ขอความเป็นธรรม การขายรถของศูนย์อีซูซุแสงหงส์ฉะเชิงเทรา
โดย phungnon » 24 มิ.ย. 2013, 22:53
เรื่องที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ รวมระยะเวลาร้องเรียนแล้วเกือบ 1 ปี ได้ทำการรองเรียนไปที่ศูนย์ตรีเพชร แต่ได้รับคำตอบว่า การบริการด้านการขายและ โปรโมชั่นต่างๆ ตรีเพชรไม่ได้รับผิดชอบดูแล จะดูแลเรื่องของตัวรถเมื่อมีปัญหาเท่านั้น ทำได้เพียงส่งเรื่องไปที่ศูนย์ที่กำกับดูแล
ปัจจุบันเรื่องนี้ ถึงขั้นต้องขึ้นศาลอยู่ในระหว่างการนัดสืบพยาน อยากทราบว่าลูกค้าที่ซื้อรถและปัจจุบันยังคงใช้รถคันที่มีปัญหานี้ บริษัทอีซูซุสามารถให้เซลล์ที่มีพฤติกรรมแย่ๆ มาต่อสู้กับบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกค้าได้เพียงนี้หรือ
เรื่องราวนี้เกิดเมื่อประมาณเดือนเมษายน ปี 2555 พ่อและแม่คิดที่จะซื้อรถกะบะตอนเดียว เพื่อมาดัดแปลงเป็นรถรับส่งนักเรียน ตัวเลือกตอนนั้นมีแค่โตโยต้า กับอีซูซุ โดยมีระยะเวลาและของแถมต่างๆ มาเป็นสิ่งตัดสินใจ และพ่อได้ตัดสินใจซื้อที่ศูนย์อีซูซุแสงหงส์ฉะเชิงเทรา เนื่องจากญาติแนะนำเซลล์ที่เป็นญาติห่างๆของพ่ออีกที พ่อได้โทรหาเซลล์คนนั้น และสอบถามว่าสามารถหารถได้ภายในสิ้นเดือน พ่อและแม่ได้เดินทางไปที่ศูนย์และเซลล์คนดังกล่าวได้ออกมาต้อนรับ พร้อมทั้งบอกราคารถ รายละเอียดของแถม และเสียเงินจอง 3,000 บาท โดยที่เซลล์ได้เขียนรายละเอียดของแถม โดยเขียนใส่กระดาษ A4 ธรรมดาไม่ใช่แบบฟอร์มใดๆของทางศูนย์ และถามพ่อว่าจะใช้เงินดาวน์เท่าไหร่ดี พ่อตอบไปว่า 85,000 บาทแล้วกัน จากนั้นเซลล์คำนวณเงินผ่อน ว่าประมาณ 8,199 บาท โดยที่ไม่ได้เขียนอัตราดอกเบี้ยไว้ และไม่ได้เขียนรายการหักใดๆ
วันมารับรถ พ่อและแม่ได้นำเงินดาวน์ที่เหลือมาจ่าย เซลล์ออกใบเสร็จที่เป็นรูปแบบของศูนย์ให้ 2 ใบ ใบแรกเขียนช่องรายการว่า เงินจอง 3,000 บาท ใบที่สองไม่เขียนรายการใดๆ ลงแต่จำนวนเงิน 82,000 บาท และแนบกระดาษใบเล็กๆให้โดยเขียนระบุว่า เงินดาวน์ 85,000 บาท ผ่อนเดือนละ 8,199 บาท ยื่นให้แม่ แม่ได้ถามไปว่า ออกรถได้เอกสารเท่านี้หรือ เซลล์ตอบไปว่า เดี๋ยวจะมีเอกสารตัวจริงตามไปให้ที่บ้านน้า แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อเพราะไว้ใจกันและไม่ทราบว่าวันที่มารับรถ ปกตินั้นจะต้องได้ใบปล่อยรถ ใบรับรถ ที่เป็นแบบฟอร์มของศูนย์ (ซึ่งเอกสารพวกนี้ได้รับทีหลังจากการที่ทางเราขอเพื่อนำมาประกอบการยื่นรถคันแรก และหลังจากเป็นเรื่องร้องเรียนในเดือนพฤศจิกายน 2555)
จนกระทั่งวันทำสัญญา เจ้าหน้าที่ของธนชาติมาทำที่บ้าน โดยสัญญาไม่มีการพิมพ์จำนวนเงินที่ช่องใดๆ เลย มีเพียงยี่ห้อ และสีรถ โดยสีรถยังพิมพ์มาเป็นสีขาว โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าจะกลับไปแก้ไขให้ได้ พร้อมทั้งบอกแม่ให้ทำประกันเพิ่ม บอกว่าต้องทำเป็นเงื่อนไขบังคับของธนาคาร แม่ถามว่าไม่ทำได้มั๊ย เจ้าหน้าแจ้งว่าไม่ได้ และแจ้งว่าไม่ได้เสียเงินแต่จะหักเป็นรายเดือนรวมไปกับค่างวดรถ เพิ่มเดือนละประมาณสองร้อยกว่าบาท แม่จึงบอกตกลง
เวลาผ่านไปเกือบเดือนมีเอกสารการทำสัญญาฉบับที่เจ้าหน้าที่ของธนชาติมาทำให้ส่งมาทางไปรษณีย์ แม่เปิดดูและพบว่า เงินดาว์นเหลือเพียง 37,700 บาท เรื่องราวร้องเรียนกับศูนย์อีซูซุแห่งนี้จึงเกิดขึ้น ดังต่อไปนี้
เช้าวันต่อมา เราสามคนพ่อแม่ลูก เดือนทางไปที่ศูนย์อีซูซุแสงหงส์ฉะเชิงเทรา เพื่อไปสอบถามรายละเอียดกับเซลล์ แล้วคำตอบที่ได้รับคือ เงินไม่ได้หายไปไหน ถูกหักไปเป็นค่า
- ประกันชั้นหนึ่ง 17,000 บาท
- พรบ. 900 บาท
- ของแถมไม่ได้แถมนะ เราขายเป็นแพคเกจ 12,800 บาท
- ค่าทะเบียน 3,000 บาท
- ประกันที่ทำกับธนชาติ 12,466 บาท
พ่อและแม่งงมาก ย้อนกลับไปว่า วันนั้นไม่ได้พูดแบบนี้ ไม่ได้บอกเลยว่านำเงินดาวน์มาหัก บอกมาชัดเจนว่าเป็นของแถม ทั้งหมดที่เขียนเป็นของแถมนะ เราเองก็พยายามสงบอารมณ์และบอกว่าพี่จะทำยังไงได้บ้าง จะให้ได้ไหม เค๊ายืนยันว่า สิ่งที่ทำถูกต้องและที่ไหนๆทั่วประเทศก็ทำแบบนี้ พร้อมทั้งบอกว่าถ้าไม่เอา เค๊ายินดีเอา รถไว้ใช้เองแต่จะติดเรื่องโอนกันว่าจะยังโอนไม่ได้ตอนแรกนะ และเสนอมาว่า ค่าทำป้ายทะเบียนป้ายฟ้า เค๊าจะออกให้ ประมาณ 3,500 บาท เราเลยพูดไปว่า พ่อและแม่ถึงแม้จะคิดเงินงวดไม่เป็น ด้วยความไว้ใจที่เป็นญาติกัน ไม่เคยสงสัยเลยว่าเอกสารที่เขียนให้ผิดปกติ เพราะเวลาออกรถเค๊า ต้องระบุในแบบฟอร์มของศูนย์ชัดเจน ว่าอะไรแถม หรือไม่แถม หักค่าอะไรบ้าง ดอกเบี้ยประมาณเท่าไหร่ เหลือเป็นเงินดาวน์เท่าไหร่ ในเมื่อคุณเขียนชัดเจน ว่า “เงินดาวน์ 85,000” ลูกค้าที่ไหนก็เข้าใจแบบนี้ และเชื่อว่า พ่อและแม่ไม่มีทางได้ยินผิดแน่ ที่คุณพูดว่า ทั้งหมดนี่แถมนะ เราเลยบอกไปว่า งั้นขอคิดดูก่อน แล้วจะโทรมาให้คำตอบ
จนกระทั่งนำเอกสารทั้งหมดส่งมาร้องเรียนที่ศูนย์อีซูซุตรีเพชร เราต้องโทรตามความคืบหน้าเองจากทั้งที่ตรีเพชร จากเจ้าหน้าที่ของธนชาติที่หักประกันไปกว่าจะยอมรับว่าหักเงินไปจริงๆ และจะทำเอกสารมาให้ใหม่ โทรตามผู้จัดการศูนย์อีซูซุแสงหงส์ฉะเชิงเทรา กว่าจะมีการนัดมาคุยกันกับเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยที่มาจากสุวรรณภูมิ โดยการพูดคุยไกล่เกลี่ยไม่ได้ตามที่เราร้องเรียนไป เพราะเจ้าหน้าที่ของอีซูซุทั้งเซลล์ ผู้จัดการศูนย์ เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยจากสุวรรณภูม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเอกสารที่เซลล์ขายรถให้เลย เอกสารใบเสร็จที่เขียนว่าเงินดาวน์ เอกสารรายการแถมถ้าไม่ได้แถมแล้วคงไม่มีเซลล์คนใดเขียนให้ดูเฉยๆ เอกสารใบรับรถไม่ให้ลูกค้า ทั้งยืนยันว่าการขายไม่มีของแถมอยู่แล้ว เซลล์คนดังกล่าวปฏิบัติตามเงื่อนไข เพียงแต่อาจจะชี้แจงไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน
โดยเฉพาะผู้จัดการศูนย์แสงหงส์ฉะเชิงเทรา เราโทรถามความคืบหน้าทางโทรศัพท์ ได้รับคำตอบว่า “ทางเราได้ลงโทษโดยการเรียกเซลล์มาตักเตือน และถ้าเกิดเรื่องร้องเรียนแบบนี้อีกครั้งคงต้องโดนไล่ออก คุณจะเอาเรื่องเซลล์เค๊าถึงไหนกัน” เรางงมากๆ ตอบไปว่าเราร้องเรียนขอเงินดาวน์คืน ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติม การที่คุณลงโทษเซลล์โดยการตักเตือน แต่ไม่ยินยอมคืนเงินให้เรา ถือว่าถูกต้องแล้วใช่ไหม
ทางเราเห็นว่าการร้องเรียนกับอีซูซุคงไม่เกิดผล จึงส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ สคบ. และได้รับการติดต่อจาก สคบ. ว่าถ้าศูนย์อยู่ต่างจังหวัดจะไม่สะดวกในการเดินทางมาไกล่เกลี่ย ขอส่งเรื่องไปที่ สคบ. จังหวัดฉะเชิงเทรา รอประมาณเกือบสองเดือน ต้องโทรไปสอบถามที่ สคบ. จังหวัดฉะเชิงเทรา บอกว่ากำลังส่งเรื่องไปที่เทศบาลฉะเชิงเทรา และนัดวันมาไกล่เกลี่ย วันที่มาไกล่เกลี่ยไม่สามารถตกลงกันได้ เทศบาลจึงแนะนำให้ติดต่อ สคบ. จังหวัดอีกครั้ง เพื่อนำเรื่องส่งต่อไปร้องเรียนที่ศาลเพื่อผู้บริโภค เพราะศาลจะสามารถดำเนินการตัดสินได้
เราจึงนำเอกสารทั้งหมดที่ร้องเรียน มาที่ศาลเพื่อผู้บริโภค ได้รับคำแนะนำ และคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ค่อนข้างดีมาก และพี่เจ้าหน้าที่ที่ศาลยังได้แสดงความคิดเห็นว่า กรณีแบบนี้ยังไงเซลล์ก็ทำไม่ถูกอยู่แล้ว และเอกสารที่มีนั้นก็พอที่จะมีเหตุมีผลอยู่ และจะส่งเรื่องไปตามขั้นตอน คือ ติดต่อเซลล์ที่ศูนย์เพื่อไกล่เกลี่ยอีกรอบ ปรากฏว่าตอนนี้ เรื่องอยู่ในขั้นตอนของการขึ้นศาลเพื่อรอสืบพยาน เนื่องจากศูนย์ไม่มาไกล่เกลี่ย และขอต่อสู้คดี ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นกระบวนการขายที่ถูกต้อง
ทางเราต้องกลับมาหาทนาย เพื่อเตรียมต่อสู้โดยความรู้สึกตอนนี้คือ สงสารพ่อและแม่มากที่ต้องมาเจอกับบริการของเซลล์ที่แย่ และต้องทนใช้รถที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ต้องมาเสียสุขภาพจิตเสียเวลา เสียเงินหาทนายเองทั้งๆ ที่เป็นคดีเพื่อผู้บริโภค ที่สำคัญในเอกสารต่อสู้ของศูนย์และเซลล์มีการบอกไว้ว่า ถ้าเราแพ้คดีต้องชดใช้ค่าทนายและค่าธรรมเนียมให้ด้วย
ขอความเป็นธรรมจากผู้บริหารระดับสูงของอีซูซุ ว่าในกระบวนการร้องเรียนของลูกค้านั้น ท่านได้ให้ความสำคัญ ติดตามหาข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด และที่สุดแล้วสามารถต่อสู้กลับกับบุคคลซึ่งถือเป็นลูกค้าท่าน โดยการเรียกค่าเสียหายกับลูกค้า ทั้งๆ ที่ปัจจุบันยังคงใช้รถอีซูซุคั้นนี้อยู่
ขอความเป็นธรรมกับธนาคารธนชาติ เนื่องจากเซลล์ที่มาทำสัญญา และมีปัญหามาก่อนหน้านี้ สามารถมาเป็นพยานให้อีซูซุในการต่อสู้กับบุคคลซึ่งได้ชื่อว่าเป็นลูกค้าธนาคารท่านในปัจจุบัน ก็ยังคงจ่ายค่างวดกับธนาคารธนชาติอยู่
ทางครอบครัวเราพร้อมที่จะขึ้นศาลในวันที 31 ก.ค. 56 เพราะเพียงเพื่อขอความเป็นธรรมกับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกค้า และเป็นผู้บริโภค และเชื่อในความจริงและความถูกต้อง
(ขอบคุณข้อมูลจาก..........สมาคมคนขับอีซูซุ - ISUZUCLUB.COM)
..............................................................
อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อยใจกับกลโกงของเซลล์
อยากบอกว่าเจอมากับตัวเองแบบนี้เลย
แถมน่าจะหนักกว่าด้วย
รถปอซื้อแพงกว่าชาวบ้านเค้า 12,000 (เกลียดเซลล์บางคน)