ผู้เขียน หัวข้อ: การใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง (ก็เจอมาอีกนั่นแหละ เลยเอามาฝาก)  (อ่าน 1678 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ขั้นเทพ

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 171
  • คะแนน Like 6
เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันอากาศในเมืองไทยมี อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ และความร้อนนี้...



โดย DBC.


เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันอากาศในเมืองไทยมี อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ และความร้อนนี้ยังส่งผลต่อระดับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารของรถยนต์ ดังนั้นเพื่อลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยสาร เครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องทำงาน หนัก สำหรับรถใหม่เครื่องปรับอากาศยังใช้งานได้ดี แต่เมื่อใช้ไปเป็นเวลานาน (ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพการใช้งาน) ประสิทธิภาพในการให้ความเย็นจะลดลง ดังนั้นผู้ใช้รถจึงควรรู้จักวิธีใช้ และการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อ ถนอมและรักษาอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ให้ยาวนานที่สุด


วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง


1. ทุกครั้งก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรตรวจดูสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ว่าอยู่ใน ลักษณะใด เปิดหรือปิด ถ้าหากเปิดอยู่ให้กดปิดเสียก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้ คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ท


2. เมื่อเครื่องยนต์ติดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดสวิตช์พัดลมของเครื่องปรับอากาศก่อน โดยปรับไปที่ตำแหน่ง ความเร็วสูงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อไล่ลมร้อนจากช่องปรับอากาศ หลังจากนั้นจึงเปิดสวิตช์ ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ปรับสวิตช์ที่ใช้ปรับระดับความเย็นไปที่ตำแหน่งเย็นสุด แล้วจึง ปรับสวิตช์ควบคุมความเร็วของพัดลม และสวิตช์ควบคุมระดับความเย็นลงสู่ตำแหน่งที่สัมพันธ์กับ อุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามต้องการ


3. เมื่อเลิกใช้งานก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ ควรปิดสวิตช์คอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ก่อนเพื่อหยุดการทำ งานของคอมเพรสเซอร์ แต่ยังคงเปิดสวิตช์พัดลมแอร์ไว้ในตำแหน่งที่แรงสุดเพื่อให้พัดลมแอร์เป่าลม ผ่านตัวคอยล์เย็น หรือที่รู้จักกันดีว่า “ตู้แอร์” ซึ่งตัวคอยล์เย็นนี้จะมีสภาพที่เปียกชื้น และมีหยดน้ำมา เกาะอยู่ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงาน และเพื่อเป็นการไล่ความชื้นออกจากตัวคอยล์เย็นให้เร็วขึ้น วิธี นี้เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความอับชื้นซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่น เหม็นอับ รวมทั้งยังช่วยยืดอายุ การใช้งานของตัวคอยล์เย็นให้ผุกร่อนช้าลงกว่าเดิม ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น


สำหรับปัญหาการเกิดกลิ่นอับที่ออกมาจากช่องปรับ อากาศสามารถแก้ไขได้โดย จอดรถในที่โล่งแจ้งที่แดดส่องได้อย่างทั่วถึง จากนั้นเปิดประตูรถให้หมดทุกบาน จอดรถตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่ากลิ่น อับจะจางหายไป แต่ถ้ากลิ่นอับยังคงรุนแรงเหมือนเดิม ควรนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน

ออฟไลน์ ตั้ม รามอินทรา

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 297
  • คะแนน Like 1

ออฟไลน์ galumdok

  • ไมล์ 50-100
  • *
  • กระทู้: 61
  • คะแนน Like 2
  • รถเค้ามีไว้ใช้ ไม่ใช่จอดโชว์
ทุกทีปิดพัดลมเลย เพิ่งรู้ว่าต้องปิด a/c ก่อน emo42
all new hi-lander cab 4 3.0 z-p ขาวมุก
d-max hi-lander cab 4 3.0  บลอนเงิน
golden power 2.5 บลอนทอง

ออฟไลน์ m_hilander

  • กำลังสะสมไมล์
  • *
  • กระทู้: 25
  • คะแนน Like 0

ออฟไลน์ Panak_K

  • ไมล์ 6001-7000
  • *
  • กระทู้: 6715
  • คะแนน Like 251
  • อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้าไม่ตายก็หาใหม่ได้
สถานะ : Hi-Lander 4D 3.0 VGS Z-Prestige M/T เงินอาร์กติก

ออฟไลน์ fusion

  • ไมล์ 101-300
  • *
  • กระทู้: 280
  • คะแนน Like 14
ขอบคุณครับ.สำหรับข้อมูลดีๆครับ.

ออฟไลน์ tom47

  • ไมล์ 601-1000
  • *
  • กระทู้: 735
  • คะแนน Like 22
  • ช่างกลนนทบุรี 47 NDC.467