New D-Max Club Thailand : Dmax 1.9 ดีแม็กคลับ
ข้อมูล New D-max => คุณสมบัติรถ => ข้อความที่เริ่มโดย: nongjonaruk ที่ 20ม.ค.2012, 17:09:36
-
emo2 emo2
-
ก็ง่ายๆเลยนะครับ
1.ราคาถูกกว่า
2.ภาษีถูกกว่า
3.น้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดกว่า
ประมาณนี้ครับ
-
ก็ง่ายๆเลยนะครับ
1.ราคาถูกกว่า
2.ภาษีถูกกว่า
3.น้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดกว่า
ประมาณนี้ครับ
ผมแถมอีกข้อคับ มีคนใช้เยอะกว่าด้วย
-
เวลาจะขายเครื่อง 2.5 ขายได้ราคากว่าเครื่อง 3.0 ไม่เชื่อรองไปขายดู
-
เวลาจะขายเครื่อง 2.5 ขายได้ราคากว่าเครื่อง 3.0 ไม่เชื่อรองไปขายดู
emo10 emo10 emo36 emo36 ยังไม่ได้รถเลย น้าคิดถึงตอนขายแร้วเหรอ.. emo33
-
ตามนั้นเลยครับ
เว้นแต่ถ้าความแรงของ 2.5vgs ยังตอบสนองไม่ได้ก็ต้องไป 3.0 ล่ะครับ emo1
-
เว้นแต่ถ้าความแรงของ 2.5vgs ยังตอบสนองไม่ได้ก็ต้องไป 3.0 ล่ะครับ emo1
+1 emo30 emo30 emo30
-
emo4 emo4ผมก็ 2.5 emo4 emo4
-
ก็ง่ายๆเลยนะครับ
1.ราคาถูกกว่า
2.ภาษีถูกกว่า
3.น้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดกว่า
ประมาณนี้ครับ
แต่ผมขอเลือกเป็นเครื่อง 3.0 นะครับ
-
ก็ง่ายๆเลยนะครับ
1.ราคาถูกกว่า
2.ภาษีถูกกว่า
3.น้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดกว่า
ประมาณนี้ครับ
แต่ผมขอเลือกเป็นเครื่อง 3.0 นะครับ
เพราะอะไรคับ (ไม่ได้กวนนะคับ)แค่อยากรู้แนวความคิดคับน้า ขอบคุณคับ
-
ผมยังเน้นเเนวประหยัด 2.5 คับ Run in Standard 120 Km/Hr..... emo30 emo30
-
ก็ง่ายๆเลยนะครับ
1.ราคาถูกกว่า
2.ภาษีถูกกว่า
3.น้ำมันเชื้อเพลิงประหยัดกว่า
ประมาณนี้ครับ
แต่ผมขอเลือกเป็นเครื่อง 3.0 นะครับ
เพราะอะไรคับ (ไม่ได้กวนนะคับ)แค่อยากรู้แนวความคิดคับน้า ขอบคุณคับ
เพราะผมใช้เกียร์ a/t คิดว่าถ้าเป็น 2.5 คงจะอืดนิดนึ่ง อีกอย่าง วิ่งทางไกล 3.0 ประหยัดกว่าครับ ผมอยู่ต่างจังหวัดครับเหมาะกับเครื่อง 3.0 เพราะเพื่อนๆ ที่ใช้ 2.5 หลายคนบ่นกันครับว่าอืด รู้งี้เอา 3.0 ดีกว่า
-
รถแต่ละรุ่น เครื่องยนต์ 3000 หรือ 2500 ทำมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน
เครื่อง 2500 ใช่ว่าจะหยัดกว่า 3000 เสมอไป emo34
-
รถแต่ละรุ่น เครื่องยนต์ 3000 หรือ 2500 ทำมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน
เครื่อง 2500 ใช่ว่าจะหยัดกว่า 3000 เสมอไป emo34
ถะ..ถะ....ถะ..ถูกต้องแล้วครับ
ที่ผมเลือก 3.0 เพราะ จังหวะแซงไม่ต้องลุ้น ตอนบรรทุกหนักแล้วไม่อืด
ก็เลือกมาให้เหมาะกับการใช้งาน นะครับถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด
-
ใจผมเองจะเอารุ่น HR Cap4 2500 Z DVD emo11เพราะเคยขับรุ่น Di 3.0 LS 4WD เพราัะคิดว่ามันกินน้ำมัน emo4
แต่พอมาดูตัวรถจริงๆ Option ที่ได้ในรุ่น Z-Prestige ซึ่งเครื่อง 2500 ก็มีแต่เกียร์ AT ที่สำคัญผมคิดว่าอยากได้
Air Bag ด้วย เลยคิดว่าต้องเอาเป็นรุ่น 3000 Z-Prestige นี่หละ emo9 ชอบเกียร์ MT และมีOption Air Bag คู่ด้วย
แฟนก็โอเค พ่อก็เข้าใจ แม่บอกซื้อทั้งทีต้องจัดหนักๆไปเลย ช่างประจำบ้านก็โอ เรื่องน้ำมันไม่มีผลเพราะเป็นเซลล์ด้วย
แต่ถ้าอนาคตมี รุ่น 2500 Z-Prestige เกียร์ MT ล่ะ emo20
-
เน้นขับเรื่อยเปือย ไม่รีบก็จัด 2.5 ไป รีบหน่อยก็ 3.0
ผมเน้นประหยัดตังค่าน้ำมัน ถึงช้าหน่อยไม่เป็นไร เลือก 2.5 ครับ
ถ้ารีบๆก็ไปตั้งแต่เมือวานเเว้วว
-
2.5 ผ่อนน้อยกว่า 3.0
-
emo33 emo33 ผมว่า 3.0 น่าจะดีกว่า 2.5 นะ เพราะราคาแพงกว่า อุปกรณ์ครบกว่าคับ
-
ใจผมเองจะเอารุ่น HR Cap4 2500 Z DVD emo11เพราะเคยขับรุ่น Di 3.0 LS 4WD เพราัะคิดว่ามันกินน้ำมัน emo4
แต่พอมาดูตัวรถจริงๆ Option ที่ได้ในรุ่น Z-Prestige ซึ่งเครื่อง 2500 ก็มีแต่เกียร์ AT ที่สำคัญผมคิดว่าอยากได้
Air Bag ด้วย เลยคิดว่าต้องเอาเป็นรุ่น 3000 Z-Prestige นี่หละ emo9 ชอบเกียร์ MT และมีOption Air Bag คู่ด้วย
แฟนก็โอเค พ่อก็เข้าใจ แม่บอกซื้อทั้งทีต้องจัดหนักๆไปเลย ช่างประจำบ้านก็โอ เรื่องน้ำมันไม่มีผลเพราะเป็นเซลล์ด้วย
แต่ถ้าอนาคตมี รุ่น 2500 Z-Prestige เกียร์ MT ล่ะ emo20
ผมก็คิดเหมือนกันนะครับ น่าจะมี 2.5 เกียร์ธรรมดารุ่นท็อปบ้าง รับรองจัดเลยแน่ๆ emo10
-
เท่าที่รู้มาน่าจะมีอยู่ 2 ข้อเองนะครับ
ราคาซื้อถูกกว่า และเวลาขายต่อราคาไม่ตกมาก
เรื่องประหยัดน้ำมันคงไม่ใช่ครับ เพราะขึ้นอยู่กับการใช้งาน
-
ใช่คับเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลต่างกันไปตามเหตุตามปัจจัย
-
เท่าที่รู้มาน่าจะมีอยู่ 2 ข้อเองนะครับ
ราคาซื้อถูกกว่า และเวลาขายต่อราคาไม่ตกมาก
เรื่องประหยัดน้ำมันคงไม่ใช่ครับ เพราะขึ้นอยู่กับการใช้งาน
น่าจะตามนี้ครับ
-
เท่าที่รู้มาน่าจะมีอยู่ 2 ข้อเองนะครับ
ราคาซื้อถูกกว่า และเวลาขายต่อราคาไม่ตกมาก
เรื่องประหยัดน้ำมันคงไม่ใช่ครับ เพราะขึ้นอยู่กับการใช้งาน
ถูกต้องครับ + 1 emo10 emo36
-
ถ้าขึ้นเกีย5เเล้ว 3.0เซฟกว่า2.5คับ emo1
-
ผมก็ 3.0 ครับน้า ผมคิดว่ารถมันใหญ่ขึ้นครับน้า แล้วเรื่องอัตราการบริโภคน้ำมันก็คงไม่ต่างกว่ากันเท่าไหร่ เอาเวลาเร่งแซงสบายใจดีกว่าครับ ผมขับทางไกลบ่อย
-
ผมลองจินตนาการนะ เครื่อง 3.0 ใหญ่กว่า แบกตัวรถวิ่งสบายกว่า
เครื่อง 2.5 แบกตัวรถเหนื่อยกว่า เวลาวิ่งไกลๆ 3.0 ชิลล์กว่า วิ่งบรื๋อๆ ประหยัดกว่า 2.5
แต่ถ้าต้วมเตี้ยมอยู่ในเมื่อก็คงจะตรงข้ามกันเลยครับ
(ปล. ผมเคยใช้แต่รถเก่งคันเล็กๆเพิ่งจะเปลี่ยนเป็นกะบะคันแรกคับเลยจินตนาการไปเรื่อยคับ) emo4
-
ทางไกล ขนของเยอะๆ เครื่อง 3.0 อัตรการโหลดของน้ำหนัก มีน้อยกว่า 2.5 อยู่แล้วครับ เครื่องกำลังมีมากกว่า ไม่ต้องไปกด ไม่ต้องไปขยี้เหมือนเครื่อง 2.5 ครับ วิ่งที่ความเร็วเท่ากัน 3.0 รอบ ต่ำกว่าแน่นอน เครื่องมันกำลังมากกว่า จึงต้องลดรอบครับ ไม่งั้นรอบมันจะเหลือครับ แล้วก็รับประทานบรรลัยหละครับ เครื่อง 3.0 มันพาตัวมันไปได้อย่างสบายอยู่แล้วถึงรอบเครื่องจะต่ำกว่า เวลาเรียกแรง รอบ 3.0 กับ 2.5 จะกวาดไวเท่าๆกัน ในขณะที่ 2.5 ทดเฟืองมาจัดกว่าครับ
วิ่งในเมือง ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ถ้าขับแล้วเบรกบ่อย แล้วเหยียบต่อ 3.0 กินกว่าอยู่แล้ว ตามขนาดกระบอกสูบ แต่ก็ไม่ได้มากกว่ามากมายอะไร เพราะในขณะเดียวกัน 2.5 ต้องกดคันเร่งมากกว่า 3.0 ครับ รอบเดินเครื่องต้องใช้รอบที่สูงกว่า แถมน้ำหนักตัวรถที่ใกล้เคียงกัน ผมว่าใช้ 3.0 คุ้มกว่าในทุกรูปแบบ ขับในเมือง กินกว่า 2.5 ไม่เกิน 1-2 โลลิตรหลอกคับ
ที่เหลืออยู่ที่ Teen แล้วครับ ว่าเป็นคนเท้าหนักหรือปล่าว
(อย่าลืมว่าน้ำหนักรถเพิ่มขึ้นด้วยนะคับ ตัน7) เครื่อง 2.5 ใช่ว่าจะประหยัดกว่า 3.0 เสมอไปครับ มันมีปลายปัจจัย
-
2.5 แล้วใส่กล่องดันราง1ใบ น่าจะโอเคนะคับ
-
emo1 หลายเหตุผลเหมือนกันครับ แต่เลือกแล้ว 2.5 ครับ emo10
-
จอง 2.5 ไป อ่านความคิดเห็นแล้วท้อครับ ถอนจองดีกว่ามั้ยเนี้ยเหนื่อยรอ แล้วยังจะได้รถไม่ดีอีก เห้ออออออออ
-
เอาละสิ.. emo4 แต่ก็เลือก 2.5 emo15
-
ใจเย็นๆ เลือก2.5 emo17
ใจร้อนๆ เลือก3.0 emo20
-
emo20 น้าทั้งหลาย มันอยู่ที่ กะตัง คับ จบๆ
-
ใครเคยขับ 3.0 แล้วไปขับ2.5 จะรู้ว่า3.0 ต่างกันลับ....ไม่เชื่อลองๆไปถามคนที่เคยๆใช้ดู...
-
emo7 3.0 ของมันแรงครับ
-
จะ 2.5 หรือ 3.0 ก็ขับไม่เกิน 120-140 อยู่ดี รถก็ไม่ได้บรรทุกหนัก นั่งกันแต่คนในครอบครัว ความแรงความอืดสำหรับผมนั้นมันเกินความต้องการผมไปแล้ว แค่นี้ก็เหลือๆ และลักษณะการใช้งานที่ใช้อยู่ทุกๆวัน รถหลวงที่ใช้อีกคันเป็น Dmax i-teq 3.0 เทียบกับ HR 2.5 VGS แล้วค่าน้ำมันเดือนหนึ่งๆ ตัว 2.5 VGS ประหยัดกว่ากันหลายร้อยอยู่ครับ
อีกอย่างเพราะภาษีรายปีที่ถูกกว่า และราคารถที่ถูกกว่าด้วยครับ แปดแสนสำหรับกระบะคันหนึ่งผมว่ามันก็พอแล้ว นึกถึกตอนที่พ่อซื้อมังกรทอง สี่แสนยังมีทอน
เลยจบที่ 2.5 MT คิดว่ามันเหมาะสมกับการใช้งานของผมที่สุดแล้ว
-
2.5 Gooooo....
-
แล้วแต่การใช้งานคับ แต่ผม 2.5 คับ
-
ตอนแรกผมจอง2.5 แต่เปลี่ยนมา3.0เพราะคิวจองน้อยกว่า (น่าจะได้รถเร็วกว่า) เบาะหนัง ปรับไฟฟ้า เครื่องกำลังมากกว่าน่าจะไม่เหนื่อยเพราะautoด้วย
-
ผมเลือกเครื่อง 2.5 AT เพราะว่าผ่อนได้ตามเงินเดือนในกระเป๋าตังค์
และรถใช้แต่ในกรุงเทพไปไกลสุดก็มีนบุรีที่ทำงาน
ออกต่างจังหวัดก็เฉพาะวันเทศกาลสำคัญบ้านแฟน
และเรื่องค่้าภาษีแต่ละปีถูกกว่า
สบายใจเมื่อผ่อนพอมีเงินเหลือกิน สบายตัวเมื่อถึงสิ้นปีเสียภาษี สบายอุราเมื่อเติมน้ำมันครับ
ใจผมก็อยากได้ 3.0 At แต่ตังค์ในกระเป๋าไม่เอื้ออำนวยถ้าได้ก็คงขับมันดีแต่น้ำมันก็ตามเท้าเราเลยครับ
ทุกคนและครับขับเครื่องแรงมักเท้าหนักกันเพราะมันสนุกเวลาขับ แต่ทุกข์เวลาจ่ายค่าน้ำมันถ้าบริษัท์ไม่จ่ายค่าน้ำมันให้ครับ emo53 emo53 emo53
-
ทางไกล ขนของเยอะๆ เครื่อง 3.0 อัตรการโหลดของน้ำหนัก มีน้อยกว่า 2.5 อยู่แล้วครับ เครื่องกำลังมีมากกว่า ไม่ต้องไปกด ไม่ต้องไปขยี้เหมือนเครื่อง 2.5 ครับ วิ่งที่ความเร็วเท่ากัน 3.0 รอบ ต่ำกว่าแน่นอน เครื่องมันกำลังมากกว่า จึงต้องลดรอบครับ ไม่งั้นรอบมันจะเหลือครับ แล้วก็รับประทานบรรลัยหละครับ เครื่อง 3.0 มันพาตัวมันไปได้อย่างสบายอยู่แล้วถึงรอบเครื่องจะต่ำกว่า เวลาเรียกแรง รอบ 3.0 กับ 2.5 จะกวาดไวเท่าๆกัน ในขณะที่ 2.5 ทดเฟืองมาจัดกว่าครับ
วิ่งในเมือง ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ถ้าขับแล้วเบรกบ่อย แล้วเหยียบต่อ 3.0 กินกว่าอยู่แล้ว ตามขนาดกระบอกสูบ แต่ก็ไม่ได้มากกว่ามากมายอะไร เพราะในขณะเดียวกัน 2.5 ต้องกดคันเร่งมากกว่า 3.0 ครับ รอบเดินเครื่องต้องใช้รอบที่สูงกว่า แถมน้ำหนักตัวรถที่ใกล้เคียงกัน ผมว่าใช้ 3.0 คุ้มกว่าในทุกรูปแบบ ขับในเมือง กินกว่า 2.5 ไม่เกิน 1-2 โลลิตรหลอกคับ
ที่เหลืออยู่ที่ Teen แล้วครับ ว่าเป็นคนเท้าหนักหรือปล่าว
(อย่าลืมว่าน้ำหนักรถเพิ่มขึ้นด้วยนะคับ ตัน7) เครื่อง 2.5 ใช่ว่าจะประหยัดกว่า 3.0 เสมอไปครับ มันมีปลายปัจจัย
+100 ไปเลยครับพี่ เพิ่มเติมนิดเนิง ความคิดที่ว่า เครื่อง 3.0 กินน้ำมัน ผมว่ามันเป็นความเชื่อเดิมๆ และล้าหลังมากครับ รถสมัยนี้ไม่เหมือน สมัย10-20ปีที่แล้ว สมัยนี้เค้ามีเทคโนโลยีการผลิตที่ลดการใช้น้ำมันให้ได้มากที่สุด ถ้าคิดการกินน้ำมันตาม ปริมาต กระบอกสูบมันใช่ครับ ใหญ่กว่าย่อมกินน้ำมัน แต่ต้องคิดถึงหลายๆปัจจัยคับ น้ำหนัก พฤติกรรมการขับ สภาพแวดล้อมที่ต้องใช้รถประจำ เช่น อยู่ในย่านที่รถติดก็ 2.5 Auto
สบายหน่อย ถ้า ย่านชานเมืองออกต่างจังหวัดเน้นสบายๆก็ 3.0 M/T หรือ Auto ก็แล้วแต่ความมันส์ส่วนบุคคล
อิอิ
-
ผมก็2.5 M/T ไม่ได้บรรทุกคับทุกแต่เมียกับลูกซื้อมาจอดใช้เสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาซิ่งมอไซค์แทนคับ ขี้เกียจตื่นเช้าคับเส้นเทพารักษ์ติดทุกวันยิ่งศรีนครินทร์ด้วยแล้วจบเลย เลยซิ่งมอไซค์ไวกว่าคับ emo55
-
เครื่อง 2.5 เลยครับ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับการใช้งานโดยทั้วไป ไม่บรรทุกมากมายอะไร พอเพียงดีครับ.....
แต่ผมใช้ 3.0 ครับ เหตุผลคือพอใจใช้แบบนี้ครับ....
-
emo1 2.5.ในเมือง3.0นอกเมืองดูการใช้งานก่อนจะซื้อคับ แต่ผมขับ3.0มะค่อยได้ มันมันส์เท้าครับที่เค้าว่าขับดีๆประหยัดกว่า2.5งะ แต่ผมขับที่ไรเหยียบทุกที
-
ทางไกล ขนของเยอะๆ เครื่อง 3.0 อัตรการโหลดของน้ำหนัก มีน้อยกว่า 2.5 อยู่แล้วครับ เครื่องกำลังมีมากกว่า ไม่ต้องไปกด ไม่ต้องไปขยี้เหมือนเครื่อง 2.5 ครับ วิ่งที่ความเร็วเท่ากัน 3.0 รอบ ต่ำกว่าแน่นอน เครื่องมันกำลังมากกว่า จึงต้องลดรอบครับ ไม่งั้นรอบมันจะเหลือครับ แล้วก็รับประทานบรรลัยหละครับ เครื่อง 3.0 มันพาตัวมันไปได้อย่างสบายอยู่แล้วถึงรอบเครื่องจะต่ำกว่า เวลาเรียกแรง รอบ 3.0 กับ 2.5 จะกวาดไวเท่าๆกัน ในขณะที่ 2.5 ทดเฟืองมาจัดกว่าครับ
วิ่งในเมือง ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ถ้าขับแล้วเบรกบ่อย แล้วเหยียบต่อ 3.0 กินกว่าอยู่แล้ว ตามขนาดกระบอกสูบ แต่ก็ไม่ได้มากกว่ามากมายอะไร เพราะในขณะเดียวกัน 2.5 ต้องกดคันเร่งมากกว่า 3.0 ครับ รอบเดินเครื่องต้องใช้รอบที่สูงกว่า แถมน้ำหนักตัวรถที่ใกล้เคียงกัน ผมว่าใช้ 3.0 คุ้มกว่าในทุกรูปแบบ ขับในเมือง กินกว่า 2.5 ไม่เกิน 1-2 โลลิตรหลอกคับ
ที่เหลืออยู่ที่ Teen แล้วครับ ว่าเป็นคนเท้าหนักหรือปล่าว
(อย่าลืมว่าน้ำหนักรถเพิ่มขึ้นด้วยนะคับ ตัน7) เครื่อง 2.5 ใช่ว่าจะประหยัดกว่า 3.0 เสมอไปครับ มันมีปลายปัจจัย
อ่านความเห็น น้าเเล้ว ผมดีใจ ที่เลือก 3.0 a/t ขับในกทม เป็นหลักคับ ยอมเรื่องน้ำมันที่กินมากกว่า
เเต่ สบายมากเลยคับ ไม่เมื่อย ไม่เครียด มือซ้ายว่าง อิอิ
-
กระจ่างแล้วแต่การใช้งานแต่ละสภาพพื้นที่...ผมขับในเมืองเลือก 2.5 แล้วกันไม่ค่อยได้แว็น emo52
-
...ต่างกันไม่เท่าไหร่หรอกครับ...3.0 กับ 2.5 ทั้งน้ำมันและความแรง...
-
เวลาจะขายเครื่อง 2.5 ขายได้ราคากว่าเครื่อง 3.0 ไม่เชื่อรองไปขายดู
แล้วทำไมผมขายvigoเครื่อง3.0 ได้แพงกว่า 2.5ละ รุ่นG เหมือนกัน ไม่แน่เสมอไปนะคับ
อยู่ที่องประกอบอย่างอื่นด้วย emo45 emo45
-
ผมก็เลือก3.0 M/T เรื่องน้ำมันผมว่า อยู่ที่การใช้งานแต่ละแบบครับ
แต่เมื่อได้ขับ3.0 แล้ว บอกได้คำเดียวว่า นี่แหละคำตอบที่ลงตัวสำหรับผม
-
หลายความคิดอะครับ
-
เวลาจะขายเครื่อง 2.5 ขายได้ราคากว่าเครื่อง 3.0 ไม่เชื่อรองไปขายดู
แล้วทำไมผมขายvigoเครื่อง3.0 ได้แพงกว่า 2.5ละ รุ่นG เหมือนกัน ไม่แน่เสมอไปนะคับ
อยู่ที่องประกอบอย่างอื่นด้วย emo45 emo45
ช่ายเลยครับ 3.0ของวีโก้จะแพงกว่า2.5 อุปกรณ์ก็ดีกว่า ขายได้แพงกว่า 2.5 แน่นอน
แล้วยิ่งถ้าเป็นโตโยต้า ตัว3.0จะเป็นส่วนใหญ่ ตัว2.5เป็นส่วนน้อย คนเลยเล่น3.0เยอะราคาก็ไม่ตก
ซื้อรถส่วนใหญ่จะอยู่ที่งบมากกว่า งบถึงรุ่นไหนเล่นรุ่นนั้น (ต้องดูที่การใช้งานของตัวเองด้วย)
-
ชอบรุ่นไหนก็จัดเลยครับ
-
ผมไม่มีเงินครับ แค่ 2.5 VGS ก็ทุบกระปุกหมดทุกอันละ 5555
-
เพิ่งรับมา เมื่อวาน Hilander 4Dr 2.5 vgs Z - Pres a/t สีดำ ขับมันส์
แต่ดีวีดีทำไมดูหนังไม่มีภาพครับ ลงเบรคมือแล้วก็ยังไม่แสดงภาพอีก ต้องกดตรงไหนอีกครับ อย่างอื่นใช้ได้ปกติครับ kenwood ครับใน ได้แล้วครับ เข้าศูนย์จัดสายไฟเบรคมือ ตอนนี้ แจ่ม
-
จนมาถึงวันนี้ เอาเป็นว่าใครชอบเครื่อง 2.5 หรือ 3.0 ก็จัดไปครับ ตามเหตุผล ความจำเป็น และงานใช้งานครับ
-
เพิ่งจอง 2.5 auto ไปครับ ไม่อยากให้เครื่องรับโหลดเกินไป โดยเฉพาะที่ก้านสูบ emo1
-
emo54 emo54
-
ผมก็เลือก 3.0 mt zp ครับ ผมเน้นออฟชั่นและระบบความปลอภัยครับ เป็นรถคันแรกของผมด้วย เครื่อง 2.5 z dvd MT มันมีไม่ครบ มันมีแต่ใน AT แต่ผมใช่เกียร์ mt ผมเลยแลือก3.0 ถึงจะราคาสูงกว่า แต่ถ้าลองคิดดูว่าอุปกรณ์ต่างในเครื่อง 2.5 z dvd mt กับ 3.0 zp mt มันต่างกันหลายรายการเหมือนกันครับ ผมเลยตัดสินใจเลือกรุ่นนี้ เพราะยังไงมันก็เป็น รถของเรา ปลอดภัยไว้ก่อน emo25 emo25 emo25
-
ใจอยยากได้ 3.0 แต่ ผบ ไม่อนุมัติ เลยได้แค่ 2.5 AT แต่ขับไปเรื่อยๆ 2.5 ยังเหลือๆ รอบไม่เคยเกิน 2500 รอบเลย 7000 โลแล้ว
-
ตอนผมซื้อรถ เมียผมไม่เคยเข้ามายุ่งเลย จะเอา2.5 หรือ 3.0 ถามมาคำเดียวเขาเเถมอารายบ้าง ผมก็บอกไปคำเดี๋ยวเหมือนกัน ไม่เเถมอารายเลย emo22
-
ถ้าเงินไม่ใช่อุปสรรคผมก็อยากได้ HR 4D 3.0 ตัวท้อป
แต่เท่าที่ใหว สถานะรอ HR 4D 2.5 VGS Z DVD ครับ