เจ้าหน้าที่เผยว่า เจ้าของบ้านสองคน ไม่ยอมย้ายออก เนื่องจากไม่พอใจข้อเสนอเรื่องค่าชดเชยของทางการ ทำให้พวกเขามีสิทธิถูกต้องตามกฎหมายจนกว่าจะได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจ_______________________________________
สองสามีภรรยาชาวจีน อาศัยอยู่ในบ้านขนาด 10 ห้องหลังหนึ่ง
แต่บ้านหลังนี้ไม่ธรรมดา เนื่องจากตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางถนนตัดใหม่
สายหนึ่งที่เมืองเหวิ่นหลิง มณฑลเจ้อเจียง
เจ้าหน้าที่เผยว่า เจ้าของบ้านสองคน ไม่ยอมย้ายออก เนื่องจากไม่พอใจข้อเสนอ
เรื่องค่าชดเชยของทางการ ทำให้พวกเขามีสิทธิถูกต้องตามกฎหมายในการอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
จนกว่าจะได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจ
เมื่อปี 2008 มากกว่า 500 ครอบครัวเริ่มย้ายออกจากบริเวณดังกล่าว
เนื่องจากถูกเวนคืนที่เพื่อสร้างถนนสายใหม่ แต่ทั้งสองกลับไม่ยอมเซ็นรับข้อเสนอของทางการ
เนื่องจากเห็นว่าค่าชดเชยการเวนคืนไม่เหมาะสม
นายหลิว เป่าเหงิน เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ทางการจ่ายค่าชดเชยเพียง 260,000 หยวน
(ราว 1.3 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านหลังใหม่
ด้านนายหลิน ซูฟาง รองผู้ว่าการเขตต้าซี ซึ่งดูแลเรื่องการทุบทำลายบ้าน กล่าวว่า
เงินชดเชยดังกล่าวมีความเหมาะสม เนื่องจากคำนวณจากค่าเฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 330 หยวน
ซึ่งมากกว่าค่าชดเชยมาตรฐานที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดถึง 30 หยวน
และหากว่าต้องจ่ายให้ครอบครัวของนายหลิวมากกว่าครอบครัวอื่น
ทางการอาจถูกมองว่าไม่มีความยุติธรรม
เจ้าหน้าที่ได้ไปเยี่ยมเยือนนายหลิวและภรรยาบ่อยครั้ง นับตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว
เพื่อพยายามเกลี่ยกล่อมและชักจูงให้เขาและภรรยายอมย้ายออกจากบ้าน
เนื่องจากโครงการตัดถนนเพื่อเชื่อมสถานีรถไฟล่าช้าออกไปไม่ได้อีก
นายหลินเผยว่า หากนายหลิวยังคงปฏิเสธ ทางการก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตัดถนนในลักษณะเช่นนี้
ทำให้นายหลิวยังคงเป็นบ้านเพียงหลังเดียวในย่านนี้ที่ยังไม่ยอมไปไหน
แม้ลูกชายของเขาจะย้ายออกไปแล้วก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งเผยว่า
โครงการตัดถนนของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เนื่องจากเป็นการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน
รัฐบาลจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อเดินหน้าโครงการต่อไป