ผู้เขียน หัวข้อ: เคล็ดลับน่ารู้เรื่องรถ – จะติดฟิล์มกรองแสง แบบไหนถึงจะดีและคุ้มค่า (ก๊อปมาให้อ่านนะ)  (อ่าน 1112 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ rcom832

  • กำลังสะสมไมล์
  • *
  • กระทู้: 17
  • คะแนน Like 0
วันนี้ได้ไปอ่านเจอบทความดีๆ เกี่ยวกับฟิล์มกรองแสง อ่านแล้วต้องบอกเลยครับว่าเนื้อหาดีมากๆ ก็เลยนำมาบอกเล่าเรื่องฟิล์มกรองแสง ติดรถยนต์สู่กันฟังว่า ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่เราๆ ท่านๆ ติดกันอยู่และกำลังจะไปติดเนี่ย จะติดแบบไหนดีสิ่งสำคัญที่สุดคือ ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ารถใช้เองไหม รถอะไร ถ้าใช้เองและคุณอยู่กับรถทั้งวันก็แนะนำให้ติดบานหน้าเต็มไปเลย เพราะการกันความร้อนต่างกับการติดหน้าคาดมาก ยิ่งแดดบ้านเราตอนนี้ เผาแขน และ ขาเวลาขับรถอยู่ด้วย แต่หากไม่ได้ขับทั้งวันก็ติดแบบหน้าคาดก็ได้ ก็แล้วแต่ว่าจะคาดมากคาดน้อยนะครับ

และในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า บางค่ายจะผลิตฟิล์มหลายเบอร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อตอบสนองความต้องการของท่านผู้ใช้ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้เราได้เลือกใช้กันตามความพอใจ ฟิล์มติดรถยนต์ในปัจจุบันก็จะแบ่งออกเป็น

ฟิล์มมืด – วัยรุ่น เน้นมีความลับเยอะ ป้องกันคนมองเห็นของมีค่า ซ่อนกิ๊ก ฯลฯ
ฟิล์มปรอท – สะท้อนแสง เข้าตาชาวบ้าน รถดูใหม่ขึ้น ใช้แทนกระจกได้ สะท้อนความร้อนได้ดีเพราะมีปรอท
ฟิล์มใส – เน้นขับกลางคืน สบายตา โปร่งใส คนขับสวย-หล่อ (โชว์) รถราคาแพง (ไม่รู้ทำไม รถที่เข้ามาติดมักจะเป็นพวก SUV)
สีของฟิล์ม- อมเชียว สีชา สีฟ้า สีใส สีดำ ฯลฯ
ราคา- เน้นถูกจะดีมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้เวลาในรถนาน หรือฟิล์มที่เน้นคุณภาพ ถ้าแบบนี้ก็จะราคาแพงขึ้นมานิดหน่อยครับ ก็แล้วแต่ความพอใจกันนะครับ

เราลองมาดูคำถามพร้อมกับคำตอบที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะถามหรือคิดกันกับ 7 ข้อสงสัยไปกับฟิล์มกรองแสง

1Q : ฟิล์มดำป้องกันความร้อนดีกว่าฟิล์มใส?
1A : ไม่ใช่ อยู่ที่วัสดุที่นำมาบีบอัด และสารปรอทสะท้อนแสง(ปรอท) เทคนิควิธีต่างๆ ที่พัฒนาขึ้น ฟิล์มดีบางยี่ห้อ ยังสู้ฟิล์มถูกๆ ไม่ได้เลย ของแบบนี้ต้องใช้เครื่องมือ และมือสัมผัสความร้อนเองโดยตรง

2Q : ฟิล์มหน้าเต็มกับหน้าปกติ(คาดบน) ต่างกันอย่างไร?
2A : แน่นอน การติดฟิล์มบานหน้าเต็มจะป้องกันความร้อนที่แผดเผาเข้ามาได้ดีกว่า ฟิล์มคาดบน ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะต้องใช้ฝีมือในการติด (แผ่นเดียวทั้งบาน ไม่มีการต่อฟิล์ม) อุปกรณ์ที่ใช้ สถานที่ติดตั้ง เฉพาะบานหน้าก็ราคาหลักพันขึ้นทั้งนั้นครับ

3Q : ทำไม บานหน้าถึงใสกว่าบานข้าง?
3A : ปกติแล้ววิสัยทัศน์การมองของเราขับรถในยามค่ำคืน โดยไม่ติดฟิล์มก็เป็นอันตรายอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องสายตาด้วยแล้วละก็ อาจจะก่อให้เกิดอุบัตติเหตุได้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องติดบานหน้าให้ใสกว่าครับ แต่ถ้าจะติดมืดก็ติดได้ครับแต่ไม่แนะนำ

4Q :  เรื่อง เปอร์เซนต์ของฟิล์มมีแบบไหนบ้าง และใช้อย่างไร?
4A : เริ่มต้นที่ 20%-40% จะใสเหมาะแก่การติดบานหน้าเต็ม / 60%-80% เหมาะแก่การติดด้านข้าง+หลังครับ

5Q : ฟิล์ม ปูด ร่อน พอง เป็นจีบ เคล็มได้ไหมถ้าอยู่ในประกัน?
5A : ได้ครับถ้าอยู่ในประกัน ฉะนั้นตอนที่เราไปติดกับร้านค้าต้องไม่ลืมที่จะตกลงกันในเรื่องของรายละเอียดที่อยู่ในการประกันฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์

6Q : การ รับประกันฟิล์ม ส่วนใหญ่จะอยู่ที่กี่ปี?
6A : โดยส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ 5 - 7 ปี

7Q : ฟิล์ม เป็นเม็ดๆ เกิดจากอะไร?
7A : ฝุ่นละอองครับ เรื่องนี้ความจริงไม่อยากตอบเลย เพราะฟิล์มเป็นเม็ดนั้นเกิดขึ้นทุกคัน อยู่ที่ว่าจะมาก น้อยแค่ไหน ถ้าเจอลูกค้าที่เนี๊ยบๆ หน่อยนะ ร้านค้าพูดไม่ออกครับ ต้องเปลี่ยนให้อย่างเดียว แต่ๆๆ จะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เกิดเม็ดน้อยที่สุด ก็คือ ติดฟิล์มในห้องปิดที่สะอาด หรือ ห้องแอร์ก็ดี แต่เชื่อไหมว่า มันก็ยังอาจจะเป็นเม็ดหลงเข้ามาอยู่ดี

เอาละครับหวังว่าบทความดีๆ นี้คงเป็นประโยชน์ก่อนการตัดสินใจในการเลือกฟิล์มติดให้กับรถยนต์ที่เรารัก ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ครั้งหน้าถ้ามีเรื่องราวหรือบทความดีๆ ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ.

เคดิต : ด็อกเตอร์คาร์  doctor.cars@hotmail.co.th (http://www.carlink24.com/th)

ออฟไลน์ Pragrit Ch

  • กำลังสะสมไมล์
  • *
  • กระทู้: 49
  • คะแนน Like 0

ออฟไลน์ Nesteen

  • ไมล์ 301-600
  • *
  • กระทู้: 456
  • คะแนน Like 8
  • Phetburi Zone
  • จังหวัด: Phetburi-Samutsongkram
กำลังหาข้อมูลเรืองนี้พอดีเลย  emo35