ออกตัวเกียร์ 2 เครื่องดับครับ

[cezero]

นอกจากจะเปลืองคลัชแล้วยังกินน้ำมันเยอะกว่าอีกด้วย เกียร์1ดีกว่าคับน้า

ขอแก้นิดนึง คือออกตัวเกียร์ 2 ผมว่าประหยัดน้ำมันกว่าออกเกียร์ 1 นะ เพราะว่า สมมติ เกียร์ 1 ออกตัวแล้วรอบวิ่งไปที่ 2000 แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น เกียร์ 2 3 4 5 ตามลำดับ แต่ถ้าออกเกียร์ 2 รอบวิ่ง 2000 แล้วเปลี่ยนเกียร์ 3 4 5 มันจะประหยัดกว่า ตรงที่ไม่ต้อง เร่งเครื่อง 4 ครั้ง ถึงจะได้เกียร์ 5 แ่ต่ ถ้าออกตัวเกียร์ 2 ก้อจะเร่งเครื่อง 3 ครั้ง ถึง เกียร์ 5 แต่ไม่ว่ายังไง สุดท้ายก็อยุ่ที่เท้าเรา และ เทคนิคของแต่ละคน เลยครับ 

ปล. ผมทดสอบ ออกตัวเกียร์ 1 แล้วดูที่หน้าปัด (ไม่ได้วัดที่เติมน้ำมันเติมถัง) วิ่ง 80 กม. ในเมือง 3 ครั้ง ผลออกมาใกล้เคียงกันเฉลี่ยที่ 8.9 แล้วลองออกตัวเกียร์ 2 วิ่ง 80 กม. เท่ากัน ทดสอบ 3 ครั้ง ผลที่ออก เฉลี่ย 9.8

ผิดประการใด แย้งได้นะครับ 

แล้วแต่ความชอบครับ แต่ออกเกียร์2ก็ต้องทำใจว่าจะต้องเปลี่ยนครัชไวหน่อยก็ลองคำนวนว่าระหว่างประยัดน้ำมันกับเปลี่ยนครัชไวพร้อมกับชุดเกียร์และเฟืองท้ายสึกหรอไวกว่าปรกติอันไหนน่าทำกว่ากัน  ดีแม็กนะไม่ใช่วีโก้

อย่างที่ได้เรียนไปล่ะครับ ว่าสุดท้ายก็อยุ่ที่เทคนิคของแต่ละท่าน อย่าง D-max คันเก่าผม ออกเกียร์ 2 ตลอด เลขไมล์ วิ่งที่ 370000 กม มันเพิ่งมีอาการครัชแข็ง ของแบบนี้ อย่างที่เรียนไปครับ ว่าอยุ่ที่เทคนิคของแต่ละท่าน 

แม้จะ D-max แต่ก็พอสู้ Vigo ได้นะ

[rampage]

ผมขับออกตัวเกียร์ 1 เกียร์ 2 แล้วแต่สถานการณ์ครับ ถ้าออกตัวเกียร์2 ก็เช่น จอดติดไฟแดงตอนฝนตกแรงๆ ,รถติดในเมืองค่อยๆออกเกียร์2ไหลไปเรื่อยๆ ถ้าออกตัวเกียร์1 ก็เช่น ออกตัวตอนไฟเขียว,ขึ้น-ลงทางลาดชัน ,ออกตัวไล่เขม่าค้างท่อ อิอิ

[G.V-CROSS]

ออกเกียร์ 1 ดีกว่าครับ มันเป็นพื้นฐานของการออกตัวที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ออกเกียร์สองแล้วเคื่องดับครั้งเดียวคงไม่เป็นไร แต่หลายๆ ครั้งเข้ามันก้ไม่ดีต่อชุดขับเคลื่อนแน่นอนครับ มันเหมือนกับเราดับเครื่องตอนเข้าเกียร์อยู่น่ะ

[nhongna]

สำหรับผมแล้วเกียร์1มีไว้ขึ้นเนินกับบรรทุกเท่านั้น
ไม่ควรออกตัวเกียร์2ขณะยูเทินและเลี้ยวตอนรถจอดสนิทผมเคยทำตอนกลางคืนเกือบสาร์ทเครื่องไม่ทันครับ