( ความเร็วในการสื่อสารระดับต่างๆ )
1.Class A ความเร็วในการรับส่งข้อมูลน้อยกว่า 10 k bit / sec ( 10 kbps ) ระบบที่ใช้ได้แก่
กระจกไฟฟ้า , เบาะไฟฟ้า , ระบบล๊อคต่างๆ , รีโมท , ระบบไฟส่องสว่าง เป็นต้น
2.Class B ความเร็วในการสื่อสารอยู่ระหว่าง 10 – 125 kbps ซึ่งก็ได้แก่ Protocol ISO 9141 – 2
หรือ SAE J 1850 ( ใช้ในรถตระกูล Ford , GM และ ระยุโรป + ญี่ปุ่น ทั่วไป ) ระบบนี้จะมีความเร็ว
เพียงพอในการสื่อสารข้อมูลที่มีความซับซ้อน ได้แก่ ระบบเกียร์อัตโนมัติ , ระบบปรับอากาศ , ระบบ
Immobilize , ระบบอิเลคโทรนิคส์บริเวณแผงควบคุมต่างๆ เป็นต้น
3.Class C ทำความเร็วในการสื่อสารอยู่ที่ประมาณ 1 Mbps หรือ 1000 kbps หรือ ประมาณ 10
เท่าของ Class B แต่โดยทั่วไปจะใช้ที่ความเร็วประมาณ 500 Kbps ซึ่งมีความเร็วเพียงพอ สำหรับระบบ


Air Bag , ABS , Stability Control , Traction Control , Power Train Control Module ( ระบบต้นกำลัง
หมายถึง เครื่องยนต์ + เกียร์ เป็นหลัก )
4.Class D ความเร็วในการสื่อสารประมาณ 1 Mbps ใช้ในระบบ Onboard Entertainment เช่น
Video Streaming หรือ ระบบติดต่อสื่อสารกับดาวเทียม หรือ ระบบ Internet 3 G ที่อนาคตจะนำมาใช้
ในรถยนต์
โปรโตคอลที่มีความเร็วใกล้เคียงกับ CAN ได้แก่ SAE J 1939 , GMLAN , OBD 2 ,SAE J 1587
,LIN ซึ่งเป็นหน้าที่ของวิศวกรยานยนต์ที่จะเลือกใช้โปรโตคอลให้เหมาะสมกับยานยนต์นั้นๆ ซึ่งหากยนต์
นั้นๆ ต้องการความเร็วในการสื่อสารมากๆ การเลือกใช้ Fiber Optic แทนสายไฟธรรมดา อาจเป็นสิ่งที่
ต้องพิจารณาต่อไป
ในปี 1995 GM ได้เริ่มใช้โปรโตคอล Class B ที่มีความเร็วประมาณ 10.4 kbps หรือที่รู้จักในนาม
VPW ซึ่ง ณ เวลานั้นที่มีความเร็วเพียงพอในการสื่อสารระหว่าง Electronic module ต่างๆ ได้
ในปี 2004 GM ได้พัฒนามาใช้ GMLAN ( GM Local Area Network ) โดย GM LAN มี
ความเร็ว 2 ระดับคือ 33.33 kbps และ 500 kbps
GM LAN 33.33 Kbps ใช้สายไฟเส้นเดียวเป็น Bus ใช้ในระบบที่เกี่ยวข้องกับ Body รถยนต์ เช่น
ระบบไฟส่องสว่าง ,ประตู , กระจกไฟฟ้า เป็นต้น
ในขณะที่ GM LAN 500 Kbps จะใช้ใน Power train , Transmission , ABS และ Air Bag เป็น
ต้น
ระบบ 33.33 Kbps และ 500 Kbps จะติดต่อเชื่อมโยงกันด้วย Gateway Node
ยกตัวอย่าง 33.33 Kbps Bus หรือ Low Speed Bus คือ ระบบเพิ่มระดับความดังของเครื่องเสียง
ความเร็วรถยนต์และความเร็วรอบของรถยนต์ เพื่อชดเชยเสียงรบกวนจากการขับขี่ อย่างนี้เป็นต้น
กรณีของรถ Benz ก็เช่นกัน ได้มีการใช้ความเร็วของ Bus ในระดับต่างๆกันในรถคันเดียวกัน
ขึ้นอยู่กับ Application ที่ใช้ เช่น
ใช้ 500 Kbps หรือ High Speed Bus ( CAN – C ) ในระบบกำลัง ,ระบบเกียร์ , ระบบ ABS เป็น
ต้นใช้ 83 Kbps


หรือ CAN – B สำหรับ Body Control Module
รถ Benz บางรุ่นใช้ CAN – B Module ต่างๆถึง 30 Modules
ในปี 2002 Benz ใช้ CAN – B , CAN – C ในระบบจุดระเบิด ( EIS Module )
หลังจาก ปี 2002 Benz ใช้ CAN – D ( Speed มากกว่า 1 Mbps ) เป็น Gateway สำหรับติดต่อสื่อสาร
กับ Module ต่างๆ ( Inter – Module Communication ) รวมทั้งระบบ Onboard Diagnostic ด้วยที่ต้อง
ผ่าน CAN – D Gateway


การติดต่อสื่อสารระหว่างโมดูล
โมดูลต่างๆในระบบ CAN จะถูกจัดเป็น Node และมี Address ที่แน่นอน เมื่อแต่ละ Node
สื่อสารกันก็จะรู้ว่ามาจาก Node ไหน ด้วยการส่ง Code ของ Node นั้นๆ ไปด้วย ทำให้แต่ละ Module
หรือ Node รู้จักกัน
การสื่อสารข้อมูลจะส่งเป็นสัญญาณ digital หรือ 0, 1 คือ แรงดันไฟฟ้าระดับต่ำ คือ 0 และ
แรงดันไฟฟ้าระดับสูงคือ 1 ซึ่งจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ผู้ผลิตรถยนต์ แต่โดยทั่วไปจะใช้ค่าระหว่าง 5 ถึง 7
โวลต์
ข้อดีของระบบ CAN
1.มีความเร็วในการสื่อสารข้อมูล ทำให้การตอบสนองของแต่ละโมดูลมีประสิทธิภาพ และจำเป็น
อย่างยิ่งสำหรับบางระบบ เช่น ABS
2.รองรับ Video Streaming


3.สามารถใส่โมดูลต่างๆ เข้าไปได้มาก
4.มีสายไฟน้อยกว่า เพราะใช้ระบบ Network Cable หรือ Gateway
ข้อเสีย
1.จุดต่อของ Node ต่างๆ อาจหลวม หรือ เป็นสนิม ทำให้การติดต่อสื่อสารมีปัญหา
2.หาก Node หรือ Module มีการช๊อตลงกราวด์ก็อาจทำให้ระบบทั้งหมดล้มเหลวได้
3.กรณีระดับแรงดันไฟฟ้า ต่ำ – การติดต่อสื่อสารอาจล้มเหลวได้
4.กรณีแบตเตอร์รี่ไม่เพียงพอ หรือมีการถอดออก อาจทำให้ต้อง Set ค่า Module ใหม่ ติดต่อ
กับเครือข่ายได้ หรือเรียกว่าการทำ Relearn ใหม่ หรือ Re – establish
5.การถอดสายไฟ หรือ อุปกรณ์บางตัวไม่ทำงาน อาจทำให้ระบบนั้นล้มเหลวได้ เช่น ระบบปรับ
อากาศจะไม่ทำงาน หาก Step Motor ควบคุมการผสมอากาศเย็นกับ Heater ไม่ทำงาน รถยนต์คันนั้นก็
จะใช้ระบบปรับอากาศไม่ได้เลย เป็นต้น
การติดต่อสื่อสารของ Node ต่างๆ ใน Serial Bus นั้น หากมีปัญหาเกิดขึ้น ระบบ DTC หรือ MIL
ก็จะขึ้นโชว์และหากใช้เครื่องสแกนจับคู่ก็จะพบโค้ดที่ขึ้นต้นด้วย U เช่น U 1026 ของ GM คือ Loss of
communication between the controller and transmission controller หรือ การติดต่อระหว่างโมดูล
เครื่องยนต์กับโมดูลระบบส่งกำลังล้มเหลว
การตรวจสอบปัญหา ทำได้โดยการ
1.ตรวจระบบกราวด์ มีการช๊อตลงกราวด์หรือไม่
2.ตรวจระดับแรงดันไฟฟ้าอยู่ในมาตรฐานหรือไม่
3.ตรวจสอบสายไฟ
หากตรวจทั้ง 3 รายการแล้วไม่พบข้อบกพร่องใดๆ แสดงว่าโมดูลนั้นๆมีปัญหา ( ส่วนมากต้อง
เปลี่ยนใหม่ )


เนื่องจากระบบ CAN มีโมดูลต่างๆ ต่อพ่วงกันแบบเครือข่ายไว้มากมาย ดั้งนั้นแต่ละโมดูล
จำเป็นต้องมีระบบ Sleep Mode ในขณะที่ดับเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอร์รี่หมด ยกเว้นระบบ
ป้องกันขโมยที่ไม่มี Sleep Mode หรือ ระบบ Air Bag ที่ต้องใช้เวลาสักครู่หลังดับเครื่องยนต์ จึงจะเข้าสู่
Sleep Mode
ความจำเป็นของเครื่อง Scan Tool
จากสถิติในปี 2007 ที่ประเทศอังกฤษพบว่า อุบัติเหตุทางท้องถนน 182,115 ครั้ง เกิดจาก
-คนขับขาดความระวัดระวัง 50 %
-ความบกพร่องของรถยนต์ 25 %
-สภาพถนน ทัศนวิสัย 25 %
ซึ่งแน่นอน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถลด 25 % จากความบกพร่องของรถยนต์ลง
ได้ ด้วยระบบควบคุมที่ทันสมัย หรือระบบ Diagnostic ที่ใช้ในรถยนต์ และสิ่งจำเป็นต่อมา คือ เครื่องมือ
Scan Tool ซึ่งในอนาคตอาจจำเป็นต้องมีประจำรถด้วยซ้ำ
เครื่อง Diagnostic ประเภทต่างๆ ได้แก่
1.Diagnostic Tester สำหรับระบบตรวจสอบเครื่องยนต์ , เกียร์ , ABS , Air Bag , Electronic
device ต่างๆ
2.Coil and Plug Tester สำหรับตรวจสภาพของคอยด์จุดระเบิดและหัวเทียน
3.Battery Management and Tester สำหรับตรวจสอบสภาพแบตเตอร์รี่ , ชาร์จไฟฟ้า เป็นต้น
4.Air Condition Equipment and Tool ได้แก่ เครื่องมือเช็คการรั่วซึมของระบบแอร์ ,อุปกรณ์ซ่อม
บำรุงอื่นๆ เป็นต้น
5.Emission Analyzer อุปกรณ์ตรวจสอบการปลดปล่อยไอเสีย
6.Key Programming Tool อุปกรณ์ทำกุญแจสำรองแบบที่มีไมโครชิพ


7.Data Recorder อุปกรณ์บันทึกการขับขี่ หรือ บันทึกการทำงานของรถยนต์ ซึ่งในอนาคตจะมี
การนำอุปกรณ์
บันทึกข้อมูลเหมือนกล่องดำบนเครื่องบิน โดยบันทึกการขับขี่ตลอดจนสภาพต่างๆขณะเกิดการ
ชน ได้แก่ เวลา , ทิศทางการชน , ความเร็ว , ความรุนแรง ,อัตราเร่ง – หน่วง ,การเบรก เป็นต้น ซึ่งทำให้
การ Claim ประกัน หรือ การพิจารณาของผู้พิพากษาทำได้ง่ายขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11ส.ค.2015, 14:33:30 โดย หนุ่มน้อย »

ออฟไลน์ IIOUIISJ

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 185
  • คะแนน Like 1
  • NDC.406
  • จังหวัด: สระบุรี-พระนครศรีอยุธยา
  • ชื่อเล่น: โรจน์
สุดยอดเลยครับน้าหนุ่มน้อย ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้
All new D-max HR2.5 Z

ออฟไลน์ สันต์ ลำพูน [NDC.1119]

  • ไมล์ 2001-3000
  • *
  • กระทู้: 2923
  • คะแนน Like 81
  • สักวันหนึ่งเราจะโตเป็น V-cross
  • จังหวัด: ลำพูน
  • ชื่อเล่น: สันต์
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคับ
emo55 NDC.1119 4D hr 2.5 VGS Z DVD สีดำ emo55

ออฟไลน์ BOOM_HS4QGC

  • **HR 4D 2.5 VGS Z DVD **
  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 693
  • คะแนน Like 14
  • ความดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ให้ทำเอง
  • จังหวัด: ระยอง
  • ชื่อเล่น: NDC1812... น้าบูมครับ...
ต้องแอบอ่านแล้วข้อมูลดีๆแบบนี้ emo46 emo46

ออฟไลน์ jerasak

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 473
  • คะแนน Like 30
  • จังหวัด: ชลบุรี บางแสน
  • ชื่อเล่น: Tam
ผมก็เป็นอยู่ตอนนี้อาการเกียร์ at สะดุด ก่อนหน้านี้อยู่ดีๆหัวฉีดพัง ตอนที่หัวฉีดพังช่างรื้อดูสายไปแถวกล่อง ECU ว่ามีรอยขาดหรือเปล่า หลังเปลี่ยนหัวฉีดมารู้สึกว่ามีอาการเกียร์สะดุดและไม่มีแรงแต่ไม่เป็นตลอดเป็นแป๊บเดียวหาย ไฟก็ไม่มีโชว์ ไม่รู้ว่าช่างใส่สายดีหรือเปล่าตอนถอดสายไฟจากกล่องตอนซ่อมไม่ได้ถอดขั้วแบตเลย ยังไม่รู้จะเช็คตรงไหนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19ส.ค.2015, 16:40:58 โดย jerasak »

ออฟไลน์ วุฒินันท์

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 179
  • คะแนน Like 3
  • จังหวัด: นครศรีฯ
  • ชื่อเล่น: ตั้ม
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีคับ Thank you

ออฟไลน์ Pornchai.K

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 316
  • คะแนน Like 13
  • จังหวัด: สระแก้ว-ชลบุรี
  • ชื่อเล่น: ชัย
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลข้อมูลที่นำมาแชร์
Best regards
All New Isuzu D-Max Hi-lander Spacecab 2.5 VGS Z
NDC.1843

ออฟไลน์ thanoi32

  • ไมล์ 2001-3000
  • *
  • กระทู้: 2017
  • คะแนน Like 48
  • NDC.728
ขอบคุณมากครับ กลับข้อมูลดีๆ ได้นำมาแชร์กัน
NDC.728  ( HI-Lander Cab 4 2.5 VGS Z-Prestige i-GENii A/T เงินอาร์ติกส์ )

ออฟไลน์ หนุ่มน้อย

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 260
  • คะแนน Like 7
สรุปเป็นที่กล่อง ecu หลักครับ เคลมเปลี่ยนเรียบร้อย รถหายเป็นปกติแล้วครับ กล่อง ecu เสียตัวเดียวพา ระบบอื่นรวนไปหมดเลย

ออฟไลน์ SEKSAN047

  • NDC. Staff Team
  • ไมล์ 8001-9000
  • *
  • กระทู้: 12437
  • คะแนน Like 490
  • น้าเสก E24OQP Tel. 081-926-6369 NDC.158
  • จังหวัด: โซนตะวันออก ระยอง...
  • ชื่อเล่น: ใครๆก็เรียกผมว่า น้าเสก...
โอ้วว...ต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆเชิงลึกมากครับ สำหรับเกียร์ออโต้แร้วทุกท่านควรทำความเข้าใจเยอะเลย เท่าทีทราบมาคือระบบนี้จะติดต่อสื่อสารกับระบบไฟฟ้าของทุกส่วนของรถในปัจจุบัน เพราะถ้าหากเกิดความผิดปกติของส่วนใดส่วนหนึ่งมันก็จะฟ้องค่าต่างขึ้นมาเลย แต่เราก็ต้องมีตัวจับค่าว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร ในส่วนผู้ที่ใช้รถไม่มีก็ต้องเอาเข้าศูยน์ตรวจเช็คหาค่า เพื่อหาสาเหตุความบกพร่องนั้นๆเพื่อทำการแก้ไขต่อไป ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์มากครับ + 1 เลยครับ... emo1 emo64 emo35

น้าเสก รับติดตั้งท่อแทนแคท(ยูเลส) ตระแกรงกันหิน-กรองแอร์ อุด+ฝัง EGR (U.3 U.4) โทร.081-926-6369 ...ฮิ