ในช่วงหลายๆ ปีให้หลังมานี้ การเติมลมยางด้วยไนโตรเจนค่อนข้างเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และแพร่หลายมากขึ้นในกลุ่มผู้ใช้รถที่สนใจในนวัตกรรมใหม่ แต่ข้อดีและข้อเสียที่แท้จริงของการเติมลมยางด้วยไนโตรเจนยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับหลายๆ คน
แต่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติมลมยางด้วยไนโตรเจนถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีและน่าสนใจ เนื่องจากปกติการเติมลมไนโตรเจนเราจะพบได้แถวๆ ท่าอากาศยานหรือสนามแข่งเอฟวันเชียวนะ นั่นเท่ากับเป็นการการันตีถึงคุณภาพของมันได้เป็นอย่างดี
ไทยรัฐออนไลน์ขออาสาสรุปข้อดีปนข้อเสียของการเติมลมไนโตรเจนในยานยนต์ที่คลุกคลีอยู่กับเราในทุกเมื่อเชื่อวัน เพื่อจะเป็นตัวช่วยให้คุณๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าการเติมลมยางครั้งต่อไปควรเลือกแบบไหนกันดี
ข้อดีมีมากมายแล้วแต่ใครจะสนใจ
1.ไนโตรเจนสามารถรักษาสภาวะอุณหภูมิของตัวเองได้ค่อนข้างดี ทำให้ยามที่ต้องใช้รถระยะทางไกลค่อนข้างมีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่ายางจะไม่ระเบิดเพราะแรงดันและความร้อนที่มากจนเกินรับไหว แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย เพราะสภาพของยางเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใดนะจะบอกไว้
2. ในทางวิทยาศาสตร์เขาว่ากันว่าไอ้เจ้าไนโตรเจนเนี่ยมันมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นการที่มันจะซึมออกมาจากยางจึงค่อนข้างยากกว่า ทำให้ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบลมยางบ่อยๆ จากอาทิตย์ละครั้ง อาจกลายเป็นเดือนละครั้ง มันจึงเหมาะสมกับคุณสุภาพสตรีนักขับซะจริงเชียว
3.เมื่อมันมีแรงดันและอุณหภูมิภายในยางค่อนข้างคงที่อย่างเหมาะสมยาวนานกว่าเดิม ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่อัตราการสวาปามน้ำมันจะลดลงตามไปด้วย เพราะโดยปกติเมื่อลมยางอ่อนลง การหมุนของล้อจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ในขณะที่อุณหภูมิก่อให้เกิดแรงเสียดทาน ทำให้เครื่องยนต์ต้องแบกภาระและเป็นสาเหตุให้รถเกิดอาการซดน้ำมัน
4. การสั่นสะเทือนลดลง หรือนุ่มขึ้นตามภาษาชาวบ้าน เพราะไนโตรเจนมีการขยายตัวน้อยกว่าทำให้เมื่อล้อหมุนเป็นระยะทางไกล ไนโตรเจนยังรักษาระดับแรงดันไม่ให้ขยายตัวดันจนยางแข็งเกินไป
5. ยืดอายุการใช้งานของยางได้มากขึ้น เนื่องจากไนโตรเจนไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับเนื้อยาง ซึ่งเป็นสาเหตุของการผุกร่อนและเสื่อมสภาพ ทำให้ยางรถยนต์สามารถอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ยืนยาวกว่าเดิม
ข้อเสียย่อมมีอยู่จริง
1. การเติมลมยางไนโตรเจนแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก ราคาหลักร้อยจนถึงหลายร้อยบาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องเติมลมของแต่ละร้านที่ให้บริการ ยิ่งทันสมัยมากยิ่งราคาแพง
2. ร้านที่ให้บริการยังค่อนข้างหายากมาก และแต่ละร้านอยู่ห่างไกลกัน ทำให้ในบางครั้งต้องใช้เวลาในการเดินทางไปยังร้านต้องมีเวลาเหลือเฟือทีเดียวเพื่อนำรถไปเติมลม ซึ่งข้อนี้ต่างจากการเติมลมแบบเดิมที่สามารถหาเติมได้ตามปั๊มน้ำมันทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
3. บางครั้งเครื่องเติมลมไนโตรเจนของร้านอาจไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถแยกออกซิเจนออกจากไนโตรเจนได้ทั้งหมด ทำให้เกิดการปะปนเข้าไปข้างในยาง ทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ในขณะที่เราต้องเสียค่าบริการเต็มๆ
ทุกสิ่งบนโลกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่าจะเต็มใจมองเห็นข้อไหนมากกว่ากัน เมื่อตัดสินใจกันได้แล้ว ในการเติมลมครั้งต่อไปก็เลือกตามอัธยาศัยกันได้เล๊ยยยย..
ขอบคุณที่มา
http://www.thairath.co.th/content/life/275760 ^
^
^
^